สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 17 เม.ย. 67
MM... Carl Zeiss Jena ...MM: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
 กระดาน > อื่นๆ
ความเห็น: 72 - [15 มี.ค. 55, 19:42] ดู: 62,837 - [17 เม.ย. 67, 04:37]  ติดตาม: 8 โหวต: 11
MM... Carl Zeiss Jena ...MM
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ตั้งกระทู้: 15 ก.พ. 55, 00:32
MM... Carl Zeiss Jena ...MM
มาตามคำแนะนำของน้าซีเนียร์ที่แนะนำนะครับ มาขยายความเกี่ยวกับเรื่องกล้องส่องพระ Carl Zeiss

แม้ว่าบริษัท Carl Zeiss จะสร้างชื่อและได้รับชื่อเสียงไปทั่วโลกในผลิตภัณฑ์ Optics มากมาย ตั้งแต่กล้องจุลทรรศน์

กล้องดูดาว กล้องส่องทางไกล เลนส์กล้องถ่ายรูป ไปจนถึงผลิตภัณฑ์​ Biomedical แต่เชื่อว่าคนไทยโดยเฉพาะชายไทยนั้น

รู้จักชื่อเสียงของ Zeiss หรือ Carl Zeiss มากที่สุดในเรื่องของ  “กล้องส่องพระ”  ครับ

ผลิตภัณฑ์แว่นขยายขนาดพกพา หรือ Folding Magnifiers หรือ Loupe นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการส่อง

ดูอัญมณี หรือใช้ในงานสำรวจ (ธรณีวิทยา) แต่คนไทยนั้นมีความเชื่อและนิยมในวัตถุมงคล จึงทำให้กล้อง

ส่องพระเป็นที่นิยมแพร่หลาย และกล้องส่องพระ Zeiss ก็เป็นกล้องส่องพระที่ได้รับความนิยมสูงสุดและ

เป็นกล้องส่องพระที่นักเลงพระและเกจิอาจารย์เลือกให้เป็นกล้องที่ดีที่สุดครับ  
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 1: 15 ก.พ. 55, 00:36
ใบโฆษณาสินค้าแว่นขยายพกพาแบบ Aplanatic ของ Zeiss ปี ค.ศ. 1929 โปรดสังเกต

 ราคาตอนนั้นขายกันตัวละ
ใบโฆษณาสินค้าแว่นขยายพกพาแบบ Aplanatic ของ Zeiss ปี ค.ศ. 1929 โปรดสังเกต

ราคาตอนนั้นขายกันตัวละ 6.5 เหรียญ ต่อทุกๆ กำลังขยายครับ 6X , 8X , 10X

และรูปแรกเป็นใบโฆษณาสินค้า รุ่น”สิงห์ดำ” ดั้งเดิมที่เรือนเป็นพลาสติกเบเกอไลท์ ครับ 

(ที่มา: ร้านใน ebay)
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 2: 15 ก.พ. 55, 00:40
เลนส์อโครมาติค คือเลนส์ที่ลดการฟุ้งกระจายของสเปคตรัมสี โดยออกแบบให้ทุกสเปคตรัมของแสงไปรวมที่จุดโฟกัส
เลนส์อโครมาติค คือเลนส์ที่ลดการฟุ้งกระจายของสเปคตรัมสี โดยออกแบบให้ทุกสเปคตรัมของแสงไปรวมที่จุดโฟกัส

นี่ไงครับที่มาของสิ่งที่ผมบอกว่ามันส่องยากมากกกกกกกกก เพราะมันหลุดโฟกัสได้ง่ายดาย

เพียงแค่ขยับมือเล็กน้อยมันก็หลุดแล้ว เพราะคุณภาพของภาพที่เลนส์ต้องการให้เราในจุดที่ดีที่สุด (จุดโฟกัส)

เลนส์ อะแพลนาติค อโครมาติค

คุณสมบัติของกล้องส่องพระ Zeiss ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก คือการออกแบบเลนส์แว่นขยาย เป็นเลนส์แบบ

อะแพลนาติค-อโครมาติค (Aplanatic-Achromatic) ครับ จะสังเกตได้ว่าในกล้องส่องพระของ Zeiss บางยุค

หรือบนกล่องบรรจุภัณฑ์ หรือในคู่มือจะมีคำว่า Aplanatic Achromatic  หรือบางทีจะย่อว่า Apl.

ซึ่งเลนส์ อะแพลนาติค-อโครมาติคนี้เป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะของ Zeiss ครับ

โดยเลนส์จะช่วยลดการฟุ้งกระจายของสเปคตรัมสีครับ จากการทดสอบกล้องส่องพระที่ร้านจำหน่าย

พบว่ามีแต่กล้องส่องพระ Zeiss เท่านั้นที่เป็นเลนส์ อะแพลนาติค-อโครมาติค ครับ

กล้อง Nikon, B&L, Belomo และกล้องจีนอื่นๆ จะไม่มีคุณสมบัตินี้เลย

(ที่มา : Wikipedia)
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 3: 15 ก.พ. 55, 00:42
กล้องส่องพระ Carl Zeiss จากเมือง Jena ที่ผลิตในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 

โดยตัวเรือนจะเป็นทองเ
กล้องส่องพระ Carl Zeiss จากเมือง Jena ที่ผลิตในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

โดยตัวเรือนจะเป็นทองเหลืองชุบโครเมียม (ที่มา: กระทู้ของคุณ​  locoslimo)
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 4: 15 ก.พ. 55, 00:51
ตัวนี้เป็นของพ่อผมครับ มาอยู่ในบ้านผมนานหลายสิบปีทีเดียวครับ เป็นรุ่นที่เค้าเรียกกันว่า "สิงห์ดำ"
ตัวนี้เป็นของพ่อผมครับ มาอยู่ในบ้านผมนานหลายสิบปีทีเดียวครับ เป็นรุ่นที่เค้าเรียกกันว่า "สิงห์ดำ" หน้าตาแบบนี้แหละครับ

ขอบอกว่าแพงมากครับ ราคาในสภาพสวยมากๆ เอาเข้าไปที่ร้านพระเครื่องชั้นนำถ้าไม่โดนกดราคามากจะได้มากกว่าหมื่น

ครึ่ง แล้วทางร้านจะขยับไปเก็บไว้ที่ราคาเริ่มต้นที่สองกลางๆ แล้วจบกันที่สองนิดๆ ครับ

(ไม่มีการซื้อขายในนี้นะครับ รับรองด้วยชีวิต น้าเวบจะว่าไหมครับ ถ้ามีปัญหาใดๆ ก็ตัดได้นะครับ)

ตัวนี้เคยมีคนมาให้แล้วนะครับ หมื่นห้าพันบาท ทำให้แม่ผมตกใจมาแล้ว คิดว่ากล้องตัวเล็กๆ ตัวนี้ทำไมราคามันสูงได้ขนาดนี้ 

จนแกต้องมาถามผมว่า ทำไมกล้องตัวนี้แพงได้ขนาดนี้ แล้วสุดท้ายแกก็บ่นป๊ะป๋าอีกว่าซื้อมาทำไมแพงขนาดนั้น 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 5: 15 ก.พ. 55, 00:56
เมื่อสักยี่สิบปีที่แล้ว (ยี่สิบบวกนะครับ) ราคา 4,300 บาทครับ เรียกได้แพงมากในสมัยนั้น และหาซื้อยากมา
เมื่อสักยี่สิบปีที่แล้ว (ยี่สิบบวกนะครับ) ราคา 4,300 บาทครับ เรียกได้แพงมากในสมัยนั้น และหาซื้อยากมากด้วย

เพราะการซื้อขายของแบบนี้ต้องไปที่แหล่งหรือที่จุดที่มีเท่านั้นไม่สามารถหาได้ในปัจจุบัน หรือต้องสั่งแล้วจ่ายมัดจำไว้

แล้วรอจนกว่าของจะเข้ามาถึงจะได้รับของครับ 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 6: 15 ก.พ. 55, 01:05
นี่ภาพแสดงความเป็น อะแพลนาติค-อโครมาติค โดยจะสังเกตุว่าในตัวเรือนของกล้องบางยุคนั้นได้เขียนอักษรย่อ
นี่ภาพแสดงความเป็น อะแพลนาติค-อโครมาติค โดยจะสังเกตุว่าในตัวเรือนของกล้องบางยุคนั้นได้เขียนอักษรย่อ

Apl. ไว้เลยครับ เพื่อระบุว่าเป็นเลนส์อะแพลนฯหากเลนส์ทั่วไปที่ไม่ใช่ อะแพลนาติค-อโครมาติค ดูที่แสงของหลอดไฟฟูลออเรสเซ็นต์นะครับ

ด้านหนึ่งจะยาวเท่ากันตลอดทุกๆ มุมมองของเลนส์ ส่วนอีกด้านจะยาวไม่เท่ากันครับ นี่คือจุดตายของเลนส์ตัวนี้

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น เพราะกล้องตัวนี้หรือยี่ห้อนี้ ราคาแพงมาก ดังนั้นจึงอาจจะมีการโกงผู้ซื้อได้ดังนี้

1. ได้บอดี้กล้องรุ่นนี้มาแต่เลนส์ใช้ไม่ได้แล้ว จึงนำมาแกะเลนส์เก่าออก แล้วหาเลนส์ขนาดใกล้เคียงกันไปใส่

แทน ซึ่งพี่ไทยทำได้แน่นอน  ส่วนราคาอาจจะถูกลงนิดนึง เพื่อล่อใจผู้ซื้อ

2. มีทั้งบอดี้และเลนส์ พอจะขายกลับแกะเลนส์ ออกแล้วหาเลนส์อื่นมาใส่แทน แล้วขายใน  ราคาของเลนส์แท้ ส่วน

ตัวเองเก็บเลนส์ไว้ไปหาบอดี้อื่นใส่แทน เก็บเลนส์ไว้ใช้ได้อีก


นี่คือเทคนิคง่ายๆ ในการโกงการซื้อขายกล้องยี่ห้อนี้ครับ ถ้าใครอยากได้ต้องกล้องตัวนี้ต้องดูแบบนี้ครับ 

ผมเคยเจอรุ่นนี้ที่เปลี่ยนเลนส์มาแล้วสองตัวครับ ในตลาดกล้องส่องพระเครื่อง ตัวแรกบอดี้สวยแต่ราคาแค่ 12,000 บาท

ส่วนอีกตัวก็สวยเช่นกัน ราคาเต็มครับ 17,000 บาท ผมใช้วิธีการดูแบบนี้แหละครับ 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 7: 15 ก.พ. 55, 01:13
นี่คือกล้องที่มีอยู่ในบ้านอีกสองตัวครับ เอามาให้ดูแค่สองตัวครับ เพราะในบ้านผมมีกล้องที่ใช้เล่นๆ อีกห
นี่คือกล้องที่มีอยู่ในบ้านอีกสองตัวครับ เอามาให้ดูแค่สองตัวครับ เพราะในบ้านผมมีกล้องที่ใช้เล่นๆ อีกหลายตัว

แต่ดูแล้วทุกตัวไม่สามารถทำให้เส้นของหลอดไฟเท่ากันได้ ในทุกมุมมอง เพื่อนๆ พี่ๆ ลองเอากล้องของตัวเองมาขยับเล่น

ได้นะครับว่าสามารถทำให้เส้นของหลอดไฟเท่ากันได้ทุกๆ มุมมองของเลนส์หรือไม่ครับ 

ที่ทำได้เกือบๆ ดีนั้น ตัวด้านขวาครับ ซึ่งเลนส์ตัวนี้ทำมาจากอเมริกาครับ 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 8: 15 ก.พ. 55, 01:21
นี่คือกล้องที่ผลิตขึ้น แล้วตีตรา  Apl.  ไว้ที่บอดี้ครับ ซึ่งบอดี้ขาวแบบนี้ผลิตในช่วงปี ค.ศ.1946-1971
นี่คือกล้องที่ผลิตขึ้น แล้วตีตรา  Apl.  ไว้ที่บอดี้ครับ ซึ่งบอดี้ขาวแบบนี้ผลิตในช่วงปี ค.ศ.1946-1971  ซึ่งออกมาชนกันในรุ่น

เดียวกันกับกล้องของพ่อผมครับ ตัวนี้ผลิตในเยอรมันตะวันตกในสมัยนั้น ส่วนรุ่น สิงห์ดำ ผลิตในเยอรมันตะวันออกครับ ในช่วงหลังสงครามโลก

กล้องส่องพระ Carl Zeiss รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัท Zeiss ได้ถูกแยกออกเป็น 2 บริษัท โดยเครื่องจักร/นักวิทยาศาตร์ชั้นนำ/ผู้บริหาร

ถูกจับย้ายจากเมือง Jena (เมืองในเขตประเทศเยอรมันตะวันออก) มายัง ไปยังเมือง Heidenheim ในเขตเยอรมันตะวันตก

และเปลี่ยนตราสินค้าเป็น Carl Zeiss (ไม่มีคำว่า Jena) ในขณะที่กองทัพรัสเซียก็รวบรวมคนงานของโรงงาน Carl Zeiss

เพื่อเปิดบริษัท Carl Zeiss Jena เยอรมันตะวันออก และทั้งสองบริษัทก็ผลิตสินค้ากล้องจุลทรรศน์ กล้องส่องทางไกล

เลนส์กล้อง รวมทั้งกล้องส่องพระแข่งกัน 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 9: 15 ก.พ. 55, 01:25
[b]กล้องส่องพระ Zeiss หลังเยอรมันรวมประเทศ[/b]

เมื่อกำแพงเบอร์ลินถูกทลายลงในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ.
กล้องส่องพระ Zeiss หลังเยอรมันรวมประเทศ

เมื่อกำแพงเบอร์ลินถูกทลายลงในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 อันเป็นสัญญลักษณ์ของการสิ้นสุดสงครามเย็น

บริษัท Carl Zeiss ทั้ง 2 ฝั่งก็ได้กลับมารวมกันใน ปี ค.ศ. 1991 และได้กลายเป็นบริษัทผู้นำในด้านผลิตภัณฑ์เลนส์

และกล้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครับ โดยตราสินค้า Zeiss ยังคงเช่นเดิม แต่ไม่พิมพ์คำว่า West Germany แต่เปลี่ยนเป็น

Germany ในช่วงต้น และกล้องส่องพระ Zeiss ปัจจุบันจะไม่พิมพ์คำว่า Germany  ครับ  

ตัวนี้นักเลงพระบ้านเราเรียกว่า Zeiss  สองแถวครับ น่าจะมาจากตัวหนังสือที่มีสองแถวครับ 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 10: 15 ก.พ. 55, 01:32
ส่วนตัวนี้เป็น   [b]Zeiss สามแถว [/b] ครับ มาจากตัวหนังสือที่มีสามแถวครับ  :smile: :smile: :smile:
ส่วนตัวนี้เป็น  Zeiss สามแถว ครับ มาจากตัวหนังสือที่มีสามแถวครับ 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 11: 15 ก.พ. 55, 01:38
นี่เป็นรุ่นมีเราเห็นขายกันในปัจจุบัน เป็นรุ่น D 40  ผมได้ลองมาแล้วครับ ยังสมราคาของกล้องในสกุล Carl
นี่เป็นรุ่นมีเราเห็นขายกันในปัจจุบัน เป็นรุ่น D 40  ผมได้ลองมาแล้วครับ ยังสมราคาของกล้องในสกุล Carl Zeiss

หนึ่งในคำถามยอดฮิตคือ “ทำไมกล้องส่องพระ Zeiss D40 ถึงไม่มีคำว่า Germany” และ “กล้อง Zeiss รุ่นใหม่

ผลิตในเยอรมันหรือเปล่า ทำไมไม่พิมพ์ว่า made in Germany ล่ะ” ผมก็สุดจะคาดเดาครับ แต่ยืนยันว่าเลนส์

ของกล้องส่องพระ Zeiss D40 ยังคงผลิตในประเทศเยอรมันนีครับ

แต่ไปทำการประกอบที่ประเทศเบรารุส  (ที่เห็นมาข้างกล่องระบุชัดเจนว่า made in Belarus) 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 12: 15 ก.พ. 55, 01:54
ผมได้นำเรื่องนี้มาปะติดปะต่อกันนะครับ หามาจากหลายๆ ที่ต้องขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลต่างๆ ด้วยนะครับ

ที่นำเรื่องกล้อง Carl Zeiss มาเผยแพร่ในคืนนี้เพราะเป็นการรำลึกถึงพ่อของผม เพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์

เป็นวันที่พ่อผมได้จากผมไปครับ คืนนี้ผมจึงมานั่งรำลึกถึงท่านสักครั้ง และกล้องตัวนี้เป็นสิ่งของที่ท่านรักที่สุดสิ่งหนึ่ง

ในขณะที่ท่านยังมีลมหายใจ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ใกล้หรือไกล เมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน สิ่งที่ผมเห็นคือกล้องเล็กๆ สีดำตัวนี้ติด

ตัวท่านตลอดเวลาครับ ตอนนี้กล้องตัวนี้จะได้อยู่กับท่านตลอดไปครับ ปกติมันจะถูกวางไว้ที่หน้ารูปของท่าน บนพานเล็กๆ

รองด้วยกระดาษทิชชู่ และห่อทับไว้อีกชั้นหนึ่งครับ และปกติผมจะไม่ได้เอาใช้ จะมีนานๆ สักครั้งผมจะเอาลงมาดูเล่น

หรือเปลี่ยนกระดาษที่หุ้มอยู่ออกแล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่ครับ คืนนี้ได้โอกาสนำลงมาจึง เอามาถ่ายรูปพร้อมกับรำลึกถึงท่าน

สักครั้งครับ 

ขอขอบคุณน้าท่านหนึ่งที่ถามถึงกล้องตัวนี้มานะครับ ถ้าไม่มีน้าผมคงจะไม่ได้มานั่งรำลึกถึงกล้องตัวนี้ ขอบคุณมากครับ

ผมจึงโพสไว้ที่หน้ากระทู้ว่าไม่ขายครับ ผมคิดว่าเมื่อไหร่ที่มีเงิน ผมสามารถหากล้องรุ่นนี้มาใช้ได้อย่างแน่นอน

ถ้าอยากจะได้มันมาใช้ แต่สำหรับกล้องตัวนี้ ถ้าขายไปผมไม่สามารถจะหามันกลับมาได้ เพราะมันไม่ได้เป็นเพียง

แค่กล้องส่องพระเท่านั้น แต่มันถูกบรรจุความทรงไว้ด้วยครับ 
กระทู้: 18
ความเห็น: 1,421
ล่าสุด: 13-03-2567
ตั้งแต่: 06-08-2545
ความเห็นที่ 13: 15 ก.พ. 55, 07:29
อ้างถึง: mr.maku posted: 15-02-2555, 01:54:53

ผมได้นำเรื่องนี้มาปะติดปะต่อกันนะครับ หามาจากหลายๆ ที่ต้องขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลต่างๆ ด้วยนะครับ

ที่นำเรื่องกล้อง Carl Zeiss มาเผยแพร่ในคืนนี้เพราะเป็นการรำลึกถึงพ่อของผม เพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์

เป็นวันที่พ่อผมได้จากผมไปครับ คืนนี้ผมจึงมานั่งรำลึกถึงท่านสักครั้ง และกล้องตัวนี้เป็นสิ่งของที่ท่านรักที่สุดสิ่งหนึ่ง

ในขณะที่ท่านยังมีลมหายใจ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ใกล้หรือไกล เมื่อก้าวเท้าออกจากบ้าน สิ่งที่ผมเห็นคือกล้องเล็กๆ สีดำตัวนี้ติด

ตัวท่านตลอดเวลาครับ ตอนนี้กล้องตัวนี้จะได้อยู่กับท่านตลอดไปครับ ปกติมันจะถูกวางไว้ที่หน้ารูปของท่าน บนพานเล็กๆ

รองด้วยกระดาษทิชชู่ และห่อทับไว้อีกชั้นหนึ่งครับ และปกติผมจะไม่ได้เอาใช้ จะมีนานๆ สักครั้งผมจะเอาลงมาดูเล่น

หรือเปลี่ยนกระดาษที่หุ้มอยู่ออกแล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่ครับ คืนนี้ได้โอกาสนำลงมาจึง เอามาถ่ายรูปพร้อมกับรำลึกถึงท่าน

สักครั้งครับ 

ขอขอบคุณน้าท่านหนึ่งที่ถามถึงกล้องตัวนี้มานะครับ ถ้าไม่มีน้าผมคงจะไม่ได้มานั่งรำลึกถึงกล้องตัวนี้ ขอบคุณมากครับ

ผมจึงโพสไว้ที่หน้ากระทู้ว่าไม่ขายครับ ผมคิดว่าเมื่อไหร่ที่มีเงิน ผมสามารถหากล้องรุ่นนี้มาใช้ได้อย่างแน่นอน

ถ้าอยากจะได้มันมาใช้ แต่สำหรับกล้องตัวนี้ ถ้าขายไปผมไม่สามารถจะหามันกลับมาได้ เพราะมันไม่ได้เป็นเพียง

แค่กล้องส่องพระเท่านั้น แต่มันถูกบรรจุความทรงไว้ด้วยครับ 




ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับที่คุณพ่อท่านจากไป
แต่คุณพ่อก็ได้มอบของที่ระลึกไว้ให้ลูกได้ระลึกถึง
และคุณพ่อ ท่านคงจะยินดีมากที่ได้เผยแผ่ความรู้ให้บุคคลรุ่นหลังๆได้รับทราบกันครับ
ขอบคุณมากครับ 
กระทู้: 2
ความเห็น: 292
ล่าสุด: 14-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2549
ความเห็นที่ 14: 15 ก.พ. 55, 08:17
เต็มรูปแบบเลยครับน้า ขอบคุณที่นำข้อมูลมาให้อ่านเป็นความรู้ครับ
กระทู้: 57
ความเห็น: 5,422
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 15-07-2550
Anubis_k(1252 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบแดง
ความเห็นที่ 15: 15 ก.พ. 55, 08:46
ใช้ D40 ตัวใหม่อยู่เหมือนกันครับ

แต่ตัวประจำ ที่ถูกใจของผม จะเป็นของดี ราคาถูก.... Belomo รุ่นแรกๆ ที่โค้ท ออกสีเขียว (รุ่นใหม่ ออกสีน้ำเงิน-ม่วง) ครับ

เพราะว่า หน้าเลนส์ใหญ่ กว้างมาก ใส สว่าง สะใจ ข้อสำคัญ ผมไม่ได้เก็บสายเนื้อผงเป็นหลัก เลยไม่ได้ใช้ส่อง แบบเจาะมากนัก 
กระทู้: 8
ความเห็น: 3,831
ล่าสุด: 16-04-2567
ตั้งแต่: 15-10-2554
Tenzay(83 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 16: 15 ก.พ. 55, 09:19
กระทู้: 17
ความเห็น: 3,860
ล่าสุด: 10-03-2567
ตั้งแต่: 14-06-2545
jackky(692 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 17: 15 ก.พ. 55, 10:25
ความรู้ทั้งนั้นครับ

+++โหวตๆๆ ครับ

กระทู้: 2
ความเห็น: 130
ล่าสุด: 16-04-2567
ตั้งแต่: 03-10-2553
ความเห็นที่ 18: 15 ก.พ. 55, 10:35
สุดยอดครับ
กระทู้: 24
ความเห็น: 1,470
ล่าสุด: 10-04-2567
ตั้งแต่: 28-02-2548
ความเห็นที่ 19: 15 ก.พ. 55, 11:48
ชอบมากครับ
กระทู้: 57
ความเห็น: 5,422
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 15-07-2550
Anubis_k(1252 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบแดง
ความเห็นที่ 20: 15 ก.พ. 55, 13:46
อ้างถึง: หมอนกชุมพร posted: 15-02-2555, 11:48:01

ชอบมากครับ


แล้วเสี่ยหมอ ใช้กล้องตัวไหนจ๊ะ 
กระทู้: 5
ความเห็น: 2,173
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 08-06-2553
exjang(99 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 21: 15 ก.พ. 55, 14:10
กระทู้: 20
ความเห็น: 11,167
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 12-01-2554
ความเห็นที่ 22: 15 ก.พ. 55, 20:27
ตามชมผลงานครับน้า++++++++ตามเชียร์จ้า






กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 23: 15 ก.พ. 55, 21:06
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆ ความเห็น พอดีวันนี้ไปที่ไซท์งานนะครับ จึงไม่ได้เข้ามาดูเวบฯ เลย 

ขอบคุณน้า ซีเนียร์  มากนะครับที่แนะนำให้ผมมาลงไว้ที่นี่ พอดีไม่ทันคิดนะครับ

ขอบคุณน้า D1_Fighter ลับมีดรอไว้แล้วคร้าบบบบบ 

ขอบคุณน้า  Anubis_k ผมกำลังคิดเอา Belomo รุ่นใหม่ที่น้าบอกมาอยู่ครับ เป็นกล้องที่ดีราคาไม่แพงอีกตัวหนึ่งครับ อีก

สักสิบนาทีจะลงข้อมูลมาให้อ่านเล่นกันครับ แล้วมาดูหน้าตาเจ้า Belomo กันว่าหน้าตามันน่ารักยังไงครับ แต่เป็นตัวรุ่นใหม่นะครับ 

ขอบคุณน้า Tenzay ครับ 

ขอบคุณน้า  jackky ครับ 

ขอบคุณน้า wangthong1 ครับ 

ขอบคุณน้า หมอนกชุมพร ครับ     

ขอบคุณน้า  exjang ครับ     

ขอบคุณน้า ยาวTiger  ครับ     

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะครับ ยินดีที่ได้รับใช้นะครับ ถ้าข้อมูลในนี้จะก่อเกิดประโยชน์ด้านใดได้บ้าง ผมจะดีใจ

เป็นอย่างยิ่งครับ และเชื่อว่าพ่อผมต้องยินดีด้วยเช่นกันครับ 
กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 24: 15 ก.พ. 55, 21:09
กล้อง Belomo  เลนส์เป็นแก้วใส อะโครมาติค ตัวกล้องเป็นโลหะเคลือบสีดำอย่างดี ขนาดเลนส์ 19 มม. กำลังขยา
กล้อง Belomo  เลนส์เป็นแก้วใส อะโครมาติค ตัวกล้องเป็นโลหะเคลือบสีดำอย่างดี ขนาดเลนส์ 19 มม. กำลังขยาย 10 เท่า

ระยะโฟกัส 28 มม. นี่คือหน้าตาของเจ้า Belomo ที่น้า Anubis_k กล่าวถึงครับ แต่ตัวนี้เป็นกล้องรุ่นใหม่นะครับ

พอดีไปเจอจึงขอยืมรูปมาครับ

กระทู้: 10
ความเห็น: 191
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-03-2550
Mr.maku(137 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 25: 15 ก.พ. 55, 21:12
Belomo เป็นยี่ห้อสินค้าคุณภาพสูง ของโรงงานแห่งหนึ่งของประเทศเบรารุส (ในสหภาพรัสเซีย) เป็นโรงงานที่ผล
Belomo เป็นยี่ห้อสินค้าคุณภาพสูง ของโรงงานแห่งหนึ่งของประเทศเบรารุส (ในสหภาพรัสเซีย) เป็นโรงงานที่ผลิตเกี่ยว

กับ Laser, optoelectronic, optomechanical instruments รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกหลายรายการ

ในปี 1995 Belomo ได้ลงทุนในกิจการร่วมกับ Kalr Zeiss ของเยอรมัน คือ JOINT VENTURE ZEISS - BELOMO LTD.

เพื่อผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับ Optic ส่งให้โรงงานของ KALR ZEISS ซึ่ง ฝ่าย BelOMO ลงทุน 40% ฝ่าย KALR

ZEISS ลงทุน 60% จึงทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเป็นกล้องที่ดีและคุณภาพสูง 

ถ้าน้า Anubis_k จะกรุณานำรูปรุ่นเก่ามาให้ชมได้ จะขอบคุณมากครับ
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
siamfishing.com © 2024