

วิ้ดวิ้วววว.... ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า หลังมีข่าวล่าจากแดนไกลบอกเล่าและชักชวนมาว่า ถิ่นแห่งนี้มีชะโดชุกชุม และชอบชุมนุมไล่กัดลูกปลากันให้เจี๊ยวจ๊าว...สร้างความตื่นตระหนกแก่ชาวบ้านในละแวกเป็นอย่างยิ่ง... ได้ฟังเยี่ยงนี้ เห็นทีจะปล่อยรอกและคันให้อยู่เฉยๆ มิได้แร้นน....
....ว่าแล้วก็ไปตะลุยกันเรยครับ...555
ชะโด...ชะโด...
ณ ที่แห่งนี้เป็นลำคลองสายหนึ่งของหุบเขาเขต อ.เขาสมิง น้ำไหลเชี่ยวกราดผ่านกำแพงดิน อันเป็นพื้นที่ทำสวนผลไม้ของชาวบ้านท้องถิ่นตลอดทั้งปี... ในแต่ละปีจะมีโอกาสตกได้เพียงครั้งเดียว นั่นคือ ช่วงปลายปีก่อนเข้าฤดูหนาว หรือ ราวเดือน พฤศจิกายน-มกราคม หากล่าหรือก่อนฤดูช่วงนี้ จะมีฝนตกกระหน่ำ ซัมเมอร์เซลล์ จนน้ำเอ่อท่วม , ขุ่นหมอง จนไร้ปลาล่าเหยื่อ อย่าง ชะโด , กระสูบ , พลวง และ จักรพรรดิ ฯลฯ มาไล่กัดลูกปลาให้เห็น...

เมื่อจังหวะลงตัว ผมจึงนัดแนะกับพี่นารถ หนุ่มชาวสวนท้องถิ่นที่รักการตีเหยื่อปลอม จนเก็บหอมรอมริบร่วมทุนซื้อเรือพลาสติกกับผม หรือที่รู้จักกันว่า "เรือให้อาหารกุ้ง" เพื่อมารองรับเกมส์ฟิชชิ่ง ตามที่หัวใจเรียกร้อง...

หลังความทุลักทุเลกับการยกเรือลงที่ลาดชัน สู่ผืนน้ำอันน้อยนิดเป็นที่เรียบร้อย ก็สะกิดหัวใจนักตกปลาอ้วนๆ อย่างผมให้คิดว่า "วันนี้ตรูจะรอดมั้ยเนี่ย" เพราะเรือลำเดียวกันนี้เคยพยศ ให้ผมต้องตกน้ำมาถึง 2 ครั้ง 2 ครา เปียกปอนไปทั่วทั้งตัว รวมถึง "จีสตริง" ...555 .... ตอนนั้นตกในอ่างเก็บน้ำ...แต่ตอนนี้เป็นลำน้ำที่เชี่ยวมากๆ ...มันก็ต้องคิดเป็นธรรมดาใช่มั้ยครับ...แต่ใจอยากตกปลา ก็คงยากส์ที่จะมีอุปสรรคใดๆ มาขวางกั้น...

ระหว่างเดินเรือ... ผมก็ได้คุยกับพี่นารถ ชาวบ้านท้องถิ่น ที่คลุกคลีกับการตกปลาในลำน้ำแห่งนี้มาเกือบค่อนชีวิต ... และก็ได้ข้อมูลมาว่า ลำคลองแห่งนี้ มีน้ำไหลตลอดทั้งปีจากต้นน้ำแห่งหนึ่งในเขตเขาสมิง

ในแต่ละวังน้ำ จะมีปลากระสูบรอดักจับลูกปลา เหยื่อที่พี่นารถแนะนำ คือ "สปูน" เพราะเป็นเหยื่อที่ใช้ได้ผลดีกับลำน้ำสายนี้ เนื่องจากความกว้างลำน้ำไม่มากและน้ำใส การเห็นเหยื่อของปลานักล่าอย่างกระสูบ จึงไม่ยากส์นัก... 
แต่ผม ประเภทพวกแหกกฎ... จึงหยิบป๊อปเปอร์ เหยื่อประเภทหนึ่งที่พี่นารถไม่รู้จัก... มาเจิร์คให้ดูเป็นตัวอย่างแทนการใช้สปูน... ป๊อป ๆ ๆ ประมาณ 2 ไม้...ก็ได้ตัวอย่างที่เห็นครับ....แหะ ๆ งงนิดหน่อย เพราะหลงเข้าใจว่า ชะโดจะอาศัยอยู่แต่น้ำนิ่งๆๆ...

ถึงผมจะแหกกฎ... แต่ก็ยังใช้สปูนตามคำบอกเล่าของพี่นารถ... และก็ได้มา 1 หน่วย จากการหวดเหยื่อแล้วลากเพียงครั้งเดียว...
กระสูบน้ำไหล แรงดีใช้ได้เลยครับ

น้ำไหลเชี่ยวมากๆ จนบางครั้ง เป็นห่วงชีวิตมากกว่าการตกปลา เพราะเรือกุ้งที่นั่ง เกือบคว่ำตั้งหลายรอบแน่ะ...
ตัวน่ะ ไม่กลัวเท่าไหร่..แต่เหยื่อ และอุปกรณ์อื่นๆ บนเรือสิ...ตกไป ใครจะช่วยงม
อ้าว...น้าเจอร์ฯ มีงี้ด้วยรึ...

ล่องแก่งฯ มาหลายกิโลฯ แม้ว... สุดท้ายก็ประสบผลสำเร็จ ได้เห็นหน้าชะโด ไซด์ดีๆ ที่กล่าวขานกันมามากมาย เพราะลำน้ำแห่งนี้เคยได้ชะโด น้ำหนัก 15 กก. ด้วยการยิง... ส่วน 7-10 กก. ส่วนใหญ่ได้จากลอยลูกปลาดุก ยามค่ำคืน...ส่วนที่ตกได้ด้วยเหยื่อปลอม พี่นารถทำได้สูงสุดในคุ้งน้ำ เพราะเขตนี้ชาวบ้านไม่ตกกัน พิกัดที่ได้ คือ 6 กก.
ยินด้วยครับพี่นารถ...
สำหรับตัวนี้ น้ำหนักที่ชั่งได้ก่อนทำ "ชะโดส้ม" คือ 4.00 กก. แลดูตัวเล็ก ผอมเรียว อาจเป็นเพราะต้องว่ายทวนน้ำ ไล่งับปลาเหยื่อทุกวัน กระทั่งกล้ามเนื้อหนาแน่น และน้ำหนักจึงมาก...กระมัง...