สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 26 เม.ย. 67
เก๋า...อ่ะป่าว?: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 >
 กระดาน > ตีเหยื่อปลอม
ความเห็น: 205 - [27 พ.ย. 60, 20:52] ดู: 15,800 - [26 เม.ย. 67, 06:03]  ติดตาม: 2 โหวต: 23
เก๋า...อ่ะป่าว?
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 51: 5 พ.ย. 60, 09:56
ความเป็น [b]“เพื่อน”[/b] มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงเป็นใคร มีเทือกเขาเหล่ากอมาอย่างไร ใช้นามสกุลของใ
ความเป็น “เพื่อน” มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงเป็นใคร มีเทือกเขาเหล่ากอมาอย่างไร ใช้นามสกุลของใคร มีวุฒิการศึกษาหรือไม่ จบมาจากที่ไหน แล้วตอนนี้มีอาชีพอะไร มึงต้องบ้าสะสมพระเครื่องหรือไม่ แล้วไต๋เรือเคยให้ฉายา(เอ็ง)ว่าปลาจวดหรือฉลามหรือเปล่าวะ (กูไม่ได้ลงเรือไปกับมึง แล้วเอามันมาเกี่ยวกับกูทำไม) ฯลฯ ที่กล่าวมานี้นะ “เพื่อน” แม้ว่าจะมีสปีชีส์ (Species) ต่างจากมนุษย์หรือไม่(สัตว์เลี้ยง) “การเปิดใจยอมรับความแตกต่าง” ย่อมเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของความเป็น “เพื่อน” เสมอ  ดังเช่นในภาพนี้ ไม่ว่าจะเอ็งสวมใส่เครื่องนุ่มห่มต่างกัน ก็ช่วยเหลือตักช้อนปลาให้กันได้ ไม่มีกำแพงแบ่งแยกความเป็นเพื่อน(ด้วยสีเสื้อ) 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 52: 5 พ.ย. 60, 09:57
(มึง)เป็นเพื่อนกันทำไม เป็นเพื่ออะไร เป้าหมายคืออะไร ธุรกิจใช่ไหม หรือคบกันเพราะความสัมพันธ์ฉันท์เพื
(มึง)เป็นเพื่อนกันทำไม เป็นเพื่ออะไร เป้าหมายคืออะไร ธุรกิจใช่ไหม หรือคบกันเพราะความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนล้วนๆไม่มีสิ่งหนึ่งอื่นใดแอบแฝง เป็นแล้ว...(มึง)จะชวน(กู)ขึ้นรถตู้ไปเที่ยวอ่างศิลาด้วยหรือไม่ เป็นแล้ว...(กู)จะต้องเข้ากลุ่มเป็นลูกไล่(มึง)ในแก็งค์หรืออย่างไร เป็นแล้ว...(มึง)ช่วยถาม/ช่วยฟังความรู้สึกนึกคิด(กู)บ้างจะได้ไหม เป็นแล้ว...(กู)ต้องใส่เสื้อสีแสงแรงฤทธิ์แบบ(มึง)ถึงจะนับว่าเป็นเพื่อนแก็งค์เดียวกันใช่ไหม เป็นแล้ว...ถ้า(กู)ไม่อยากจะลงรถตู้ตามพวก(มึง)ไป มึงยังจะคิดว่า(กู)เป็นเพื่อน(มึง)อยู่หรือไม่ ถ้า(ไอ้สาด)มันตอบว่าไม่ได้ละ... ด้วยความที่ผมไม่ใช่พหูสูต (Guru) ผมจึงไม่มีคำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จให้ ผมแค่นึกเป็นคำถามขึ้นมาเฉยๆ ถ้าหากผมเลือกได้...ผมจะเลือกคบ “บัณฑิต” ตามสุภาษิตไทย เพราะ...เขาจะไม่พาไปหาผิด 
แก้ไข 21 พ.ค. 61, 15:42
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 53: 5 พ.ย. 60, 10:01
เครื่องนุ่มห่มที่คละลวดลาย ต่างสี ต่างตัวอักษรและต่างเสียงเรียกขาน อาจถูกนำมาเป็น [b]“กำแพง”[/b] กั้
เครื่องนุ่มห่มที่คละลวดลาย ต่างสี ต่างตัวอักษรและต่างเสียงเรียกขาน อาจถูกนำมาเป็น “กำแพง” กั้นความเป็นเพื่อนได้เช่นกัน (ผมเคยเจอเรื่องไร้สาระนี้มากับตัวเองแล้ว) ก็เลยเกิดข้อสงสัยขึ้นมาในใจว่า ทำไม(กู)ต้องสวมใส่เหมือนใคร (กู)เลือกสีเสื้อใส่เองได้ไหม (กู)ต้องใส่ Uniform แบบเด็กอนุบาลหรือไม่ (มึง)เอากรอบความคิดอะไรมาใส่หัว(กู) มันเป็นความต้องการของใคร เคารพการตัดสินใจ(กู)บ้างได้ไหม (มึง)ก็เรียนหนังสือมา รู้จักหลักการ “คิดนอกกรอบ” หรือไม่

เรื่องไร้สาระเช่นนี้...หากก้าวข้ามผ่านมันไปได้ ก็จะเห็นเป้าหมายที่แท้จริง เพราะ....ความสุขที่แท้จริงในการออกรอบตกปลาสำหรับผม มิใช่การได้มาซึ่งตัวปลา และก็ไม่ใช่การใส่เสื้อสีเหมือนกันเดินตามขอบบ่อตกปลา...แต่มันคือ “การได้มาซึ่งมิตรภาพ” ในการออกรอบตกปลาต่างหาก ดังนั้น “มิตรที่ดี” ต้องไม่สร้างกำแพงอะไร กั้นความสัมพันธ์ “ฉันท์เพื่อน” (และก็ต้องไม่ชวนกัน “ลงรถตู้” ไปถือวิสาสะเปิดประตูรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของใคร)

ในภาพนี้...หากมองห้ามพงหญ้าที่เปรียบเสมือนกำแพง ก็จะเห็นว่า...เป้าหมายที่มาวันนี้มันคืออะไร มิตรภาพใช่หรือไม่?
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 54: 5 พ.ย. 60, 10:07
ในการคำนวณค่าทางวิศวกรรมศาสตร์ ตัวเลข 1+1 ต้องเท่ากับ 2 เสมอ นั่นคือ [b]“กรอบความคิด”[/b] ที่ถูกต้อง
ในการคำนวณค่าทางวิศวกรรมศาสตร์ ตัวเลข 1+1 ต้องเท่ากับ 2 เสมอ นั่นคือ “กรอบความคิด” ที่ถูกต้อง ในวิถีการประกอบอาชีพของท่าน แต่การคำนวณค่าบนเส้นทางตัวหนังสือว่าด้วยบทแห่งกฎบัญญัตินั้น ผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณ อาจมีค่าตั้งแต่ “(1)เท่ากับ (2)มากกว่า หรือ(3)น้อยกว่า” ก็เป็นได้ มันขึ้นอยู่กับ “ตัวแปร” ที่กรูกันลงมาจากรถตู้ ถือวิสาสะเปิดประตูรถยนต์ส่วนบุคคล แล้วใช้อวัยวะของร่างกาย(กำปั้น)ล่วงล้ำเข้ามาทำปฏิสัมพันธ์ที่ใบหน้า ความเจ็บปวดส่งผลต่ออารมณ์อย่างฉับพลัน ผู้ถูกกระทำจึงคิดและตกลงใจ สานสัมพันธ์กับลูกเลื่อน จากนั้นก็...บังเกิดแสงวับวาบและเสียงดังตามมา...“ปัง”

ตัวแปรที่ดี ผลลัพธ์ย่อมออกมาดี ตัวแปรที่ไม่ยอมฟังอีร้าค่าอีรมความรู้สึกนึกคิดของใคร เอาแต่ตัวกูความคิดกูเป็นใหญ่ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เป็นธรรมดา  (ทำให้นึกถึงตอนที่ทำวิทยานิพนธ์ตามหลัก “Garbage in – Garbage out” อาจารย์ท่านเคยบอกไว้ว่า หากจะทำวิทยานิพนธ์ให้ดี ก็เอาความรู้ใส่เข้าไป อย่าเอาขยะใส่เข้าไป หมายถึง เมื่อใดที่เอาข้อมูลขยะทางความคิด ใส่เข้าไปในการจัดทำวิทยานิพนธ์ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะเป็นขยะแน่นอน ไม่มีทางเป็นวิทยานิพนธ์ไปได้)

อันวิชาว่าด้วยบทบัญญัติแห่งตัวหนังสือ ณ เมืองไทย แม้ว่า 1+1 จะเท่ากับ 2 ก็ตาม แต่วิชาเดียวกันนี้ หากเกิดขึ้นที่เมืองอื่นประเทศใด ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกัน ตัวแปรที่กำหนดความแตกต่างนั้น คือ “วัฒนธรรม” ในการดำรงชีวิต ณ ที่แห่งนั้น เมื่อวัฒนธรรมเปลี่ยน วิถีแห่งความคิดก็เปลี่ยน การดำรงชีวิตก็ต้องเปลี่ยนแปลงตาม ถูกของคุณ...อาจผิดสำหรับเขา และผิดของเขา...อาจถูกสำหรับเรา ก็เป็นได้

“แน่แล้วหรือ” ที่คุณจะนำวัฒนธรรมของคุณ มาเป็นสูตรสำเร็จให้กับกรอบความคิดที่เป็นตัวหนังสือของผม ถ้าคุณตอบว่า “ใช่” เห็นทีเราคงต้องเลือกมุม และรอเสียงระฆังบนเวทีไปพร้อมๆกันแล้วละ)
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 55: 5 พ.ย. 60, 10:13
ทำไมจะต้องก้มหัว ถวายตัวให้กับกองกำลังพลใด เพียงเพื่อจะถูกเรียกว่า [b]“ซามูไร”[/b] เป็นลูกไล่ตามใจใค
ทำไมจะต้องก้มหัว ถวายตัวให้กับกองกำลังพลใด เพียงเพื่อจะถูกเรียกว่า “ซามูไร” เป็นลูกไล่ตามใจใครในสังกัดแก็งค์  หากใครคนหนึ่งผู้ใดไม่ชอบถูก(ใคร)มากำหนด(ชีวิต) ไม่ต้องมาคอยเกรงอกเกรงใจว่า ว่าถ้าออกรอบครั้งไหน ต้องนุ่มห่มสีอะไร ลวดลายบ่งบอกว่าแก็งค์ไหน หาไม่แล้ว “มึงไม่ใช่พวกกู” ไม่แปลกใช่ไหม ถ้าใครคนนั้นจะเลือกเป็น “โรนิน”

ณ ปฐมบทนี้ มันทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า “ภาวะของผู้นำ” นั้นสำคัญไฉน ผู้นำกลุ่มแก็งค์ก๊วนก๊กที่ชาญฉลาด มักเลือกสร้างพันธมิตร ไม่ว่าเอ็งจะเป็นโรนิน ส่วนไอ้นั่นเป็นนินจา แต่ตัวข้าฯ นั้นขอเป็นซามูไร ก็สามารถนำความแตกต่างที่เป็นปัจเจกเหล่านั้น มาร่วมสร้างให้เป็นหนึ่ง “มิตรภาพ” เดียวกันได้ (Unity) แต่ผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์ทางความคิด ก็มักจะยึดติดอยู่กับ“กรอบ”ความคิดของตัวเอง  เห็นทีคงต้องปล่อยให้มันอยู่หลังเขาในโลกแห่ง “โคโค่นัทแชล” (Coconut Shell แปลว่า “กะลา”) ...ต่อไป (ผู้นำที่ชักชวนกันให้ขึ้นรถตู้นั้น...ไม่เท่าไหร่ แต่ผู้นำที่ชวนกันกรูลงรถตู้มานี่ซิ...ไม่มีคำบรรยายที่ดีๆ ให้เลย) 
แก้ไข 21 พ.ค. 61, 15:46
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 56: 5 พ.ย. 60, 10:15
จะมีไหมที่ใครไม่ “หัวเสีย” หากภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นกับท่านในห้วงเวลานาทีทอง ปัญหานี้ต้องแก้ด้วยอะไร เล
จะมีไหมที่ใครไม่ “หัวเสีย” หากภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นกับท่านในห้วงเวลานาทีทอง ปัญหานี้ต้องแก้ด้วยอะไร เลือกใช้สายใหญ่ คู่กับคันแข็งรุ่นไม้คานหาบน้ำ หรือจะเลือกใช้สายเล็ก คู่กับคันเบ็ดที่มีเวท(Weight) เหมาะสมกับการใช้งาน ก็สุดแท้แต่ว่าท่านจะเลือกจำนวนปลา  เพื่อตอบสนองความคุ้มค่า ราคาค่าผ่านประตู ในการออกรอบจัด Trip ตกปลา...ไม่ว่ากัน แต่ทว่า อันตัวผมนั้นไซร้...ขอเลือก“สุนทรียรส” 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 57: 5 พ.ย. 60, 10:16
ความผิดพลาด มันเกิดจากอะไร สาเหตุอยู่ที่ไหน ประเด็นคืออะไร ใช้สายเบอร์ใหญ่ไปหรือไม่ ปรับเบรกแข็งไปหร
ความผิดพลาด มันเกิดจากอะไร สาเหตุอยู่ที่ไหน ประเด็นคืออะไร ใช้สายเบอร์ใหญ่ไปหรือไม่ ปรับเบรกแข็งไปหรือเปล่า หรือการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ชิ้นนี้กันแน่  ถ้าเลือกใช้อุปกรณ์ใหญ่ สายใหญ่ ปรับเบรกแข็ง แต่...ปลาเล็ก มันจะง้างออกมาแบบนี้หรือไม่ แล้วในทางกลับกันละ หากเลือกใช้อุปกรณ์เล็ก สายก็เล็ก เบรกก็ปรับอ่อน แต่...ปลาดันตัวใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้มันจะออกมาเป็นเช่นไร ความสัมพันธ์ในการใช้งานระหว่างอุปกรณ์และนักตกปลาเกี่ยวกันหรือไม่ แล้วใครละที่ทำให้มันง้างออกมา…ปลาหรือคน? (ก็ไม่รู้ซินะ!) 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 58: 5 พ.ย. 60, 10:21
ตราบใดที่ความเก๋า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศสภาพฉันท์ใด ความคิดก็เฉกเช่นเดียวกัน [b]“คิดต่าง ปฏิบัติต่าง ก
ตราบใดที่ความเก๋า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศสภาพฉันท์ใด ความคิดก็เฉกเช่นเดียวกัน “คิดต่าง ปฏิบัติต่าง ก็สำเร็จลุล่วงเป้าหมายเดียวกันได้เช่นกัน” เช่น มีกี่วิธีที่จะเดินทางจาก เชียงราย ไป Texas  วิ่งไป...ได้ไหม ปั่นจักรยานหน่อย...จะเป็นไร สุดท้าย เราชวนกันมานั่งเครื่องบินจิบเบียร์เย็นๆ คุยกันไปดีกว่าไหม หากเวลาช้า/เร็วในการเดินทางไปถึงที่หมาย มิใช้ตรรกะที่ต้องนำมาพิจารณา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมหรือด้วยพาหนะอะไร สุดท้ายก็เจอกันที่เป้าหมาย ณ ปลายทางอยู่ดี วิถีและความต้องการของแต่ละปัจเจกชน จึงเป็น “เข็มทิศ” ชี้นำการตัดสินใจ...เอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้ (เข้าใจตรงกันนะ)
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 59: 5 พ.ย. 60, 10:23
“นี่เธอ! ฉันกลัวปลามันหลุด เดี๋ยวสายมันจะขาด ฯลฯ” นี่คือ ความกังวลที่สื่อแสดงออกมาด้วยวาจา เพื่อร้อง
“นี่เธอ! ฉันกลัวปลามันหลุด เดี๋ยวสายมันจะขาด ฯลฯ” นี่คือ ความกังวลที่สื่อแสดงออกมาด้วยวาจา เพื่อร้องขอตัวช่วย ผู้มากประสบการณ์ใจดีบางท่าน อาจจะบอกว่า “ถ้างั้น...ส่งมาให้ฉันช่วยจัดการ” ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่แก้ไขปัญหา แต่ไม่ใช่วิธีที่ผมเลือก การได้สัมผัสรับรู้รสชาติของแรงดึง ผนวกความคาดหวัง(ที่อยากจะได้มันขึ้นมาเชยชม) คละปนกับความเสี่ยง(ที่จะทำปลาหลุดหรือสายขาด) นั่นคือ การบริหารจัดการที่ผมเลือกจะหยิบยื่นให้กับมือใหม่ๆเสมอ เพราะนี่คือ “บทเรียนแห่งความผิดพลาด” (Learning from Mistakes) คำถามคือ...คุณได้เรียนรู้อะไรจากมัน (Lesson Learned) เสมือนหนึ่งว่าเป็นการทดสอบวัดระดับความรู้เบื้องต้น (Pre-Test) ก่อนเข้าสู่บนเรียนจริง
แก้ไข 21 พ.ค. 61, 15:49
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 60: 5 พ.ย. 60, 10:26
[u]บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 1:[/u] [b]“เกรงใจไม่กล้าบอก”[/b]

กาลครั้งหนึ่งเคยไปร่วมตกปลาแบบเอ
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 1: “เกรงใจไม่กล้าบอก”

กาลครั้งหนึ่งเคยไปร่วมตกปลาแบบเอาสายเบ็ดร้อยรูตะกั่ว ใส่ลูกปัด และก็ขมวดมัดปลายสายเข้ากับตะขอเบ็ด ก่อนเกี่ยวด้วยเหยื่อยาง เหวี่ยงขว้างมันลงไปกลางน้ำ แล้วค่อยๆตวัดคันเบ็ด ชักๆ กระตุกๆ มันกลับเข้ามา (อธิบายวิธีการตกปลาเช่นนี้กันให้ตายห่า ฝรั่งก็ไม่รู้จัก ถ้าไม่เอ่ยทักเป็นภาษาของมันว่า มันคือ “Texas Rig” ดีๆ นี่แหละ) หลังจากนั้น การชวนให้ไปออกรอบตกปลา และการเชื้อเชิญให้เข้ากลุ่มรวมฝูง (Flock) จึงตามมา ด้วยความที่เพิ่งรู้จักกัน คำว่า “เกรงใจ” จึงเกิดขึ้น แม้ว่าจะได้เอ่ยเล่าเหตุติดขัด ที่เคยพบเจอมาในครั้งอดีตให้ฟัง ก็ยังต้านคำเชื้อเชิญหลายคำรบไม่ไหว อีกครั้งหนึ่ง...ที่ต้องตกกระไดพลอยโจนขึ้นรถตู้ไปอ่างศิลาไปกับกลุ่มก้อนแก๊งค์เขาไป

ณ ปฐมบทนี้ ได้เรียนรู้แล้วว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป ข้าฯจะ “กล้าปฏิเสธ” (ไม่เกรงอกเกรงใจใครอีกต่อไป) ขอเลือกบอกกล่าวกันตรงๆ และเป็นตัวของตัวเองละกัน นี่คือ สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้ ผู้ที่รู้ภาษา...จะเคารพและเข้าใจในการปฏิเสธคำเชิญ ถ้าหากไม่เข้าใจ...ก็ให้เลือกคบ “บัณฑิต” ไปซะ...(ง่ายดี เร็วด้วย จบเลย)
แก้ไข 18 พ.ย. 60, 09:07
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 61: 5 พ.ย. 60, 10:34
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 2: [b]“คำพูด(ไม่)เป็นนาย”[/b]

ณ เวลาเริ่มต้นที่มีการเชื้อเชิญให้เพื่
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 2: “คำพูด(ไม่)เป็นนาย”

ณ เวลาเริ่มต้นที่มีการเชื้อเชิญให้เพื่อนพ้องน้องพี่ ขึ้นรถตู้ไปเที่ยวอ่างศิลานั้น ผู้เชื้อเชิญเคยเอ่ยไว้ว่า ในกลุ่มก้อนแก็งค์เรานี้หนา จะไม่ฝืนอกขืนใจใคร ลื้อจะใส่เสื้อสีไหนลายใด ก็ฟรีสไตล์ (Freestyle) ได้ทั้งนั้น จะอยู่ใกล้ไกลแห่งหนใดไม่ว่ากัน หากมีเวลาว่างเมื่อใด วันไหน ก็ขึ้นรถตู้มาตกปลาแบบ “มา-ม่ะ-มา-Join-กัน-Join-กัน” (นึกถึงเพลงของติ๊ก ชีโร่) เมื่อไหร่ก็ได้ ผู้โดยสารคนเก่าๆเราก็มากมี ไอ้นี่บ้านอยู่ตรงโน้น บางทีมันก็ขึ้นรถตู้ไปตกปลากับกลุ่มโน้น ส่วนไอ้นี่บ้านอยู่แถวนี้ ก็แวะมาขึ้นรถตู้ด้วยกันซะที่นี่...ดูแล้วก็สนามฉันท์กันดี (Alliance)  ไอ้เรานั้น...มันก็คนกันเอง เราไม่ได้ใช้ชื่อ Club เหมือนอย่างใครๆ เพราะเรานั้นไซร้ คือ Gang ดีๆนั่นเอง [เฮ้ย! บริบทในภาษาประกิตนั้น Sense ของคำ 2 คำนี้ มันไม่ต่างกันเลยวะ เพราะมันก็คือ “การเข้าพวกรวมฝูงกันอยู่ดี” เสมือนคำว่า “Flock” หรือ คำว่า “Company” นั่นเอง...จำไว้ใช้นะ] นี้คือ อีกหนึ่งคำโอ้โลมปฏิโลม เพื่อชักชวนให้เข้าแก็งค์ขึ้นรถตูไปเที่ยวอ่างศิลาด้วยกัน ณ ยามนั้น

เวลาล่วงเลย...ลำดับของกิจกรรมก็ผ่านเข้ามา ไม่น่าเชื่อเลยว่า สีของเสื้อผ้าที่ใช้บ่งชี้แก็งค์ (Gang) ดันกลายเป็น "กำแพงแยกมึงไม่ใช่พวกกู” ไปซะงั้น เฮ้ย! “ผู้รักษาประตู” (Goal Keeper) ในทีมฟุตบอล ไม่เห็นมันใส่เสื้อสีเหมือนใครเลย มันก็ยังเป็นหนึ่งทีมเดียวกันได้ ไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้ตัว “ลิเบอโร่” (Libero) ในทีมวอลเล่บอล ก็เช่นกันนี่หว่า นี่แหละหนา...“ซาลิว่า” (Saliva แปลว่า น้ำลาย) เมื่อถูกพ่นออกมาแล้วทำปฏิกิริยากับอากาศ แล้วกลายสภาพเป็น “เจ้านาย” อ้าว...ไหนเอ็งว่าจะไม่บังคับฝืนใจกันตั้งแต่แรกไง แต่งตัวฟรีสไตล์ก็ได้ไม่ใช่เหรอ โธ่ไอ้เจ้า “ซาลิว่า” เมื่อถูกเจ้านายพ่นออกมา แล้วลงมือทำ(ตามที่พูด)ไม่ได้ (No Commitment) มันก็กลายเป็นแค่ “คำคุย” ที่ Spit ขากถุยเจ้าออกมาแบบชุ่ยๆ...ก็เท่านั้น (เรียกกูขึ้นรถตู้ไปด้วยกันดีๆ พอลงรถมาแล้วเจอดี...ดันกลับคำให้การซะนี่ เป็นต้น)

ปฐมบทนี้ สอนให้รู้ว่า “The spoken words are your master and the unspoken words are your slave.” [แปล:  วาจาที่เปล่งไปแล้วเป็นนายตน วจีที่ยังมิได้เอื้อนเอ่ยเป็นทาสท่าน] ถ้าริอ่าน(อยาก)จะเป็นผู้นำกลุ่มแก็งค์ก๊วนก๊ก ต้องให้ความสำคัญกับ “สัจจะ” ในคำพูดแห่งตน พูดแล้วต้องใส่ใจและทำให้ได้ พูดแล้วทำไม่ได้ ก็เป็นได้แค่ “ไอ้ขี้คุย”
แก้ไข 21 พ.ค. 61, 16:10
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 62: 5 พ.ย. 60, 10:41
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 3: [b]“พฤติกรรมผู้นำกลุ่ม”[/b]

การสนทนาปราศรัยในกลุ่มฝูง เป็นเรื่องป
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 3: “พฤติกรรมผู้นำกลุ่ม”

การสนทนาปราศรัยในกลุ่มฝูง เป็นเรื่องปรกติที่สัตว์สังคม(มนุษย์)เขาทำกัน ดังนั้น การสนทนาระหว่างการนั่งรถตู้เดินทางไปเที่ยวที่อ่างศิลาจึงมีขึ้น คนนั้น...ลูกคนนี้ คนนี้...มีธุรกิจนั่น ส่วนผม...คนสำคัญ มีดีกรีจบ “สายวิทย์-ซิ-วะ” อีกทั้ง คนโน้น...เป็นช่างภาพและก็ถ่ายได้สวยกว่าเอ็งซะอีก ยิงปืน...ผมก็ชอบ ทุกกระบอกที่มี ระดับเทพทั้งนั้น สอยถ้วยรางวัลมาก็เยอะ (คนอื่นยืมปืนไปยิงแล้วได้ถ้วยรางวัลมา หาใช่ตัวเองไม่) ครั้นไปท่องเที่ยว...ก็เอากล้องห้อยคอ แต่ไม่เห็นมีผลงานโชว์ใน Portfolio ภาพถ่ายเลยซักนิด) แล้วที่(เอ็ง)เปรยๆ เอ่ยปากเปรียบเทียบคนโน้นคนนี้คนนั่น (เอ็ง)จะเป็นอึ่งอ่างพองตัวให้ใหญ่เท่ากับแม่วัวในนิทานอีสป...เพื่ออะไร “ลงมือทำ” ให้เกิดเป็นผลงานของตัวเอง ดีกว่าคุยโม้หรือไม่

บทสนทนาในรถตู้ในครั้งนี้ สอนไว้ว่า(ถ้าอยากจะเป็น) ผู้นำที่ดี ต้องมีพฤติกรรมอ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่ขี้โอ่โต้วาที(คนเก่งจริงเขาไม่อวดกันหรอก) พูดให้น้อย ฟังให้มาก (จะได้รู้ว่าลูกทีมเขาคิดอ่านกันอย่างไร) ลงมือทำให้เยอะ (เพราะตัวอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำสอน) มองภาพใหญ่ อย่าใส่ใจเรื่องสีเสื้อ(เพราะมิตรภาพคือเป้าหมายที่แท้จริง) หากจะ “พูด”...ก็พูดให้เกิดความรักสมานฉันท์ ไม่พูดเปรียบเทียบให้ชิงดีกัน หากจะ “ลงมือทำ” ก็ให้ชักชวนกันทำดี สร้างประโยชน์ (ไม่ชักชวนให้ลงรถตู้กรูไปหาเรื่องใคร) และสร้างความสามัคคี ให้เกิดในก๊วนก๊กหมู่เหล่า เริ่มจากเพื่อนฝูงในแก็งค์เล็กๆ แล้วขยายเป็นวงใหญ่ รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...แล้วคนไทยจะรักกัน (ปรับปรุงตัวซะนะ)
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 63: 5 พ.ย. 60, 10:43
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 4: [b]“จงเป็นตัวของตัวเอง”[/b] (Be Yourself)

ด้วยความคิดของผม คำว่า
บทเรียนแห่งความผิดพลาด บทที่ 4: “จงเป็นตัวของตัวเอง” (Be Yourself)

ด้วยความคิดของผม คำว่า “เพื่อน” มันไม่มีขอบเขต (No Boundary) และมันก็ไม่มีกำแพงแห่งธุรกิจ (No Conflict of  Interest) (แม้จะทำธุรกิจเดียวกัน ก็เป็นเพื่อนกันได้นี่หว่า ดีซะอีก จะได้ Synergy Business กันไปเลย) ใน Trip นี้ มีเพื่อนท่านหนึ่งเอ่ยทักทายผมว่า ยังเป็นเทสเตอร์ให้กับค่ายโน้นค่ายนี้อยู่ไหม ผมตอบด้วยใจจริงไปว่า ไม่เคยมีใครที่ไหน เขามาชักมาชวนผมให้เป็นเทสเตอร์อะไรเลย ที่เคยเห็นผมไปโน่นมานี่ ใส่เสื้อนี้สีนั้น ก็เพราะเขามาชวนผมไปตกปลา ตอนไป...เขา “แจกเสื้อ” ให้ผมมา...ผมก็ใส่ ถ้าเขาไม่แจก...ผมก็ใส่เสื้อที่ผมเตรียมจากบ้านไปเอง...ก็เท่านั้นครับ (และก็ไม่เคยมีค่ายไหน โทรมาปลุกผมตอน 6 โมงเช้า เพื่อให้ตื่นมาสั่งซื้อเสื้อ Gang สีเดียวกันเลย หากโทรมาขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย…จะไม่ว่าเลยซักคำ แต่นี่ดันโทรมาด้วยเรื่องไร้สาระในวันหยุดกูแต่เช้า…ไอ้ขวานหักเอ๊ย...กูแฮงค์…กูจะนอน) 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 64: 5 พ.ย. 60, 10:55
บทวิเคราะห์ในบทเรียนนี้...[b]ว่าด้วย “ปัจเจกนิยม”[/b]

สัญลักษณ์ (Symbol) ยี่ห้อ/ตรา (Brand) เครื่
บทวิเคราะห์ในบทเรียนนี้...ว่าด้วย “ปัจเจกนิยม”

สัญลักษณ์ (Symbol) ยี่ห้อ/ตรา (Brand) เครื่องหมายการค้า (Trademark) เป็นเครื่องมือ (Tool) การตลาดสร้างจุดขาย ก่อรายได้เข้าบัญชี อีกทั้งมูลค่าทางทรัพย์สินทางปัญญาให้กับสินค้า นอกจากนี้ยังทำให้เป็นที่รู้จัก (Well-Known) และได้รับความไว้วางใจ (Trust) ในตัวสินค้า สร้างคุณค่าทางการตลาดให้กับใครๆ ยี่ห้อใด ว่ากันไป ตามที่ใครจะคิดกัน

ลวดลายต่างๆ ที่ละเลงบนเสื้อผ้าก็เช่นกัน...สีโน้นก็ดี สีนี้ก็ใช่ มันจะมีเสียงเรียกขานประการใด ก็เพราะหวังจะให้แก็งค์ของข้าฯ เป็นที่ “รู้จัก” (ในวงการ) นี่คือการสร้าง “วัฒนธรรม” (Culture) ประจำกลุ่มแก็งค์ ส่วนการคัดสรรสมาชิก ไม่ได้ใช้ระบบ Up-Line หรือ Down-Line แต่อย่างใด แต่จะคัดสรรกันด้วยวิธีการใดนั้น ก็ไม่เคยคิดเสียเวลาไปใส่ใจใคร่รู้เช่นกัน ดังนั้น "การสร้างวัฒนธรรม” แบบนี้จึงเป็นตัวกำหนด...ว่ากลุ่มข้าฯ แก็งค์เอ็งนั้น..มีดีกรีใส่(เสื้อ)สีอะไร

เมื่อตัวข้าฯ มีดีกรีนี่และศรีโน่นอีกทั้งฉายานั่นแล้ว เคยได้รับรางวัลอย่างนี้อย่างโน้น...และอย่างนั้น เมื่อเอามาล้างแช่น้ำแล้วมัดรวมๆกัน ก็จะรู้ได้ว่า...มีน้อยคนนักหนาที่ไม่รู้จักฉัน (เอ็งเป็นดารา...ว่างั้น!?!) การนำเอาดีกรีต่างๆนานา มาผสมผสานเข้ากับตัวบุคคล เป็นการนำเอา "คุณค่าของดีกรีต่างๆ” มาสร้างให้เกิดเป็น “ความเชื่อ” (Belief) ต่อผู้คนให้ได้รับรู้รับชมการแสดงแสนยานุภาพตามดีกรีหรือสีเสื้อ (เช่น โปรนั่น อาจารย์นี่ ฉายาโน่น ได้รางวัลนั่น ใส่เสื้อสีนี้ เป็นต้น) ความเชื่อนี้จึงถูกใช้ประกบกับคนเด่นในก๊วน เพื่อสร้างวัฒนธรรมประจำแก๊งค์ให้เป็นที่ยอมรับของผู้คนในวงการ เป็นต้น

แต่ใน....“ความจริง” (Truth) เสื้อผ้านั้น...ไม่ว่าจะมีสีอะไร ต่างก็มีไว้เพื่อสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของคน ใช้ปกปิดร่างกาย(มิให้อุจาดสายตา) และป้องกันร่างกาย(ไม่ให้รับรับอันตรายจากสิ่งแวดล้อมภาวะอากาศ) และไอ้ “ความจริง” เช่นว่านี้ ตัวมันเองก็สามารถสะท้อนถึง “ความเชื่อ” และ “วัฒนธรรม” ได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่น่าสนใจในบทวิเคราะห์นี้ จึงมีอยู่ว่า “ทำอย่างไรจึงจะสร้างภาวะสมดุลระหว่าง วัฒนธรรม ความเชื่อ และความจริง เข้าด้วยกัน”

“ทำไมต้องซื้อเสื้อใส่เหมือนกัน (วะ)?” คำถามนี้ ทำให้ผมต้องไปเปิดดูตู้เสื้อผ้า คนโน้นที่ให้มา คนนี้ก็แจกให้ใช้ มันยังอยู่ในตู้ใช้สวมใส่ได้อีกนาน ดังนั้น ณ ปฐมบทนี้ ด้วยความเคารพ ผมจึงขอวิเคราะห์ว่าการ “ซื้อเสื้อ” ตัวใหม่มาพับใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า มันคือ...“การตามใจใคร” ที่ไม่ใช่การสร้างภาวะสมดุล(วะ)

ผม...ไม่ได้ปฏิเสธ(การสร้าง)วัฒนธรรม และผมก็...ไม่ได้ปฏิเสธในความเชื่อ(ของใคร) เพียงแต่...ผมชอบที่จะเผชิญกับความจริง และตัดสินใจสร้างอีกหนึ่งวัฒนธรรมใหม่...ด้วยการไม่ขึ้นรถตู้ไปอ่างศิลากับใคร และขอสวมใส่อะไรที่อยู่ในวิสัยแห่งสิทธิ “ปัจเจกนิยม” (Individualism) ก็แล้วกัน 
แก้ไข 21 พ.ค. 61, 16:16
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 65: 5 พ.ย. 60, 11:00
[b]ข้อเสนอแนะที่ได้จากบทเรียน[/b]

หากแม้ว่าการ “นิ่งเสีย” จะได้ตำลึงทอง แต่บางครั้ง ก็จำต้องเลือก
ข้อเสนอแนะที่ได้จากบทเรียน

หากแม้ว่าการ “นิ่งเสีย” จะได้ตำลึงทอง แต่บางครั้ง ก็จำต้องเลือก “สองไพเบี้ย” เพียงเพื่อให้ได้ “สื่อ” แนวความคิดอะไรออกไป(ให้...ใครบางคนได้ยิน) หาไม่แล้ว ก็จะเข้าตำราหลักกฎหมายปิดปาก “การนิ่งในสิ่งที่ควรปฏิเสธ”  (Doctrine of Estoppel) มีค่าเท่ากับเป็น “การยอมรับ” (อะไรในสิ่งที่ไม่อยากจะรับ) ด้วยข้อนี้ จึงขอเสนอว่า หากจะต้องเข้าตา(หมากรุก) ให้สื่อความในใจออกไป อย่าเก็บไว้ให้ค้างคา แม้ว่า...ต้องแลกมาด้วยการเสียหนึ่งตำลึงทองก็ตาม   (หมายเหตุ: ข้อเสนอแนะนี้มีความเสี่ยง ผู้ตัดสินใจลงทุนนำข้อเสนอแนะนี้ไปใช้ โปรดนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานะการณ์ ควรศึกษาผลข้างเคียง หากประเมินความเสี่ยงแล้วรับได้...ก็จัดให้เต็ม) 
แก้ไข 18 พ.ย. 60, 09:21
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 66: 5 พ.ย. 60, 11:05
[b]บทสรุป[/b]

บทสรุปนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายปัจเจกความคิด หากท่านใดคิดอ่านประการใด จะกรุณาสรุปให
บทสรุป

บทสรุปนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายปัจเจกความคิด หากท่านใดคิดอ่านประการใด จะกรุณาสรุปให้ว่าอย่างไร ก็เขียน Share & Learn ในกระทู้ แบ่งปันกันประสบกาณ์แบบพี่น้องผองเพื่อนกันไปนะครับ 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 67: 5 พ.ย. 60, 11:06
ขอคั่นโฆษณา...ด้วยอารมณ์ภาพการตกปลาแบบ Classic ด้วย Fly ซักนิดละกัน  :cool:
ขอคั่นโฆษณา...ด้วยอารมณ์ภาพการตกปลาแบบ Classic ด้วย Fly ซักนิดละกัน 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 68: 5 พ.ย. 60, 11:08
วิถี (Path) ของนักล่าฝันแห่งบ้าน AF จะเป็นเช่นไรนั้น ก็คงไม่ต่างจากการเรียนวิชาหลอกล่อนักล่าใต้น้ำให
วิถี (Path) ของนักล่าฝันแห่งบ้าน AF จะเป็นเช่นไรนั้น ก็คงไม่ต่างจากการเรียนวิชาหลอกล่อนักล่าใต้น้ำให้กัดเหยื่อเช่นกัน เพราะมันก็ไม่ได้ปูพรมแดงให้ตะแคงตีนเดินเสมอไป ผู้ที่อดทนต่ออุปสรรคตลอดเส้นทางการเรียนรู้ มักจะได้รางวัลเป็นผลตอบแทนที่ปลายทางเสมอ 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 69: 5 พ.ย. 60, 11:08
“บนทางเดินแห่งความฝันนี้ อาจไม่มีพรมแดงปูทาง อุปสรรคขวางหนาม มากมายเหลือเกิน...”  :talk:
“บนทางเดินแห่งความฝันนี้ อาจไม่มีพรมแดงปูทาง อุปสรรคขวางหนาม มากมายเหลือเกิน...” 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 70: 5 พ.ย. 60, 11:09
“แต่จุดหมายปลายทางของใจ จุดพลังให้ชั้นมีแรงก้าวไป ฝันนั้นไกลแค่ไหนจะไขว่คว้า...”  :talk:
“แต่จุดหมายปลายทางของใจ จุดพลังให้ชั้นมีแรงก้าวไป ฝันนั้นไกลแค่ไหนจะไขว่คว้า...” 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 71: 5 พ.ย. 60, 11:09
“บนทางเดินที่ดูยาวไกล กายและใจยังคงเดินไป จะไม่มีวันไหนที่หันหลังกลับ...”  :talk:
“บนทางเดินที่ดูยาวไกล กายและใจยังคงเดินไป จะไม่มีวันไหนที่หันหลังกลับ...” 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 72: 5 พ.ย. 60, 11:10
“อาจจะล้ม จะมีน้ำตา ก็จะลุกขึ้นมาด้วยตัวฉันเอง ฉันมั่นใจกลับทางที่เลือกเดิน...”  :talk:
“อาจจะล้ม จะมีน้ำตา ก็จะลุกขึ้นมาด้วยตัวฉันเอง ฉันมั่นใจกลับทางที่เลือกเดิน...” 
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 73: 5 พ.ย. 60, 11:10
เรียนรู้รสสัมผัส #1  :cool:
เรียนรู้รสสัมผัส #1 
กระทู้: 4
ความเห็น: 291
ล่าสุด: 25-04-2567
ตั้งแต่: 18-03-2558
K_amazon(23 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 74: 5 พ.ย. 60, 11:11
ชอบคับ มีความเป็นตัวเองไม่ต้องเสแสร้งอาจจะมีเพื่อนน้อยแต่เน้นคุณภาพ คนแบบนี้น่าคบ
กระทู้: 47
ความเห็น: 5,476
ล่าสุด: 24-04-2567
ตั้งแต่: 10-04-2547
ความเห็นที่ 75: 5 พ.ย. 60, 11:11
เรียนรู้รสสัมผัส #2 :cool:
เรียนรู้รสสัมผัส #2
หน้าที่:< 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 >
siamfishing.com © 2024