





แต่ตอนนี้ผมเอาไปวางไว้ที่บ้านไหนล่ะวุ้ย) แต่ราคาของหนังสือก็ทำให้ต้องคิดแล้วคิดอีก กว่าจะตัดสินใจซื้อแต่ละเล่ม

ผมก็เจอภาพนี้อยู่ตรงหน้าผมพอดี มีเพียงถนนเส้นเล็กๆ เท่านั้น ที่กั้นระหว่างผมกับสองคนนี้ และผมก็เคยนำเสนอภาพนี้ไปแล้วครั้งหนึ่งในกระทู้ภาพถ่ายของผมเช่นกัน...มันเป็นภาพ “ความเหมือน ที่แตกต่าง” ในสายตาของผมครับ "ทั้งสองคนกำลังทำงานเหมือนกัน...แต่ในความที่เหมือนกัน ก็ถูกป่ะปนไปด้วย "ความแตกต่าง" คลุกเคล้ากันไปเช่นกัน"...เสมือนสัญลักษณ์ หยิน หยาง ไหมครับ?







ที่สถานีนี้ จะมีบริการรถทัวร์ 2 ชั้น พาเราเดินทางจากสถานีนี้ไปยังสโตนเฮ้นกัน ราคาค่ารถเดินทางไป-กลับก็ประมาณ 20 ปอนด์ (60x20=พันกว่าบาท
) โชคดีล่ะครับที่ซื้อไป เพราะมันไกลพอสมควรและอากาศหนาวมากๆ ฝนก็ตก ลมก็พัดกรรโชก ครบเครื่องสภาวะอากาศที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกันเลยล่ะครับ

แต่ผีเดินทางมาถึงป่าช้าแล้ว ถ้าไม่เผาก็ต้องฝังกันอย่างหนึ่งอย่างใดล่ะว่ะ เสื้อผ้าหนาๆ ที่เตรียมไปจากเมืองไทย มันใช้ไม่ได้สำหรับอากาศแบบนี้เลยครับ
ไปเมืองหนาว ก็ต้องซื้อเสื้อผ้าที่เมืองหนาวเท่านั้นครับ นี่คือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากทริปสโตเฮ้นที่แสนเย็นยะเยือกในครั้งนี้...แต่ก็ยังแอบมีภาพอันอบอุ่นในอุโมงมาฝากน่ะ

...ตัดภาพมาอีกวันน่ะครับ วันนี้ เราเดินทางไปที่เมือง Bath เป้าหมายหลักมี 2 อย่างคือ ไปนั่งกินร้านอาหารที่เก่าแก่ที่สุด และไปดูอ่างอาบน้ำร้อนสมัยโรมัน



ระหว่างที่ผมนั่งกินข้าวเที่ยงยามบ่ายแกล้มเบียร์อยู่นั้น ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูร้านแห่งนี้ ไม่ขาดสายจริงๆ
อ่านดูประวัติของร้านแล้ว เชื่อละครับว่าร้านนี้เปิดมานานมากๆ จริงๆ