

นี่คือ... สภาวะอากาศขณะที่เรากำลังเดินทางออกจากท่าเรือระนอง ไปยังเกาะสอง เพื่อทำวีซ่าออกเรือตกปลาในน่านน้ำของประเทศพม่า
(มันคือ ผ้าใบกันสาด ที่ม้วนอยู่บนชั้นสองข้างๆ ตัวผมนี่แหละครับ เห็นน้ำมันขังและหยดน้ำ ปลิวหยดมาที่ผมตามแรงลม ผมก็เลยจับมาเป็นนายแบบซะเลย)

พิธีกรรมบวงสรวงแม่ย่านางเรือ ไม่ได้ดึงดูดเฉพาะความสนใจของอามีร นักตกปลาตัวน้อยบนเรือแต่เพียงผู้เดียวซะแล้ว



ในขณะที่ทุกคนกำลังอร่อยกับอาหารมื้อแรกบนภัตราคารลอยน้ำอยู่นั้น ผมยังไม่ได้ลงมือลิ้มรสชาดของอาหารมื้อแรกบนเรือเลยครับ เก็บภาพใบนี้แล้วจะวางกล้องจัดการกับมื้อแรกบนเรือซะที



ประติมากรรมอันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสอง หลายปีผ่านไป ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าสภาพแสงจะเปลี่ยนไป
...แต่มีสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม และเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ ผันแปรไปตามกาลเวลาและตัวแปรทางเศรษฐกิจ (นอกจากจิตใจคนแล้ว) นั่นก็คือ ป้ายโฆษณา
![ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ [u]เพิ่มเติม[/u] ขึ้น(ไม่อยากใช้คำว่า พัฒนา) ในขณะที่เรือเทียบท่าที่เกาะสอง คือ](../_pictures/board/upload2014/201412/14180990184568.jpg)
ลดภาระต้นทุนหน้าร้าน เจาะลึกถึงกลุ่มเป้าหมาย และก็ปิดการขายได้ในที่สุด

เมื่อการค้าขายระหว่างประเทศได้ปิดฉากลง ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ ตม. พม่าก็เดินทางมาตรวจคนและเอกสารเรือ เพื่อทำวีซ่าเข้าไปตกปลาในน่านน้ำพม่า
(ภาพนี้หลุดโฟกัส เพราะรีบถ่าย ไม่อยากให้นายแบบรู้ตัว...เอ้า! ฝีกต่อไป)

การตรวจตรา คงต้องใช้เวลาเพียงซักพักหนึ่งละครับ
ในเมื่ออีกตั้งสี่ซ้าห้าวัน ผมจะไม่ได้เหยียบแผ่นดินนอกจากพื้นกระดานเรือนั้น ยังไงก็ขอกระโดดขึ้นฝั่งพม่า ดำเนินตามพิธีการส่วนตัวของผมนิดหน่อยล่ะกัน
มันเป็นธรรมเนียมของผมไปซะแล้ว นั่นคือ การเก็บภาพมุมนี้ ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสมาที่นี่


แม้ว่าพิธีการตรวจคนเข้าเมืองยังดำเนินต่อไป...แต่การค้าขายระหว่างประเทศนั้น ได้ปิดฉากลงไปล่ะครับ (คนขายเดินไปโน่นแล้ว)

ขอบคุณเจ้าหน่อย...จุมโพ่ ฝีมือดีประจำเรือ ที่เป็นนายแบบสำหรับภาพนี้)

“เล่าให้ครบ จบในภาพเดียว” เป็นคำพูดของพี่เล็ก-แปดริ้ว ที่ยังก้องอยู่ในหัวของผมเสมอ ทุกๆ ครั้งก่อนกดชัตเตอร์...ภาพนี้ก็เลยหามุม เอาประติมากรรม ตัวอักษร และธงชาติ เข้ามาประดิดประดอยอยู่ในภาพเดียวกันเลย กลัวจะเดาไม่ออกว่าผมมาถ่ายภาพนี้...ที่ไหน? (ได้บ้างไม่ได้บ้าง ตามแบบอย่างที่ครูได้สอนมานั้น ก็พยายามฝึกฝนกันต่อไปน่ะครับ)