

) แต่สิ่งนึงที่ได้เยอะกว่าจำนวนปลานั้น คือ ความประทับใจ ความสนุก ความสุข ฯลฯ ที่ไม่คิดว่า ทริปตกปลาืทริปนึง จะสามารถทำให้ได้ถึงขนาดนี้ เป็นทริปที่จะเรียกว่า " Adventure on the Boat " เลยก็ว่าได้ สำหรับผม เรามาเข้าชมเรื่องราวของทริปนี้กันเลยดีกว่าครับ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร แต่ก่อนอื่น ผมอยากให้ เพื่อนๆนักตกปลาทุกท่านที่ชมกระทู้นี้ รับชมคลิปที่ผมอุตส่าห์ นั่งตัดต่อ อดตาหลับ ขับตานอน กันก่อนครับ
ไม่เท่ห์ ไม่เล้า แต่ตั้งใจ เพื่ออยากให้เพื่อนๆนักตกปลาชมบรรยากาศ ในรูปแบบ ภาพเคลื่อนไหว แล้วค่อยเข้ามาชมเรื่องราวในกระทู้เต็มๆ ลองๆดูนะครับ เพราะตัวผมตั้งใจที่จะถ่ายทอด ความรู้สึกดีๆ ความประทับใจ ทั้งหลายของการออกทริปในครั้งนี้ ลงในกระทู้นี้ให้ได้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ เชิญเพื่อนๆนักตกปลาทุกท่าน รับชมกันได้เลยครับ
( การเล่าเรื่องราวในกระทู้นี้ เกิดจากรูปภาพจากกล้อง 2ตัว ผมจะพยายามเอามาปะติดปะต่อให้เป็นเรื่องราวเดียวกันเลยนะครับ เพื่อที่เพื่อนๆนักตกปลา จะได้รับชมที่เดียวเลย ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา อีกอย่างรูปถ่ายมาเยอะมากๆครับ อยากเอาลงให้หมด ไม่อยากลบทิ้ง เสียดาย เลยอยากเอามาให้เพื่อนๆนักตกปลาได้ชมกัน ให้จุใจไปเลย)


) ทริปนี้ ผมลงบริเวณ " วนอุทยานแห่งชาติน้ำตกก้อ (หมายเลข 1)" หรือที่เรียกว่า " ท่าก้อ " นั้นเอง ซึ่งต้องขับเรือสปีด ( 50 แรง) ไปยังที่พัก สำหรับ นอนในคืนแรก ซึ่งเป็นแพชาวบ้าน (หมายเลข 2) ก่อนถึง เขาคันเบ็ด เป็นระยะทาง เกือบๆ 60 กิโลเมตร โดยประมาณ(สำหรับพักคืนแรก) ต้องบอกเลยว่า นั่งเรือหายอยากเลยครับ
ใช้เวลาประมาณ เกือบๆ ชั่วโมง ( ถ้าไม่แวะตกปลาีท่ไหนก่อน) และเดินทางในเที่ยงของวันที่2 ไปนอนที่ แพชาวบ้านที่รับซื้อปลาจากประมงท้องถิ่น (หมายเลข 3) "ลองดูภาพประกอบนะครับ" และที่แพแห่งนี้ พวกผมพักกัน 2 คืน คือ คืน ที่ 2 และ 3 ผมขออธิบายให้เพื่อนๆเข้าใจ รายละเอียดของทริปนี้ก่อน กลัวเพื่อนๆจะงงกัน
เล่ามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ว่าเรื่องราวเป็นไงมาไง

และเมื่องาน JDM ได้สิ้นสุดลง มีหรือที่ตัวผมจะไม่ไปตกปลาที่ไหน ก็เลยจองทริป "เขื่ือนภูมิพล" ต่อจากงานนี้เลย เป็นอภินันทนาการ จาก " พี่ทู " ที่อุตส่าห์รอให้ผมออกงานนี้เสร็จ แล้วรอเดินทางไปพร้อมกัน ในคืนวันจันทร์ .............. 

แต่ผมไปลงหลังเขื่อนอ่ะดิ เลยไม่ได้เข้า

