

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ผมนี้ไปแบบฉุกละหุก เลยอดได้เสื้อเลยครับ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้า่ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

ขอบคุณคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

กลับมาแล้วคร้าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ต้องขอโทษที่ให้รอนานนะครับเรามาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

เช้าวันที่ 19ที่ผ่าน ผมต้องรับหน้าที่ เก็บภาพกิจกรรมปล่อยปลาการ์ตูนครั้งที่12 ของโรงแรม เพื่อใว้ประชาสัมพันธ์ผ่านเว็ปไซต์ และเฟสบุ็คของโรงแรม สำหรับผม ปีนี้เป็นปีที่5 ของการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ และเป็นปีแรกที่กระโดดลงเรือตามไปเก็บภาพถึงเกาะ5 เนื่องจากโดนเจ้านาย และGM ถามทุกปีว่าทำไมไม่มีภาพบรรยากาศที่เกาะ5 ปีนี้เลยรีบเคลียร์งาน และจ่ายงานให้ลูกน้อง หัวหน้า รับไปทำต่อครับ

ระหว่างรอสมาชิค ท่านอาจารย์ก็ เล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเกาะ5 ให้ลูกค้า ที่สนใจร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กับเรา

ผมขอเล่าความเป็นมาของกิจกรรมนี้สักหน่อยนะครับ กิจกรรมนี้เกิดขึ้นโดยเจ้านายของผมเป็นผู้ริเริ่มขึ้นมา เมื่อ12ปีที่แล้ว หรือหลังจากที่โรงแรมเปิดได้2ปี เนื่องจากเจ้านายชอบไปดำน้ำที่เกาะ5 ตกปีละ2-3ครั้ง เพราะเกาะ5 เป็นแหล่งดำน้ำลึก หรือสคูบ้า ที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆของเมืองไทย และของโลก แต่สังเกตุว่าพักหลัง กองดอกไม้ทะเลของเกาะ5 ว่างเปล่า ไม่มีปลาการ์ตูน เนื่องจากมีคนแอบมาจับไปขาย เพราะช่วงนั้นเกิดกระแสนิยมการจัดตู้ปลาน้ำเค็มกันในเมืองไทย แต่เทคโนโลยีการเพาะพันธุ์สัตว์ทะเลสวยงาม ในบ้านเรายังไม่ก้าวหน้า สัตว์ทะเลพวกนี้จึงมีราคาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะปลาการ์ตูนและม้าน้ำ ที่ประสปเคราะกรรมนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

ใน2ปีแรกของการปล่อยปลาการ์ตูน และม้าน้ำ เจ้านายเริ่มทำกันเงียบๆภายในครอบครัว และเพื่อนฝูง ไปกันแค่เรือลำเดียว ดำน้ำลงไปปล่อยปลาตามกองดอกไม้ทะเลคราวละ 100กว่ากอง แต่ก็ไม่ประสปความสำเร็จ ปลาการ์ตูนที่ปล่อยไป โดนปลาอื่นกินเรียบ เนื่องจากปลาที่นำมาปล่อย เป็นปลาที่เพาะในบ่อเพาะ และเป็นลูกปลาที่ยังเล็กมาก ปลาเหล่านี้ไม่เคยรู้ว่ากองดอกไม้ทะเล คือบ้านที่ปลอดภัยของเค้า เมื่อนำไปปล่อย ก็ไม่ยอมเข้ากอง ทำให้โดนปลาอื่นกินได้ง่ายๆ สรุป2ปีที่ปล่อยไปล้มเหลว เปอรืเซ็นต์การรอดเป็นศูนย์

ต่อมาเจ้านายก็เอาเรื่องนี้ไปปรึกษา ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เพราะเป็นอาจารย์ที่ มหาลัยด้วยกัน และท่านดร.ธรณ์ (ซึ่งต่อไปนี้ผมจะเรียกท่านว่าอาจารย์)ก็เป็นนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับท้องทะเลของไทยเป็นอย่างดี และท่านอาจารย์ก็ตอบตกลง โดยการช่วยคัดเลือกสายพันธุ์ปลา และพานักศึกษามาช่วยปล่อยและทำวิจัย แต่ปีที่ 3-4 ก็ยังล้มเหลวอยู่ดี เนื่องจากไม่มีใครคิดว่าปลาที่ปล่อยเข้าไปในกองดอกไม้ทะเล จะออกมาให้ปลาอื่นกินเมื่อทุกคนกลับขึ้นเรือแล้ว

จนปีที่5 ท่านอาจารย์ เลยพานักศึกษามาทำวิจัยอย่างจริงจัง โดยการเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของลูกปลาตัวอย่าง ก่อนการปล่อยจริงๆก่อน ทำให้รุ้ว่า ปลาปฏิเสธกองดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นที่หลบภัยทางธรรมชาติของเค้า จึงลองทำกรงตาข่ายมาครอบกองดอกไม้ทะเลแล้วขังลูกปลาใว้ก่อน ก็เริ่มมีเปอร์เซนต์รอดเพิ่มขึ้น แต่เนื่งจากกรงที่นำไปครอบ เป็นตาข่ายกรงไก่ธรรมดา บางกองลูกปลายังไม่ทันคุ้นชินกับกองดอกไม้ทะเล กรงก็ผุซะก่อน ทำให้ลูกปลาโดนกินเหมือนเดิม แต่ก็มีบางกองที่หลงเหลืออยู่บ้าง ทำให้เรารู้ว่าเราเริ่มถูกทางแล้ว

ปีต่อมาเราเริ่มทำกรงตาข่าย แต่ก็เกิดปัญหาใหม่ คือเรากลัวกันว่ากรงต่าข่ายนี้ จะโดนกระแสน้ำซัดพา ทำให้กลายเป็นขยะในทะเล ก้เท่ากับว่าแทนที่เราจะไปช่วย กลับกลายไปว้ำเติมทะเล และอีกปัญหานึงคือ ไม่มีคนคอยสังเกตุพฟติกรรมของปลา ว่าเมื่อใหร่ถึงควรจะเอากรงออก และเก็บกรงขึ้นฝั่ง ก็ได้ทาง สคูบ้าฟิช ที่อาสาเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ นอกจากการเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำให้คณะ และการพา๕ณะปล่อยปลามายังแหล่งดำน้ำแล้วครับ

จนปีที่ 7เราจึงประสปความสำเร็จ ปลามีเปอร์เซ็นต์การรอดเป็นที่น่าพอใจ เราจึงใช้แนวทางนี้ในการปล่อยปลาการ์ตูนเรื่อยมาครับ

ถ่ายภาพหมู่กันหน่อย หลังจากนี้ผมขอเล่าเรื่องด้วยภาพถ่ายนะครับ เพราะกลัวกระทู้จะยืด เดี๋ยวจะไม่มีเวลาโพสจนจบครับ

เจ้คนนี้ ไม่รู้แกตื้นตันใจ หรือเสียใจที่โดนอาจารย์ลากมาถึงเกาะลันตาครับ