สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 19 มี.ค. 67
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 11 - [19 พ.ค. 53, 09:31] ดู: 13,654 - [17 มี.ค. 67, 22:39] โหวต: 6
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
โย อุบล (407 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
25 ก.ค. 50, 12:45
1
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 1
+++สวัสดีครับน้า ๆ ชาว siamfishing.com ทุกท่าน+++

            เนื่องด้วยปัจจุบันมีการซื้อขายคันเบ็ดผ่านทางอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น  และมีหลายๆ คนที่ไม่คุ้นเคยกับการส่งคันเบ็ด
ทางไปรษณีย์ หรือบริษัทขนส่ง  เพราะน้า ๆหลาย ๆท่านจะเจอกับปัญหาเหล่านี้

    1. เมื่อท่านนำคันเบ็ดไปส่งที่ไปรษณีย์ มักจะโดนปฏิเสธ เนื่องจากคันเบ็ดยาวเกินไป
      แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในการส่งคันเบ็ดไปทั่วประเทศ จำนวนมากกว่า 500 คัน เป็นอย่างน้อย
      พบว่า ความยาวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ หากเราแจ้งให้กับทางที่ทำการไปรษณีย์แห่งนั้นให้ทราบว่า "ขอส่งแบบนอกถุง"
  ...จากประสบการณ์ของผมเองเคยส่งคันเบ็ดท่อนเดียวยาวถึง 7 ฟุต (210 Cm) ผ่านทางไปรษณีย์มาแล้ว

    2. หากทางไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้บ้านของท่านปฏิเสธในการรับส่งคันเบ็ด
                     
      +++ท่านก็ลองหาบริษัทขนส่งของเอกชนที่อยู่ใกล้บ้านของท่านแทน+++

                    บริษัทขนส่งของเอกชน ไม่จำกัดความยาวของสินค้าที่เราฝากส่งครับ (ถ้าไม่ยาวเกินกระบะของรถ 10 ล้อ ก็ส่งได้หมด)

    3. เมื่อน้า ๆ เลือกช่องทางในการส่งคันเบ็ดได้แล้วว่า จะส่งทางไปรษณีย์ไทย หรือ บริษัทขนส่งเอกชน

    ++สิ่งที่ท่านควรคำนึงอย่างมากยิ่งกว่าว่าจะส่งทางไหนระหว่างไปรษณีย์กับการขนส่งในแบบอื่นๆ ก็คือ การบรรจุคันลงในบรรจุภัณฑ์ที่จะทำให้คันเบ็ดปลอดภัย ไร้ริ้วรอย จนถึงมือผู้รับ+++

คันชิงหลิว เป็นคันเบ็ดที่ส่งง่ายกว่าคันที่มีไกด์ก็จริง

แต่คันชิงหลิวดี ๆ มักจะบรรจุในกล่องสวย ๆ

ผู้ซื้อที่ตัดสินใจซื้อคันชิงหลิวที่มีกล่อง ก็มักจะอยากได้กล่องนั้นด้วย

++นี่แหละคือที่มาของบทความนี้+++

เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 2

ถ้าเป็นคันที่ไม่มีกล่องแบบนี้ ก็ส่งได้ง่าย ๆ สบายๆ (ภาพที่ 2) 


1. เอาคันชิงหลิวใส่ซองผ้ารัดให้แน่นหนา

2. เอาพลาสติกกันกระแทกพันสัก 3 - 4 รอบ

3. จับใส่ท่อพีวีซี ปิดฝาท่อแล้วส่งได้ง่ายๆ สบาย ๆ

วิธีส่งคันเบ็ดให้ถึงผุ้รับอย่างปลอดภัย เรียงตามลำดับความเสี่ยง จากปลอดภัยที่สุดถึงเสี่ยงที่สุด

1. ส่งให้ถึงมือผู้ซื้อด้วยตัวเอง (ขับรถเอาไปส่ง หรือนัดเจอกัน)

    +++เหมาะสำหรับ กรณีที่ผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ใกล้กัน หรือสามารถนัดเจอกันได้โดยสะดวก


2. ส่งให้ถึงมือผู้รับทางไปรษณีย์หรือบริษัทขนส่ง  (อยู่คนละจังหวัด หรือไม่สามารถนัดเจอกันได้)

    2.1  แพ็คด้วยท่อใส่คันโดยเฉพาะ (ค่าท่อใส่คัน 300)  ค่าส่ง EMS ประมาณ 150 บาท
          ++++เหมาะสำหรับคันราคาสูง ๆ ที่ไม่หวงเงินแค่ 450 ในการรักษาเงินพัน เงินหมื่น+++++
   
            ++++ใช้ได้ทุกความยาว


    2.2  แพ็คด้วยท่อพีวีซี และกันกระแทกให้ดี (ค่าท่อ 100-150 บาท) ค่าส่ง EMS ประมาณ 100-150 บาท

          +++++ เหมาะสำหรับผู้ซื้อที่ไม่เรื่องมาก ไม่เกี่ยงค่าส่งและบ่นว่า เงิน 200 บาท "แพง" +++++++

      +++++++ใช้ได้ทุกความยาว (คันเบทจะใช้ท่อเล็กกว่าคันสปินดังนั้น อย่าแปลกใจถ้าคันสปินฯ ค่าส่งแพงกว่า)

    2.3  แพ็คด้วยท่อกระดาษ และกันกระแทกให้ดี (ค่าท่อกระดาษ ฟรี ถึง 20 บาท) ค่าส่ง EMS ประมาณ 68 บาท

          +++++เหมาะกับคนที่อยากประหยัดค่าส่ง  แต่ท่อกระดาษส่วนใหญ่จะไม่ค่อยยาว++++++++

            +++++เหมาะกับคันสองท่อน หรือคันสั้น ๆ  เพราะท่อยิ่งสั้นยิ่งแข็งแรง

    2.4  แพ็คด้วยกล่องกระดาษรูปสามเหลี่ยม (ค่ากล่องฟรี ++ขอเขามา อิ อิ) ค่าส่ง EMS ประมาณ 42 บาท

          +++++เหมาะกับคนที่อยากประหยัดค่าส่ง  แต่กล่องกระดาษส่วนใหญ่จะไม่ค่อยยาว++++++++

            +++++เหมาะกับคันสองท่อน หรือคันสั้น ๆ  เพราะกล่องยิ่งสั้นยิ่งแข็งแรง

    2.5  แพ็คด้วยกล่องกระดาษรูปสี่เหลี่ยม (ค่ากล่องฟรี++ขอเขามาเหมียนกัลล์) ค่าส่ง EMS ประมาณ 68 บาท (ยัดกระดาษหนังสือพิมพ์เยอะ เลยหนักกว่าสามเหลี่ยม)

      +++++เหมาะกับคนที่อยากประหยัดค่าส่ง  แต่กล่องกระดาษส่วนใหญ่จะไม่ค่อยยาว++++++++

            +++++เหมาะกับคันสองท่อน หรือคันสั้น ๆ  เพราะกล่องยิ่งสั้นยิ่งแข็งแรง


แต่ถ้าเป็นคันที่บรรจุอยู่ในกล่องแบบนี้ (ภาพที่ 3)  ต้องระมัดระวังให้เพิ่มขึ้น
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 3

อันดับแรกที่ต้องทำก็คือ (ภาพที่ 4)


1. เปิดดูความเรียบร้อยของคันชิงหลิว (ดูว่ามีตำหนิ/หรือแตกหักหรือไม่)
++ต้องลองยืดคันออกมาให้สุด และตรวจสอบที่ละท่อนว่ามีปัญหาหรือไม่

2. ปิดจุกอุดคันให้สนิท

3. หมุนเกลียวปิดท้ายของคันให้สนิท

4. ตรวจสอบความเรียบร้อยของกล่อง ว่ากล่องแตกหักหรือฉีกขาด ก่อนส่งหรือไม่


++เป็นความโชคดีของคันชิงหลิวคันนี้ ที่ถูกออกแบบมีฟองน้ำแข็ง ๆ รองรับคันไว้อยู่แล้ว
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 4

++เนื่องจากส่วนของปลายคัน และท้ายคันคือ  จุดเสี่ยงในการถูกกระแทกมากที่สุด (เพราะถ้ากล่องยาวพนักงานไปรษณีย์มักจะตั้งในแนวตั้ง)

ดังนั้น ++ขั้นตอนต่อมา (ภาพที่ 5 )


1. ตัดฟองน้ำให้เป็นชิ้นที่พอดีที่จะนำไปรองส่วนของปลายคัน

2. ตัดฟองน้ำให้เป็นชิ้นที่พอดีที่จะนำไปรองส่วนของท้ายคัน
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 5

ใส่เข้าไปให้หมดทุกส่วนสัด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ซื้อ(ภาพที่ 6)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 6

ยังๆ ยังไม่พอ ต้องมีพลาสติกกันกระแทก รองก่อนปิดฝากล่องอีก 1 ชั้น
เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ซื้อ(ภาพที่ 7)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 7

ปิดฝากล่องให้สนิท (ภาพที่ 8)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 8

ห่อกระดาษอีกสักชั้นจะเป็นไรไป  เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ซื้อ(ภาพที่ 9)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 9

กันกระแทกตรงหัวกล่องท้ายกล่องให้ดี ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ซื้อ(ภาพที่ 10)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 10

ยังไม่พอครับ...ต้องห่อด้วยพลาสติกันกระแทกทั้งกล่องอีก 1 ชั้น
เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ซื้อ(ภาพที่ 11)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 11

หาท่อ pvc ขนาดที่ยาว และใหญ่กว่ากล่องคันเบ็ด มาเพื่อเป็นเกราะป้องกันด่านสุดท้าย
เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ซื้อ(ภาพที่ 12)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 12

ต่อไปคือขั้นตอนการบรรจุลงท่อ (ภาพที่ 13)


1. นำกล่องที่ห่อแล้วใส่เข้าไปในท่อ

2. ปิดด้วยฟองน้ำทรงกลม อีก 1 ชั้น

3.ปิดด้วยแผ่นพลาสติกลูกฟูกทรงกลม อีก 1 ชั้น

4. ปิดด้วยแผ่น พลาสติกลูกฟูกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า อีก 1 ชั้น

5. พับขอบแผ่นพลาติกลูกฟูกทรงสี่เหลี่ยม  และพันสก๊อตเทปให้ติดกับท่อ

6. เสริมแผ่นพลาติกลูกฟูกทรงสี่เหลี่ยม  และพันสก๊อตเทปให้ติดกับท่ออีก 1 ชิ้น
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 13

พัน ๆ ให้เรียบร้อยตามภาพ(ภาพที่ 14)
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 14

ขั้นตอนสุดท้าย(ภาพที่ 15)


1. ผู้เชือกทำห่วงให้พนักงานไปรษณีย์ ผูกถุงติดกับท่อได้ง่าย

2. เขียนชื่อที่อยู่ แล้วปิดทับด้วยสติ๊กเกอร์ใส เพื่อกันน้ำ


เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 15


+++++หากเกิดความเสียหายกับคันเบ็ดที่ผมแพ็คกิ้งให้แบบนี้  ผมยินดีส่งสินค้าตัวใหม่ให้ทันที++++++



++หมายเหตุ++ข้อความนี้ขอฝากถึงคนที่ชอบเลียนแบบ ไม่ว่าจะชอบเอารูปสินค้าของคนอื่น 
หรือ ชอบลอกข้อความคำโฆษณาขายสินค้าของผู้อื่นไปใช้


  "ขอความกรุณาลอกเลียนความคิดในการส่งของแบบนี้ไปใช้ด้วย  จักเป็นพระคุณและประโยชน์ต่อพวกเราชาวสยามอย่างยิ่งครับ"
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 16

หากบทความนี้มีประโยชน์กับน้า ๆ ผู้อ่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอยกความดีนี้ให้กับ

1. น้าเว็บ  / webmaster of Siamfishing.com ที่ทำให้พวกเราได้มีเว็บดีๆ  ได้ แลกเปลี่ยนความรู้และมิตรภาพใหม่ ๆ  ที่ได้กลับมาเพิ่มขึ้นทุกๆวัน
2. นักตกปลารุ่นเก่าที่ตกปลาด้วยคันชิงหลิว มาตลอดชีวิต    ผู้จุดประกายให้ผมได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของคำว่า "สูงสุดคืนสู่สามัญ" อีกครั้ง


แต่ถ้าหากน้าๆ อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกว่าไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์หรือทำให้ท่านขุ่นข้องหมองใจ

ข้าพเจ้า โย อุบล ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

- + - ขอให้ได้คันชิงหลิวสวย ๆ แอ็คชั่นดี ๆ ใช้กันทุกคนนะจ๊ะ- + -
เทคนิคการส่งคันชิงหลิวอย่างปลอดภัย+++โย อุบล
ภาพที่ 17

แต่ถ้าอยากส่งส่งรอกแบบง่ายๆ คันชิงหลิวมีกล่อง หรือ คันเบ็ดแบบมีไกด์ หรือแม้กระทั่งการเข้าร่วมประมูลก็คลิ๊กตรงหัวข้อด้านล่างนี้ได้ครับ

1.  เทคนิคง่ายๆในการส่งรอกให้ถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยไร้ริ้วรอย++
2. เทคนิคการส่งคันชิงหลิวให้ปลอดภัยถึงมือผู้รับ++
3. เทคนิคการส่งคันเบ็ดมีไกด์ให้ถึงผู้รับอย่างปลอดภัย ไร้ริ้วรอย++
4. อ่านสักนิดก่อนคิดประมูล++
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024