


เราเดินทางออกจากเกาะสองช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง (บวก/ลบ นิดๆ) ฟ้าก็ยังไม่เปิด ไม่เป็นใจให้ผมได้ถ่ายภาพเอาซะเลย
แต่อย่างน้อยก่อนเดินทางออกจากเกาะสองนั้น ผมก็ยังพอจะได้ภาพนี้ติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง(เกือบถอดใจซะแล้ว)


ก่อนที่เราจะเดินทางไปถึงหมายตกปลากันในค่ำคืนแรกนี้ (ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่บ่ายโมง มาถึงหมายตอนประมาณตีสอง)
ผมก็ยังแอบหวังเล็กๆที่จะได้ภาพดวงอาทิตย์เปลือยกายล้อนจ้อนลงอาบน้ำทะเลให้ได้ชมกันบ้าง
แต่สุดท้าย ก็ได้แค่ภาพที่ผมแอบออกมากราบขอความหวังเล็กๆ น้อยๆ จากแม่ย่านางแทน
...มันก็ต้องอาศัยทั้งโชค ทั้งเครื่องรางของขลังกันบ้างอ่ะน่ะ กว่าจะได้ภาพมาแต่ละใบ

ตกปลาในค่ำคืนแรกนั้น...ไม่ต้องหวังว่าผมจะหยิบกล้องถ่ายรูป ออกมาจากกระเป๋าเพื่อเก็บภาพ
...ง่ายๆ กับคำถามที่ถามตัวเองว่า ระหว่างตกปลากับถ่ายรูป จะเลือกอะไร?
...ภาพนี้จึงต้องตัดมาตอนสายๆ ของอีกวันเลยครับ (รู้คำตอบกันล่ะน่ะ?)

หมายนี้เริ่มตอนเช้าวันที่สอง ในระดับน้ำลึกสองร้อยกว่าเมตร
ผมกับป๊อกแอบคุยกันอย่างเสียงดังๆให้ได้ยินกันแค่สองคน ว่าเราอยากจะปั่นปลาเก๋าถ่าน โดยไม่ใช้รอกไฟฟ้า จัดปั่นกันแบบ Manual วัดพลังกันเลยเอาไหม? ผมเอ่ยปากชวน...แต่แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงตอบใดๆ จากเจ้าป๊อกเพื่อนผมเลยครับ (
ขอบคุณมากๆ เลยน่ะเฟ้ย ที่ไม่ตอบรับคำชวน...เค้าขอโทษที่พูดออกไปโดยไม่ดูสังขารตัวเอง)

ในภาวะหุ้นขึ้นที่ระดับน้ำลึกสองร้อยกว่าเมตร ไอ้เรามันคนทุนน้อยด้อยสังขาร จะไปตามลงทุนช้อนซื้อหุ้นในระดับความลึกขนาดนั้นก็ใช่ที่ (เก็บแรงไว้ Jig ดีกว่า)
...(โชคดีที่เปลี่ยนใจ)คิดได้แบบนั้น...งั้นเราก็ขอถ่ายรูปละกันน่ะ (เกือบไปแล้วไหมล่ะ?)



ผลการลงทุน มิได้ตอบแทนเฉพาะนักลงทุนเพียงเท่านั้น การลงทุน ยังได้สร้างโอกาสอาชีพใหม่เกิดขึ้นบนเรืออีกด้วย
นั่นก็คือ นายแบบ และช่างภาพ หน้าตาใหม่ให้ประดับวงการเสมอๆ

ผมพูดถึงการลงหุ้น การลงทุน กันมาซะหลายภาพแล้ว คราวนี้เรามาดูอุปกรณ์ใหม่ถอดด้าม สำหรับใช้ลงทุนตกหุ้นในระดับความลึกสองร้อยกว่าเมตรมาให้ดูให้ชมกันก่อนน่ะครับ
ตัวนี้ เท่าที่ผมได้มีโอกาสไปหยิบจับ ลูปๆ คลำๆ มาแล้วนั้น นับว่าฝีไม้ลายมือของเจ้าตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยครับ


นี่คือ...โฉมหน้าของผู้กล้า ท้าทดสอบพลังในการ Jig
ที่ระดับความลึกสองร้อยกว่าเมตร ท่ามกลางการลงทุนในระดับรอกไฟฟ้า (ไม่รู้ว่าจะเป็นแมงเม่า บินเข้ากองไฟหรือเปล่าอ่ะน่ะ?)

