สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 29 มี.ค. 67
วันเบาๆ ที่หมอเชาวน์ฟิชชิ่งปาร์ค(ภาค 6) : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 23 - [30 พ.ย. 53, 17:59] ดู: 9,734 - [20 มี.ค. 67, 20:05] โหวต: 8
วันเบาๆ ที่หมอเชาวน์ฟิชชิ่งปาร์ค(ภาค 6)
ปลาเข็ม offline
15 ธ.ค. 51, 22:52
1
อารัมภบท
  หลังจากที่ห่างเหินไปนาน  และแล้ววันเวลาและความทรงจำเก่าๆ ก็เหมือนได้หวนคืนมาอีกครั้ง  ผมได้ชักชวนเพื่อนบ้าน 2 ท่านแบบกระทันหัน  ซึ่งเป็นผู้มีความนิยมชมชอบในการตกปลาเหมือนๆ กัน  และที่ผ่านมาได้ร่วมกิจกรรมตกปลา ณ หลังบ้าน กันอยู่หลายครา  เพราะหากนัดหมายกันล่วงหน้าก็มีอันต้องคลาดเคลื่อนไม่ได้ไปกันสักทีจึงต้องชักชวนและไปกันเลย  โดยผมและเพื่อนบ้าน 2 ท่าน คือ แจ๊ค หลังเขา กับพี่เป๊ะ สวนตะไคร้ กลับไปเยือนเมืองราชบุรี เมืองโอ่ง บ้านเพื่อน  บ้านปลาบึก บ่อหมอเชาวน์ อีกครั้งหนึ่ง  เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2551 หลังจากที่ผมไม่ได้ไปมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว และการกลับไปในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความรู้สึกผิดหวังแต่ประการใด  ตรงกันข้ามกลับประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย  ตามผมมานะครับ จะเล่าให้ฟัง(อ่าน) ณ บัดนี้

เนื้อหา
  ผมได้นัดหมายเพื่อนบ้านทั้ง 2  โดยใช้เวลาในการตัดสินใจและวางแผนเพียงเสี้ยววินาที  ที่จะชวนกันไปตกปลาที่บ่อหมอเชาวน์  เพราะที่ผ่านมาพอวางแผนกันล่วงหน้ามักต้องมีเหตุทำให้คลาดเคลื่อนไม่ได้ไปจนได้  คราวนี้จึงต้องนัดหมายกันแบบนี้  ก่อนออกเดินทางจึงได้ตระเตรียมอุปกรณ์  รอกเบทบางตัวของผมห่างสนามไปนาน  ลูกปืนในรอกบางตัวเกิดอาการล๊อค  ฝืด  หมุนยาก  จึงต้องหยอดน้ำมันกันใหม่  รวมทั้งตระเตรียมอุปกรณ์ทั้งหลายได้แก่ คันเบ็ด  รอก  อุปกรณ์  ส่วนเพื่อนบ้านทั้ง 2 เป็นผู้ที่เคยตกปลาตามหมายธรรมชาติ  แต่สำหรับปลาบึก เจ้าแห่งปลาบ่อ  คงยังไม่เคยประมือด้วย  วันนี้คงได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า  สำหรับการเดินทางในครั้งนี้  เราเดินทางโดยรถยนต์ของผมเอง  ซึ่งก็เป็นครั้งแรกเหมือนกัน  เพราะก่อนหน้านี้ เวลาไปบ่อหมอเชาวน์ก็เดินทางโดยรถเครื่อง  เราออกเดินทางจากนครปฐม ประมาณ 11.12 น.  โดยใช้เส้นทางลัด ดอนเสาเกียด-บางแขม-บางแพ-แยกหัวโพ-บ้านไร่ชาวเหนือ  ถึงบ่อหมอเชาวน์ประมาณ 12.00 น.  พอไปถึงก็พบกับบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไป  ลงทะเบียนจ่ายค่าเบ็ดเสร็จ  จึงพากันหิ้วสัมภาระเดินเข้าบ่อ  มุ่งหน้าไปยังซุ้มฝั่งเดียวกับเคานเตอร์  เพราะที่ผ่านมาเคยตกแต่ฝั่งนี้มาตลอดไม่เคยไปตกอีกฝั่ง  วันนี้มีเพื่อนนักตกปลามากันบ้างหลายคน  แต่ยังไม่ถึงกับแน่นบ่อ  จากนั้นวางสัมภาระ  พากันประกอบอุปกรณ์  ผสมเหยื่อ  แจ๊ค หลังเขาใช้คัน Berkley แบล๊งค์ดำด้าน 8ฟุต รอก banax si1300 สายเอ็น trilene 12 ปอนด์ ของผม  ส่วนพี่เป๊ะ สวนตะไคร้ ใช้คัน 8 ฟุต  รอก golden สายเอ็น 20 ปอนด์ ของเขาเอง  สำหรับผม ใช้คัน penn power stick plus 7 ฟุต รอก banax ow730 สายเอ็น daiwa 30 ปอนด์  ชุดปลายสายใช้ตะกร้อวิ่ง  ส่วนพี่เป๊ะ สวนตะไคร้ ใช้ตะกร้อธรรมดาตกหน้าดิน  และในวันนี้มีการแข่งขันเล็กๆ เกิดขึ้นระหว่างเรา  ให้ปลาหลุดได้ 0.5 คะแนน  ปลาขาดได้ 0.7 คะแนน  และหากได้ปลา 1 ตัวได้ 1 คะแนน  หลังจากที่ส่งเหยื่อลงน้ำไปไม่กี่ครั้ง  แจ๊ค หลังเขา ประเดิมปลาบึกตัวแรกของวันด้วยปลาบึก ขนาด 7-8 กิโลกรัม  นำไปด้วยคะแนน 1 ต่อ 0 ต่อ 0  ผมจึงเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน  ดูมาดของเขาในการอัดปลา  แล้วรู้เลยว่าเคยมีประสบการณ์กับปลาใหญ่มาก่อน  มีมาดและพื้นฐานดีตามภาพครับ
วันเบาๆ ที่หมอเชาวน์ฟิชชิ่งปาร์ค(ภาค 6)
ภาพที่ 2
ภาพที่ 1  กำนัณแจ๊ค หลังเขา กำลังอัดปลาบึก
  หลังจากนั้นไม่นาน  ปลาบึกตัวที่สองของวันเข้าคว้าเหยื่อบนอุปกรณ์ของแจ๊ค หลังเขา อีกครั้ง  แจ๊ค หลังเขา ตรงเข้าประจำตำแหน่ง  กะว่าคะแนนที่สองต้องเป็นของข้าฯ และปลาตัวนี้ต้องใหญ่กว่าตัวที่แล้วแน่นอน  หลังจากอัดปลาไปอัดปลามา  ปรากฏว่าสายเอ็นมาขาดเอาที่บริเวณริมตลิ่ง  แจ๊คหลังเขาจึงรับคะแนนไป 0.7 คะแนน  รวมคะแนน 1.7 ต่อ 0 ต่อ 0  พอมาสำรวจสายเอ็นในรอกปรากฏว่าสายเอ็นเป็นรอยถลอกอยู่หลายแห่ง และสายเอ็นนี้มีสภาพค่อนข้างเก่าแล้ว  แจ๊ค หลังเขา จึงเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่  โดยใช้รอก daiwa sweepfire 4000 สายเอ็น 20 ปอนด์ ของเขาเองมาประกอบแทน  หลังจากส่งเหยื่อลงน้ำไม่นานนัก  ปลาบึกตัวที่สามของวันเข้าคว้าเหยื่อบนอุปกรณ์ของแจ๊คอีกประมาณว่าวันนี้ทำบาปขึ้น  แจ๊ค หลังเขาอัดปลาไปได้แต่รำพึงรำพันไปว่าจะรอดไหมนี่  เนื่องจากว่ารู้สึกหลวมๆ คลอนๆ ที่บริเวณขารอกซึ่งเป็นวัสดุ ABS ไม่แข็งแรงแน่นหนาแบบวัสดุโลหะของ si1300  ใช้เวลาไม่นานนักอีกหนึ่งคะแนนก็ตกเป็นของเขา  และนำไปด้วยคะแนน 2.7 ต่อ 0 ต่อ 0
  กลับมาที่อุปกรณ์ของผมบ้าง  หลังจากที่ไม่ได้ตีรอกเบทมานานกว่า 2 ปี  แต่ก็ยังพอเอาตัวรอดได้  สายเอ็นไม่ฟู่  ส่วนระยะทางทำได้ไม่ดีพอควร  กว่าจะปรับตัวและอุปกรณ์ให้เข้าที่เข้าทางได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน  ปลาบึกตัวแรกของผมก็เข้าคว้าเหยื่อบ้าง  อัดปลาไปสักพัก  ผมเลยส่งคันให้พี่เป๊ะ สวนตะไคร้ได้อัดปลาบ้าง  ปรากฎว่าปลาตัวนี้ดันเป็นปลาเชลยซะนี่  ขึ้นมาเกยตลิ่งแถมมีชุดปลายสายตามติดขึ้นมาด้วยเป็นพวง  คะแนนตอนนี้จึงเป็น 2.7 ต่อ 0.5 ต่อ 0
  ย้อนกลับไปที่อุปกรณ์ของแจ๊ค หลังเขา  หลังจากที่ใช้รอก sweepfire แต่เกรงว่าจะไปไม่รอด  จึงได้เปลี่ยนมาใช้รอก shimano 500s ซึ่งเป็นรอกมือสองที่ผมได้นำกลับมาจากแดนปลาดิบด้วย  จึงได้ถ่ายสายเอ็นจากรอก sweepfire มาใส่รอกตัวนี้แทน  พังเป็นพังผมบอกกับแจ๊ค หลังเขา  เพราะตั้งแต่ได้รอกตัวนี้มา  ยังไม่เคยทดสอบและลงสนามที่ไหน  เคยถามในเว็บนี้ก็ไม่มีใครรู้จัก  รูปทรงรอกตัวนี้มีหุ่นคล้าย daiwa BG banax SX  แต่วัสดุของรอกตัวนี้เป็นกราไฟท์ ซึ่งผมได้ซื้อมาทดแทน SX5000 ของผมที่หล่นจมอยู่ที่ปลายแหลมพรหมเทพเมื่อหลายปีก่อน  หลังจากที่ส่งเหยื่อลงน้ำไม่นาน และทั้งๆ ที่ระยะทางก็ใกล้กว่าเดิมไปมาก  ปลาบึกตัวดีของวันนี้เข้าคว้าเหยื่อ และพาสายวิ่งออกไปแบบไม่หยุดยั้ง  แจ๊ค หลังเขา มอบให้พี่เป๊ะ สวนตะไคร้ เข้าประจำตำแหน่งแทน  พี่เป๊ะ สวนตะไคร้ได้แต่ตั้งคันรั้งสายไว้อย่างเดียว  สายเอ็นในรอกยุบตัวลงอย่างน่าใจหาย  สายเอ็นจะหมดรอกไหมนี่ พี่เป๊ะ สวนตะไคร้ เปรย  “มันไม่เข้า”  ผมบอกเพื่อนบ้านตัวนี้ 3 รุม 1  สำหรับอุปกรณ์ที่ต่อกรกับเจ้าตัวนี้ มองดูคันเบ็ดค่อนข้างอ่อนเกินไปเมื่อเจอกับปลาบึกขนาดนี้  ทำให้อัดปลาไม่ค่อยเข้า แต่ว่าความเหนียวแน่นของคันใช้ได้เลยครับ  ส่วนรอก 500s ถึงแม้จะเป็นวัสดุกราไฟท์แต่ว่ามีความแข็งแรงในระดับดี  แต่พลังเบรกของรอกยังไม่มากพอหากเทียบกับรอกเบทในขนาดที่พอๆ กัน  ต่อมาแจ๊ค หลังเขา เป็นไม้ที่สองที่รับมือกับปลาบึกตัวดังกล่าว  สู้กันอยู่สักพักก็ส่งไม้ผลัดต่อมายังผม  เมื่อรับคันมาแล้วแรงดึงมหาศาลทีเดียวครับ  พอๆ กับหรืออาจจะมากกว่าปลาบึก 34 กิโลกรัม ที่เคยได้บริเวณนี้เมื่อหลายปีก่อน  หลังจากเป็นปลาซ้ายอยู่พักหนึ่ง  ก็กลายเป็นปลาขวาพาสายไปทางหัวบ่อ  ผมเช็คสายพร้อมกับกล่าวคำปลาซ้ายและขอโทษเพื่อนนักตกปลาท่านอื่น  เนื่องจากปลาพาสายไปพาดกับสายเอ็นของเพื่อนนักตกปลาเข้า  หลายคนเข้าใจและไม่ว่ากันพร้อมหลบสายให้  แต่มีบางท่านไม่ค่อยพอใจเราเท่าที่ควร  ตอนนี้ปลามาอยู่ที่หัวบ่อแล้ว  ดึงกันไปกันมาอยู่สักพัก  ทั้งๆ ที่ 3 รุม 1 ก็แล้วปลายังไม่ยอมเข้าฝั่งง่ายๆ  เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สปินและคันแรงงัดน้อยไปนิด  หากเป็นอุปกรณ์เบทคงทำได้ดีกว่านี้  สุดท้ายใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที ปลาบึกตัวดีของวันนี้จึงยอมจำนนเข้าเกยตื้นสู่ริมตลิ่ง  ชั่งน้ำหนักด้วยสายตาแล้วน่าจะประมาณ 40 กิโลกรัม  จึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน  ปลดเบ็ด  ปล่อยปลาไปครับ
วันเบาๆ ที่หมอเชาวน์ฟิชชิ่งปาร์ค(ภาค 6)
ภาพที่ 4
ภาพที่ 2  หนุมานถวายแหวน  เอ๊ยไม่ใช่ ปลาบึกตัวดีของวันกำลังอัดเราครับ
วันเบาๆ ที่หมอเชาวน์ฟิชชิ่งปาร์ค(ภาค 6)
ภาพที่ 5
ภาพที่ 3  ปลดปล่อยปลาบึกตัวดีของวันนี้ครับ
  เราตกปลากันสักพัก  ได้ปลาเพิ่มบ้าง  หลุดบ้าง  ลากสายแต่ไม่ติดเบ็ดบ้าง  แต่อุปกรณ์ของพี่เป๊ะ สวนตะไคร้ ยังไม่ทำงาน  ผมและแจ๊ค  หลังเขา  เราคาดเดาว่าอาจมีสาเหตุมาจากชุดหน้าสายก็เป็นได้  เนื่องจากปลากินแต่อุปกรณ์ของผมกับแจ๊ค  หลังเขา  จึงได้เปลี่ยนชุดหน้าสายของอุปกรณ์พี่เป๊ะ  สวนตะไคร้ เป็นตะกร้อวิ่งรูปแบบเดียวกัน  และเปลี่ยนคันเบ็ดเป็นคันเบท Berkley แบล๊งค์ดำด้าน 8 ฟุต ของผมแทน  แต่ใช้รอกสปินนิ่งของพี่เป๊ะ  สวนตะไคร้ เหมือนเดิม  หลังจากส่งเหยื่อลงน้ำไม่กี่ครั้งและไม่นานนัก  ปลาบึกตัวแรกของพี่เป๊ะ สวนตะไคร้ เข้าคว้าเหยื่อในที่สุด  ซึ่งเราก็พากันแปลกใจว่าเป็นไปได้ว่าวันนี้ตะกร้อแบบธรรมดาสู้ตะกร้อวิ่งไม่ได้  พี่เป๊ะ  สวนตะไคร้ เข้าประจำตำแหน่ง  ปรากฎว่ารอกต้องปรับปรุงครับ เนื่องจากเบรกไม่ค่อยอยู่  ต้องใช้นิ้วราสปูลช่วย  ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ปลาบึกตัวแรกของพี่เป๊ะเข้าสู่ฝั่ง  ปลดเบ็ด  ปล่อยปลา  ส่งเหยื่อลงน้ำ นั่งรอต่อไป
วันเบาๆ ที่หมอเชาวน์ฟิชชิ่งปาร์ค(ภาค 6)
ภาพที่ 7
ภาพที่ 4  พี่เป๊ะ  สวนตะไคร้ อัดปลาบึกตัวแรกของวัน
  วันนี้  บรรยากาศช่วงแรกที่ผมและเพื่อนบ้านมาถึง  ท้องฟ้าปิด  บรรยากาศดี  ไม่ร้อนมากนัก  น้ำในบ่อเป็นสีเขียวขุ่น  แต่พอช่วงบ่าย  ท้องฟ้าเปิด  อากาศค่อนข้างร้อน  ส่วนเพื่อนนักตกปลาช่วงแรกที่ผมและเพื่อนบ้านมาถึง มีอยู่มากนัก  พอช่วงบ่ายมีเพื่อนนักตกปลามากันมากขึ้น  แต่มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น คือ ระหว่างที่ผมและเพื่อนบ้านอัดปลาบึกตัวดีของวันนี้ ปรากฏว่ามีเพื่อนนักตกปลา 1 ท่าน ที่อยู่ซุ้มฝั่งตรงกันข้าม เดินมาที่ซุ้มของเราซึ่งไม่มีใครอยู่ที่นั่น สักพักจึงเดินกลับไป  โดยที่เราไม่ทราบว่าเขามีเจตนาอย่างไรจึงมาที่ซุ้มของเราทั้งๆ ที่ไม่มีคนอยู่  จึงอยากจะฝากเพื่อนนักตกปลาให้ระมัดระวังกันไว้นะครับ  เพราะเหตุการณ์แบบนี้อาจสร้างความบาดหมางแก่กันและกันได้นะครับ
  หลังจากที่เฝ้ากันอยู่สักพัก  ได้ปลาบึกเพิ่ม 1-2 ตัว  รวมปลาบึกที่ได้ จำนวน 8 ตัว  สมควรแก่เวลาเราจึงเก็บอุปกรณ์และเดินทางกลับบ้าน  ถึงนครปฐมประมาณ 18.30 น.

สรุป
  นับว่าเป็นการหวนกลับที่ประทับใจมากครับ  เล่นเอาผมและเพื่อนบ้านสะบักสะบอมกันไปตามๆ กัน  เพื่อนบ้านบางคนบอกว่ามาคราวหน้าขอมานั่งดูและจะช่วยอัดปลาให้  แล้วก็ว่าอุปกรณ์ที่เขามีอยู่ไม่เหมาะที่จะต่อกรกับปลาบึกจึงคิดจะไปหาอุปกรณ์ใหม่มาใช้แทน  แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับเพื่อนบ้านที่ไม่เคยตกปลาบึกมาก่อน  สุดท้ายนี้ หากได้มีโอกาสกลับมาที่นี่อีก จะได้นำสิ่งต่างๆ ที่ได้ประสบ มาเล่าสู่กันฟังในครั้งต่อไป  ขอให้มีความสุขกับการตกปลานะครับ

ปลาเข็ม
15 ธ.ค. 51
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024