สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 8 พ.ค. 67
โลกของแร้งเฒ่า เล่ม ๑ <แร้งเฒ่า> : Fishing Book
 ห้องรีวิวหนังสือ
ความเห็น: 17 - [18 มี.ค. 54, 14:36] ดู: 12,396 - [7 พ.ค. 67, 06:18] โหวต: 8
โลกของแร้งเฒ่า เล่ม ๑ <แร้งเฒ่า>
ผิวไผ่ (204 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
22 ต.ค. 46, 08:29
1
โลกของแร้งเฒ่า เล่ม ๑  <แร้งเฒ่า>
ภาพที่ 1






ชื่อหนังสือ โลกของแร้งเฒ่า เล่มที่ 1
ผู้เขียน/ผู้แต่ง แร้งเฒ่า
สำนักพิมพ์ /ราคา / หน้า พิมพ์ครั้งที่ 1 หลอพับบลิชชิ่ง จัดจำหน่ายโดย ธนบรรณ ราคา 150 บาท 210 หน้า ปกอ่อน

ประเภท รวมบทความ ประสบการณ์การตกปลาทะเลของแร้งเฒ่า จากนิตยสาร โลกกว้างกลางแจ้ง


บันทึก  เป็นหนังสือที่ผมเคยอ่านสมัยยังไม่ได้ออกทะเล ก็รู้สึกว่าดีแฮะ ตอนนั้นผมอ่านโกวเล้ง อ่านอะไรต่ออะไรแล้ว โดยความหมายว่า เรายังมองไม่ออกว่า คนตกปลาทะเลจะผสมผสานมันได้อย่างไร กับบทความแบบนี้.. พอผมเริ่มออกทะเลบ้าง.. ผมรู้ว่ามันเป็นหนังสือที่ลงตัวในรูปแบบหนึ่ง..
สำหรับนักตกปลา คุณจะเพลิดเพลินกับบทบรรยายของหนังสือนี้ และจะได้เรียนรู้เทคนิคบางอย่าง แต่โดยส่วนใหญ่ คุณจะได้ฟังประสบการณ์จากแร้งเฒ่า
 



















(หน้า 112)

ทำเลหัวเรือเป็นที่สิงสถิตย์ของ ค่างคำแห่งโป่งตาลือ หลังจากใช้ชีวิตเดินป่าในแถบชายแดนเมืองกาญจนบุรีอยู่หลายปี ค่างดำตัดสินใจออกจากพงไพร ทิ้งสาบดินปืน หันมาจับคันเบ็ด สัมผัสกับเกมส์ที่ไม่ผิดกฎหมาย เกมส์ที่ไม่ทำลายล้าง และเกมส์ที่มนุษย์ให้โอกาสกับสัตว์มากที่สุด ยามนี้ในมือปรากฎคันสปินนิ่งผูกสายชักโง้ง เพียงเห็นประกายชักโง้งก็รู้มันคือมือชักโง้งของแผ่นดิน เพียงปลายคันสั่นระริก ค่างดำก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นปลาอะไร มีกี่ตัว...

บนหลังคาเรือ พ่อมดแห่งเหยื่อปลอมกับผู้เขียนกำลังสัมผัสราตรีแห่งความเมามาย  ภายใต้สายตาคมกริบกับอุ้งมือที่สะบัดคันส่งเหยื่อปลอมสร้างฝันร้ายให้กับปลาช่อนน้ำจืดมานับไม่ถ้วน ใครจะคาดคิดว่าวันนี้ถึงกับยัดเยียดฝันร้ายให้กับช่อนทะเล ยามนี้สายตาคมกริบกำลังปรือแทบลืมไม่ขึ้น ในมือไม่ปรากฎคันเบ็ดกลับเป็นแก้วสุรา ผู้ที่เมามายมากกว่ากลับเป็นผู้เขียนกลอนในความเมามาย

ลูกผู้ชายพึงมีชื่อ ร่ำสุราจึงเมามาย สนทนาหลังเมามายเป็นคำพูดจากหัวใจ (โกวเล้ง |::| เหยี่ยวนรกทะเลทราย)



หนังสือ โลกของแร้งเฒ่า (เล่ม 1) เป็นหนังสือที่คัดเอาบทความของแร้งเฒ่าจากนิตยสารโลกกว้างกลางแจ้งมารวมเป็นพ๊อคเก็ตบุ๊ค  ผมหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอยู่หลายรอบ ก่อนจะพบว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจมาก

บทที่คัดมาข้างต้น อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนรูปแบบของนิยายโกวเล้ง  แต่โดยความเป็นจริงๆแล้ว ถ้าอ่านทั้งเล่ม จะพบว่าที่จริงแล้วแร้งเฒ่าได้รับอิทธิพลจากนิยายของโกวเล้งมิใช่น้อย ในขณะเดียวกัน การเปรียบเทียบบางตอนก็พูดถึงตัวเอกของนิยายใน “เพชรพระอุมา” หรือกระทั่งอ้างถึงประโยคเด็ดของ เฮมิงเวย์ด้วย

ผลลัพธ์ มันกลายเป็นหนังสือในแบบของแร้งเฒ่า ที่รวมเอาหลายๆอย่างไว้ด้วยกัน แต่แกนของมันคือ ประสบการณ์การท่องทะเลของจอมดาบคนหนึ่ง เป็นจอมเสเพล จอมดาบพเนจร หรือจอมยุทธ์เด็ดบุปผา ก็คงให้คำตอบกันได้ยาก

หนังสือเล่มนี้ เรียบเรียงแต่ละตอนได้ต่อเนื่องกันดีมาก (ในความรู้สึกของผม) ถึงแม้ว่าแต่ละทริปจะต่างกรรม ต่างวาระกันเลยก็ตาม แต่เมื่อเอามาเรียบเรียงทั้งเล่ม กลับต่อเนื่องกันไม่ขาดตอน  แทนที่จะเป็นบันทึกแบบเชิงบันทึกประจำวัน แร้งเฒ่ากลับทำให้มันเป็น semi-fiction กึ่งนวนิยาย ทำให้มันน่าสนใจ มีชีวิตชีวา คนอ่านจะรู้สึกสนุกไปกับภาพที่แร้งเฒ่าวาดด้วยตัวหนังสือ


(หน้า 46)
ร่างดำทมึนนั้น เผินตัวขึ้นสะบัดเบ็ดในปาก อวดเรือนร่างราวกับต้องการข่มขวัญผู้บังอาจจูงมาถึงข้างเรือ ตลอดชีวิตของการอยู่อย่างผู้ล่าหล่อหลอมให้มันยโสเกินกว่าจะคิดหนีลูกเดียว เมื่อติดเบ็ดทีแรก อาศัยอาวุธประจำกายกับระดับความเร็วที่เหนือชั้นแม้แต่ฉลามก็ไม่ใช่คู่มือมัน ร่างนั้นร่วงลงสู่ระดับผิวน้ำ คันเบ็ดโก่งวูบ สาย 20 ปอนด์ไหลออกเร็วจนมองไม่ทัน
“กะๆๆๆ กะโทง” ผมแหกปากลั่น
ร่างนั้นกระโดดสะบัดตัวอีกครั้ง ออกห่างเรือราว 100 หลา พลังมหาศาลจากแพนหางทรงประสิทธิภาพกับพลังกล้ามเนื้อที่อัดแน่นในตัว ทำให้มันยืนอยู่ในตำแหน่งราชันย์แห่งเกมฟิชอย่างเต็มภาคภูมิ
สายเอ็นถูกกระชากออกไปครึ่งรอกภายในเวลาไม่กี่พริบตา ราชันย์แห่งเกมฟิชกระโดดพ้นน้ำอีกครั้ง สายขนาด 20 ปอนด์ ทำได้เพียงสร้างความรำคาญให้กับมันเท่านั้น เทพบุตรผิวน้ำเริ่มลากสายออกช้าลงจูงสายเวียนไปทางหัวเรือ ผมไต่ตามถึงหัวเรือ สายเอ็นยังถูกลากออกเป็นระยะ



ผมเคยอ่านบทวิจารณ์นักเขียน พบว่า นักวิจารณ์บางคนจะบอกว่า ถ้านักเขียนคนนั้นไม่มีประสบการณ์แบบนั้น ไม่ใช่ชีวิตแบบนั้น หนังสือเล่มนี้จะไม่เกิดขึ้น ผมมาลองคิดเล่นๆ หนังสือเล่มนี้ มันก็ประสบการณ์ของคนคลั่งไคล้การตกปลา และชมชอบตัวหนังสือ  ดังนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะการโหมออกทะลของแร้งเฒ่า ตัวหนังสือแบบนี้อาจจะไม่มีให้เราอ่าน

การเรียงบทของหนังสือ เริ่มจากทริปการออกทะเลทั่วไปๆ ค่ำคืนแห่งความเมามาย มิตรภาพ เพื่อนร่วมทริประหว่างทาง  และไต๋เรือ เฒ่าทะเลคู่ใจ ป๋าจ๋า... แกก็ควรจะเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เป็นตำนาน... ตำนานที่ยังคงมีชีวิต  ช่วงต้นเล่มเป็นบรรยากาศของทะเลแทบชลบุรี แสมสาร คู่มือของจอมดาบแร้งเฒ่า คือ อินทรี สาก โฉมงาม แชกำ  .. มันเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต... และมันก็เป็นการเรียกน้ำย่อย
หลังจากนั้น แร้งเฒ่าจะพาไปสัมผัสสิมิลัน... แล้วทิ้งท้ายด้วย เกมล่าฉลาม.. หมดจดงดงาม... เป็นชัยชนะหรือเป็นลีลา...หรือมันเป็นการต่อสู้ที่ควรค่าระหว่างคนตกปลากับปลา??


หน้า 92
“ยังไม่หยุดเลยเฮีย มันยังกระชากออกสั้นๆ” เจ้าหนุ่มเค้นเสียง
เจ้าตัวใต้น้ำดึงสายออกไปอีกไม่กี่สิบหลา จากนั้นมันคุมตัวแนวดิ่ง เปลี่ยนยุทธการใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว เจ้าหนุ่มยื่นคันเบ็ดให้ผมไว้ ตัวเองมุดเข้าเก๋งเรือ รื้อกระเป๋าอุตลุต ไม่กี่อึดใจก็กลับมาปรากฎที่ท้ายเรืออีกครั้ง พร้อมฮาร์เน็ตกับเข็มขัดสู้ปลา ท่าทางเข้มแข็งราวกับขุนพลใหญ่ในเสื้อเกราะ
ผมรีบส่งทวนคู่ใจกลับคืนให้  หลังล๊อคฮาร์เน็ตเข้ากับหูรอกขุนพลหนุ่มจัดแจงอวดเพลงทวนเข้าต่อกรกับเจ้าตัวใต้น้ำอย่างหักโหม  ทุกกระบวนท่านั้นหมายถึงชีวิต แต่คู่มือที่อยู่ใต้น้ำก็มิใช่ชั่ว ยุทธการคุบหน้าดินส่งผลให้ทวนในมืองอหงิก
สาย 30 ปอนด์ตึงเปรี๊ยะสะท้อนแสงไฟเป็นประกาย ปลายทวนกว่าจะดีดตัวได้แต่ละครั้งใช้เวลาหลายอึดใจ ร้อนถึงซือแป๋ ป๋าจ๋าต้องออกมาวิเคราะห์สถานการณ์

“อ๋อ .. ฉุดมันเข้ามาอีก ไม่ไกลก็ถึงที่มีหิน คราวนี้มันคุบไม่อยู่แน่” ซื้อแป๋ป๋าจ๋าชี้แนะ จากนั้นก็หลบกลับเข้าเก๋งเรือ เสพยานัตถ์ ขับไล่ความง่วง

ทางด้านขุนพลหนุ่ม หลังจากรับคำชี้แนะก็กำลังใจท่วมท้น โยกทวนเก็บสายทีละคืบ ลมหายใจฟืดฟาด เหงื่อเริ่มซึมจากแขนและใบหน้า แม้ฝนจะขาดเม็ดไปแล้ว แต่ชุดเสื้อผ้ากลับดูเปียกปอนมากขึ้น


ในบางฉาก แร้งเฒ่า จอมยุทธ์เร่ร่อนผู้นั้น กลับกลายเป็นตัวละคร เป็นฉากภาพแห่งความเป็นจริง หรือเป็นนิยาย (Base on true story) เสียเอง แต่นั้นเป็นในเชิงของการถ่ายทอดประสบการณ์จากท้องทะเลมากกว่า .. เป็นประสบการณ์ที่หลายๆคนอยากรับฟัง ก่อนไปประดาบกับคู่ต่อสู้จริงๆ


(หน้า 52)
“คัน Fenwick โก่งคอคำนับทะเลอีกครั้ง เสียงรอก 6 โอ แผดเสียงร้องลั่น อินทรีตัวนั้นคว้าเหยื่อปลาทรายแดงลากสาย 50 ปอนด์ พุ่งเข้าหาสันฉลาม ผมโดดพรวดเดียวถึงคันเบ็ด
ด้วยสายระดับ 50 ปอนด์ อินทรีตัวนั้นมีโอกาสสำแดงเดชเพียง มุดเข้า-ออก ท้องเรือไม่กี่รอบ ตะขอจำพรากในมือป๋าก็เกี่ยวขึ้นมาสำเร็จโทษ นอนยิ้มบนพื้นเรือ มันมีน้ำหนักถึง 14 กก. (ชั่งภายหลัง)
ผมปักคันเบ็ดเต้นแร้งเต้นกา กอดจูบอินทรีตัวนั้นราวกับได้พบคนรักที่พรากจากกันมานานหลายปี”


อย่างไรก็ตาม วันนี้ ถ้าหากซื้อหนังสือเล่มนี้ คาดว่าหายากแล้วตามร้านหนังสือ ใครที่อยากอ่าน อาจจะต้องการจัดพิมพ์ครั้งใหม่ ซึ่งแร้งเฒ่าบอกว่า จะต้องมีการจัดพิมพ์อย่างแน่นอน


เฮียเล็กผสมเหล้าส่งมาให้ ผมไม่ปฎิเสธ เพราะในยามที่ชีวิตถูกปลดปล่อยออกจากพันธนาการ มีอะไรจะดีไปกว่าการตกปลาและความเมามาย



กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024