สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 6 พ.ค. 67
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 9 - [17 ส.ค. 52, 09:38] ดู: 5,262 - [5 พ.ค. 67, 13:32] โหวต: 1
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ป.ประจิณ (232 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
9 ส.ค. 52, 22:21
1
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 1
จากหน้ากระทู้...สู่บทความ


        ผมรอวันนี้มาหลายเดือน  เมื่อเห็นเรือประมงของญี่ปุ่นขนาด 24 ฟุต ซึ่งเฮียพรเทพสั่งมาเล่น และจอดซ่อมอยู่ที่หน้าร้านพรเทพมารีน ของเฮียแก ดูว่าคงเก่ากว่า 10 ปี แต่ก็ยังงาม เพรียว มีเอกลักษณ์ของแดนปลาดิบ เฮียค่อย ๆ ปรับปรุงผสมกับรูปแบบเรือตังเกบางส่วนเข้าไป ให้ถูกใจคนใช้  และสภาพของทะเลไทย  เคยไปทดสอบวิ่งในแม่น้ำบางปะกง ถึงช่วงปากอ่าวมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังคาใจ...วันหยุดยาวนี้ล่ะ! จะพาไปออกฤทธิ์ตกปลาหานิพพานทะเลตราด ให้รู้เหนือรู้ใต้ไปเลย
      ช่างเร่งมือเพื่อให้เสร็จทันสงกรานต์  ซึ่งเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดของเหตุการณ์วิกฤตในบ้านเมืองเรา คนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นอะไรกันอยู่ ? บนเส้นขนานแห่งความคิด ใครจะผิด ถูก ยากจะหาคำตอบที่เป็นธรรม แต่เป็นกรรมของคนทั้งประเทศ ผมไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากัน เพียงเพื่อจะเป็นปุ๋ยชีวภาพที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ กับเพิ่มมลภาวะให้โลกร้อนขึ้น ผมจะกรวดน้ำทั้งทะเลแล้วแผ่เมตตา ให้ทุกคนรักกัน ภัยสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง รอทุกคนมาร่วมแก้ อย่ามัวขัดแย้งกันอยู่เลย...
      กว่าจะเตรียมเรือ  ข้าวของเสร็จก็หลังเที่ยงคืน  เราไปกัน 3 คน  แคทลูกชายเฮียพรเทพ  ทำหน้าที่ขับรถลากเรือในช่วงแรก  จนถึงสามแยกแกลงเห็นเริ่มง่วง  คงซ่อมเรือเหนื่อยมาทั้งวัน  ผมขอรับหน้าที่ขับรถต่อจนถึงตราดจวนฟ้าสาง แม้จะวูบบ้างเป็นบางครั้ง  แต่ก็ยังพอฝืน
    เราแวะซื้อของที่ตลาดตราดช่วงเช้ามืดนิดหน่อย  วันนี้ไม่เห็นมีหมึกสด ๆ ขึ้นมาวางขาย  แต่ไม่เป็นไรผมเตรียมหมึกตายจากชลบุรีมาส่วนหนึ่งแล้ว ไปลงน้ำมัน  น้ำแข็ง  เสร็จแล้วก็เอาเรือไปลงน้ำที่คานเรือหาญสวัสดิ์  คลองใหญ่  แหลมงอบในช่วงสาย  ขณะที่น้ำลงไปมากแล้ว ต้องรีบออกเดินทางก่อนที่เรือจะเกยตื้น
    พ้นปากคลองมาได้ เฮียพรเทพก็ให้ผมถือท้าย เพื่อทดสอบเรือไปด้วย  3 ชั่งโมง ก็ถึงร่องช้าง เกาะง่าม  เรือทำความเร็วได้ 5-6 ไมล์  ซึ่งก็เท่ากับเรือตกปลาทั่วไป  ไม่ได้เร่งเครื่องแบบสุด ๆ  ก็สนุกดี เป็นเรือประมงย่อส่วน อุปกรณ์ครบ เป็นตัวช่วยในการย้อนอดีตคราวนี้
      ผ่านเกาะใบดั้ง มุ่งหน้าเกาะหมาก ท้องฟ้าที่ฉ่ำฝน ตั้งเค้าแต่ออกเดินทาง  ก็พร้อมใจกันเทลงมา  มืดฟ้ามัวน้ำไปหมด  ทั้งลม ทั้งคลื่น ลูกแล้ว  ลูกเล่า  ผมไม่ยอมหลบเกาะ ด้วยต้องการทดสอบเรือ เป็นไรเป็นกัน เรือก็ดันคลื่นไปได้ดี  เปียกไปด้วยกันทั้งคนทั้งของ  เครื่องยนต์ยันม่า 2 สูบ 17 แรงม้า ตามที่เฮียบอกมา  ดูแล้วเข้าท่า
“ทริปนี้ผมเป็นไต๋  นะเฮีย” ผมบอกเฮียพรเทพ
“ผมเป็นเอ็นจิเนียร์เอง” เฮียพูด พร้อมกับดูแลเครื่องยนต์ไปด้วย
“  แคทเป็นจุมโพ่ เด็กเรือนะ”ผมเสนอ ก็เรามีกันแค่ 3 คน
“ได้ครับผม”แคทยิ้มรับ  พร้อมกับวิดน้ำที่ขังพื้นเรือ
    ผมกับเฮียพรเทพ ถึงแม้จะรู้จักกันมานาน ลากเรือเร็วไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง แต่ก็อยู่กันคนละลำ พอจะรู้ฝีไม้ลายมือ วันนี้ต้องมาลงเรือลำเดียวกัน เคยเป็นไต๋ด้วยกันมาทั้งคู่ แต่จะเหมือนกันหรือเปล่า ? 
    ผมเคยขับเรือฝ่าคลื่นลม เฉียดตายมาหลายครั้งแล้ว จึงไม่ค่อยนึกกลัวยามทะเลโกรธ มีแต่นับวันจะรัก เคารพ และเข้าใจธรรมชาติของเธอมากยิ่งขึ้น ตัวเราก็เป็นส่วนหนึ่งในมรรคานี้ ธาตุทั้งสี่มีอยู่ในตัวทุกท่าน ธาตุน้ำมากสุดถึงสามส่วน ดินรองลงมา ไฟกับลมเป็นส่วนผสมที่ลงตัว  ชีวิตจึงคงอยู่ได้ ชั่วขณะ ทะเลก็เช่นกัน ต่างกันที่คนมีชีวิต จิตใจ ทะเลมีชีวิตเหมือนกับต้นไม้ แต่ไม่มีจิต ผมคิดไปเรื่อย ๆ เรือก็ดันคลื่นไปข้างหน้า
      ท่ามกลางทะเลโกรธกว่าสองชั่วโมง ท้องฟ้าก็เริ่มเปิดเมื่อมาถึงหัวเกาะหมาก  คลื่นลมสงบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  บ่ายแก่ๆ  ท้องเราสามคนหิวแล้ว  จึงชวนกันจอดเรือหุงข้าว  หาปลาทำกับข้าวก่อนดีกว่า  เดี๋ยวน้ำก็จะขึ้น  อาจมีความหวังรออยู่ตรงนี้
   
   
   
 
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 2
“ไม่ต้องรีบร้อน...อยู่กับของรัก 3 วัน  ก็เหมือน 3 ชั่งโมง...เวลาเป็นแค่สิ่งสมมุติ”
    ลงเบ็ดคนละคัน...ใครจะได้มันก่อน ?  ข้าวยังไม่ทันเดือด “เอ้า...เอาเข้าแล้ว...เฮีย...พร...เทพ”ว่าแล้วก็เห็นกับข้าวอ้วนขาว  ลอยขึ้นมารอท่า ต่อหน้า เป็นปลาเปิดเกมวันนี้ได้ถูกใจ  สวยงาม  ตามที่หวังไว้กับหมายนี้ หมายไม่ค่อยดังแต่มีดี เคยมาติดลมตอนปลายปี...ได้ปลาเก๋าเลี้ยงชีพ...ต้องมาขอบคุณ
    เฮียพรเทพ  ยิ้มร่ากับปลาตะคองลาย  บอกให้ลูกชายแล่ผัดกระเพรา  เอาเผ็ด ๆ  ใส่พริกไม่น้อยกว่า 17 เม็ด ผมฟังแล้วน้ำลายจะหกรดคอหอย...ฮา ๆ พอได้กินอร่อยสมดังใจจากฝีมือจุมโพ่เรา  ตามด้วยกาแฟดำอีกแก้ว หูตาก็สว่าง น้ำเดินดีแล้ว เดี่ยวคงจะมีความหวัง ขยับเรือให้เข้าที่อีกที เฝ้ารอต่อ น้ำเดินแรงขึ้น  ปลาก็ไม่ฉวย 
“ไต๋ สงสัยจะจอดห่างหิน”  เฮียตั้งข้อสังเกตุ
“ เดี๋ยวน้ำอ่อนก็น่าจะฉวย”ผมให้ความเห็น “ ปลาตะคองจะฉวยเบ็ดดีตอนน้ำอ่อน ๆ เช้าหรือเย็น  นี่!ก็ใกล้เย็นแล้ว”
“ย้ายหมายดีกว่าไต๋” ผมอยากจะเฝ้าต่อ แต่กลัวเฮียจะไม่สนุก “ เอ้าย้ายก็ย้าย”
“แคท...ถอนสมอ” คว้านสมอไฟฟ้าดูสะดวกง่าย
“ไปหมายไหนดี?”
“กองเกาะกระดาษ” วิ่งเรืออีกสองชั่วโมง... พอไปถึงน้ำก็เกือบจะนิ่ง
      นี่ก็เป็นหมายดังในอดีต  เคยมากับไต๋อ้วนแหลมงอบ  ซึ่งเสียไปแล้ว  มีไอ้เปีย  ไอ้โฉม  รุมโทรมแทบแย่  แต่วันนี้มีแต่ปลาเล็ก  ปลาน้อย  พอได้ต้มยำ  ทอดราดน้ำปลา สำหรับมื้อเย็น ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน เราก็ย้ายหมายไปหาเหยื่อ
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 3
อ่าวนิด  ตะวันออกเกาะหมาก หมายตกหมึกแห่งเดียวของบริเวณนี้ ที่พอจะหาเหยื่อเป็นได้  รองจากอ่าวสลักเพชร และแถวเกาะไม้ซี้ใหญ่ เราใช้ไฟนีออนสีเขียวล่อ พอตกได้หมึกเป็นชั่วโมงละ 2-3 ตัว  เห็นมีขึ้นมาเล่นไฟ แต่ไม่ค่อยจะฉวยเบ็ด  ต้องอาศัยตื๊อเอากว่าจะได้แต่ละตัว  เฝ้าตกจนพระจันทร์ขึ้นก็ได้มาสัก 20 กว่าตัว แค่ไหนก็แค่นั้น  หลังเที่ยงคืนเราจึงไปหาแหล่งตกปลา
    ผมหันหัวเรือไปทางข้างเกาะกูดด้านทิศเหนือราวหนึ่งชั่วโมง  มีกองหินขนาดใหญ่  วนเวียนอยู่หลายรอบก็เข้าหมายไม่ได้  ซาวเดอร์มีปัญหา  หน้าจอมีคลื่นรบกวน ติด ๆ ดับ ๆ ตลอด  ใช้ได้แต่จีพีเอส  ตีสามแล้ว พระจันทร์แรม 5 ค่ำมองเห็นดาวกระจ่างฟ้า  ขุนเขาทะมึนลิบ ๆ  น้ำยังคงไม่เดิน  จึงตัดสินใจวิ่งไปที่กองหินหน้าคลองเจ้า ผ่านเกาะไม้ซี้เล็ก ช่องเกาะแรด  สองชั่วโมงก็น่าจะถึง...ช่วงเช้ามืดอาจมีปลาสากฉวย
      นักตกปลาก็หวังไปเรื่อย ๆ แม้จะผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่เคยหลาบจำ ขับเรือยามดึกปลดปล่อยความคิดให้มันล่องลอยไปกับผืนน้ำก็มีความสุขแล้ว สำหรับผมไอ้สากมันคือน้ำบ่อหน้า...ถึงแล้วทิ้งสมอ
    จากตีสี่ถึงรุ่งสาง  ทุกคนหลับกันสบายไม่มีปลาอะไรมารบกวน  น้ำกองนอกคงเริ่มเดินแล้ว เห็นท้ายเรือปัดไปทางหัวแหลมโมง เป็นหัวน้ำลง ผมปลุกสองคนย้ายหมายไปลองที่กองปะการังเทียมถัดจากนี้อีกหน่อย  ให้เวลาหมายนี้มาหลับหนึ่งแล้ว
      ทอดสมอเสร็จ  แค่เหยื่อหย่อนถึงพื้น  ปลาก็ฉวยทันที 
“ไอ้เปี๊ย...ไต๋…ตัวขนาดนี้หายากนะ” เฮียพรเทพเชิญขึ้นบนเรือก่อน ขณะที่พระอาทิตย์โผล่สันเขา แสงเงิน แสงทองจับฟ้าสูง เห็นเกาะกูดเป็นทิวน้ำเงินยาว สูง ต่ำ สลับกันไปตัดกับขอบฟ้า  ทะเลยามเช้าช่างสวยงาม สดชื่นยิ่งนัก  สักพักรอกเฮียพรเทพก็ร้องยาวอีก แล้วมันก็ขึ้นมาอยู่ในมือเซียน
“ปลาโฉมงาม...เฮีย...เป็นฝูงแน่” ผมพูดขณะถ่ายภาพให้ เฮียโชว์ด้วยรอยยิ้ม
      ถ่ายภาพยังไม่ทันเสร็จคันท้ายเรือของผมก็งานเข้า  นาน ๆ จะได้อัดที ก็ขอเล่นหน่อยค่อย ๆ เข้ามามะ...น่าน...อย่างนั้น...ไม่ต้องกลัวนะ! เจ้าปลา ข้าจะพาไปสวรรค์  ปลามากมายในทะเล จะมีสักกี่ตัวได้ตายในอุ้งมือข้า ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว  เจ้าก็จะไม่ตายเปล่า ข้าจะเอาไปฝากเมียข้า เธอทำอาหารเก่ง ชอบใส่บาตร  ข้าก็จะภาวนาช่วยเจ้า  ด้วยบุญกุศลทั้งหลายที่ข้ามี เจ้าจะได้ไปเกิดใหม่ ข้ามภพข้ามชาติ  เป็นอาหารให้มนุษย์ผู้มีศีลบางส่วน ดีกว่าให้ไอ้หลามมันกินนะ! น้องโฉม...นั่น...
    วันนี้เฮียพรเทพมือขึ้นได้โฉมงามขึ้นมาอีกหลายตัว  ตามติดด้วยปลาสละใหญ่ มันลากเบ็ดยาว  พอเข้าใกล้มันกระโดดตัวลอย  เห็นสีเงินยวง  แล้วดำดิ่งนาน ๆ ผมจะพบที  กว่ามันจะยอมขึ้นมาได้เล่นเอาเฮียเหงื่อหยด หมายนี้หลากหลายจริง ๆ  มาคราวหน้าหมายอาจแตกไปแล้ว
“จะย้ายอีกมั้ยเฮีย ?” ผมแกล้งแซว
“ไม่ย้ายแล้ว” ปลาฉวยดียังกับ 20 ปีที่ผ่านมา “แต่เหยื่อจะหมดแล้ว” เฮียกำลังอัดอีกตัวหนึ่ง ปาดเหงื่อไปพราง ด้วยความมันแบบสุด ๆ
“เฮียคนเดียวเล่นไปหลายตัว”ขณะเกี่ยวปลาขึ้น  “ผมได้ตัวเดียว ทั้ง ๆ ที่อยู่ท้ายเรือเหมือนกัน แปลก หรือปลาอยากไปสวรรค์กับเฮียมากกว่าผม ฮา ๆ ”...ช่างเถอะ! เราคงไม่มีเวรกรรมต่อกัน
      ตรงนี้! ไม่ใช่หมายดังในอดีต...ปะการังเทียมถูกทิ้งได้ไม่นาน  มีปลาเข้าแล้ว นี่ละ!  ประโยชน์ที่เห็นกันชัด ๆ นึกถึงกองที่พวกเรานักตกปลาช่วยกันทำ“ปะการังเทียมป๋าจ๋า” ที่ช่องแสมสาร...มีปลาเข้าหลากหลายเช่นกัน ถ้าทำกันทุกน่านน้ำ ให้ชุมชนร่วมกันเป็นเจ้าของ บริหารจัดการ...จะไม่มีวันหมดปลา เป็นหมายหากินหน้าบ้าน ดีกว่าซมซานออกทะเลลึก แล้วบันทึกกันว่าข้าแน่ด้วยปริมาณปลา ทะเลตราดเมื่อก่อนก็ว่ากันเป็น100 กิโลกรัม จากเรือตกปลาไม่กี่ลำ วันนี้ครึ่งร้อย อีกหน่อยคงต้องไปตกถึงน่านน้ำเขมร อินโดนีเซีย แล้วเราจะเอาทะเลไทยไปไว้ไหน ?
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 4
  “พอหรือยังเฮีย...” หมึกเป็น 20 ตัวหมดลงแล้ว แลกกับปลาใหญ่ 7-8  ตัว ก็พอสมควร น้ำเริ่มทรง แต่เฮียก็ยังไม่ยอมเลิก  หมึกแล่ก็เอา  นักตกปลาส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้  “เฮีย... ผมร้อนอยากโดดน้ำ”
“กำลังสนุกเชียว...เสียดายเหยื่อเป็นน้อยไปหน่อย”เฮียบ่น
“ พักก่อนก็ได้...”เห็นเหงื่อเฮียโทรมกาย กลัวจะเป็นลม  กลางแดดร้อนยามนี้ “อายุเราก็มากแล้ว จะฝืนทำไม ?” เฮียเห็นด้วยเพราะน้ำหยุดไหล และเริ่มหิว
      หลบเข้าเล่นน้ำที่ข้างเกาะ แคทขึ้นไปซื้อน้ำมันเกียร์ที่เฮียว่ามันขาด  ช่างเครื่องเราขยันดีจัง  แต่เกียร์ก็ไม่ได้เสีย...เปิดดูน้ำมันก็ยังมี  แค่คิดไปเอง  เกรงเครื่องจะพัง  ก็เป็นความรอบคอบของอาชีพช่าง  ปลาทอดราดน้ำปลา ข้าวสวยร้อน ๆ กินจนท้องบาน
        หลังอาหารพวกเราก็พร้อมจะเดินทางต่อ แต่ว่าจะไปไหนกันดีล่ะ... ต้องถามตัวเองที่เล่นบทกัปตัน ลองไปทางด้านหัวแหลมโม่งก็ไม่มีตัว น้ำยังไม่เดิน จึงวิ่งเรือไปฟาร์มเลี้ยงหอยมุกเก่า หัวเกาะแรด เป็นหมายดี แต่ยังไม่ได้เวลา พอน้ำขยับขึ้น เฮียก็ชวนถอนสมอมาหินกองต้นไทร หน้าเกาะไม้ซี้เล็ก จอดอยู่นานก็มีแต่ปลาเก๋าเล็ก  นกกะลิง สองสามตัว
“เหยื่อหมึกตายจะเอาอะไรเฮีย”
“ปลาเล็กยังหายาก” เฮียก็บ่นไปเรื่อย ๆ “เคยมีตัวดี แต่วันนี้กลับใบ้”
    หมายนี้ผมเคยมาดำน้ำดู ปะการังส่วนมากแตกกระจายเป็นบริเวณกว้าง ลอบวางอยู่ทั่วไป มีปลาเก๋าตัวเล็ก ๆ ติดอยู่ อยากจะงีบสักหน่อย แต่ได้ยินเฮียว่าอยากหากับข้าว จึงบอกแคทถอนสมอ วิ่งมาหินกองตาฝาด ทิศใต้เกาะหมาก เป็นหมายดังมากในอดีต วันนี้ตกจนค่ำ ก็พอได้กับข้าว น้ำไหลอ่อยดี ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดแรงขึ้น เรือโยนไปมา เบ็ดก็ติดหินขาดบ่อย
“ไปตกหมึกที่เดิมดีกว่าไต๋”
“ดีเหมือนกันมืดแล้ว” มาหน้าอ่าวนิดใกล้จุดเมื่อวาน                                     
      ผมเริ่มวางแผนถึงวันพรุ่งนี้  จะไปทางไหนกันดี  หมายน่ะมีมาก  แต่ขึ้นอยู่กับคลื่นลม และเหยื่อหมึกเป็นในคืนนี้  ซึ่งเฮียก็พยายามเฝ้าตกขึ้นมาได้เหมือนเดิม  ลมแรงขึ้นอีก  ผมของีบก่อน  สองคืนแล้วที่ไม่ได้นอน ปล่อยให้สองพ่อลูกโสกหมึกกันไป พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
    เช้ามืดเฮียก็ปลุกให้เดินทางต่อ  ผมหลับสนิทรวดเดียวเลย  กาแฟหอม ๆ จากน้องแคท  ขนมปังอีกสองแผ่น  หูตาก็สว่าง  หมึกเป็นเกือบ 40 ตัว  ตายล่ะหว่า ! จะเอาลังที่ไหนแช่ปลา ขณะขับเรือฝ่าคลื่นลมมา  มุ่งหน้าเกาะรัง สายพานไดน์ชาร์ตก็ขาด
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 5
ข้างหน้าเห็นแสงเรือปั่นไฟข้างเกาะดับลง  อาจมีปลาไว้อ่อยบ้าง  ผ่านหัวเกาะหมากมา  เฮียก็อยากให้จอดตกปลาตะคอง  ผมรู้ว่าน้ำก็ยังไม่เดิน  เห็นแต่คลื่นลูกใหญ่ซัดขึ้นหัวเกาะขาวโพลน จะจอดเรือได้อย่างไร  ถึงเรือขอแบ่งปลาหัวแข็งมา ไม่มีหัวอ่อน  แล้วเราก็เข้าหมายบังลมหน้าเกาะรัง  น้ำลึก17 เมตรเริ่มเดินแล้ว อาจมีความหวัง  ลงเบ็ดสักพัก ก็ไม่มีปลามาฉวย
“จอดห่างหินไปไต๋” เฮียรู้ได้อย่างไร... 
“เอ้าแคท...ถอนสมอ”ขยับเข้าอีกหน่อย ก็ได้ปลาไอ้โซ๊ะมาหนึ่งตัว  ขนาดกำลังต้มยำ คงจริงอย่างที่เฮียว่า เฝ้าเบ็ดต่อจนน้ำไหลแรงขึ้น เงียบ  เห็นเฮียหงุดหงิด สักพักก็ชวนย้ายหมายอีกครั้ง ถ้าจะเป็นไต๋ที่ดีได้ ก็ต้องเอาใจนักตกปลาหน่อย...เดี๋ยวเขาถอดเราออกจากไต๋ จะอดขับเรือเล่น ความสุขของเราอยู่ที่การสำรวจหมาย หาใช่ปลาไม่
“เอ้าแคทไป...ถอนสมอ” เสียดายหมายนี้ ไต๋ดำให้มา บังลมดีด้วย เดี๋ยวคราวหน้าจะเอาเรือมาเอง
      ย้ายมาจอดแถวหินลูกค้อได้สักพัก ก็ไม่มีปลายฉวย  อาจด้วยน้ำแรงไป  เฮียก็ชวนย้ายอีกแล้ว  วิ่งไปหินข้างเกาะมะปริง  หินสวยมาก ลมแรง แต่อับน้ำ
“ปลาเล็กก็ยังไม่แตะเลย”  ไปหัวเกาะคุ้มดีกว่า  เคยรวยมาแล้ว
“นานหรือยัง ?” ผมถาม
“หลายปีมาแล้ว”เฮียว่า
“ผมก็เคยได้ ปลาหูแพ ตกยกฝูงกันเลย” ผมคิดย้อนอดีตกับปลาขนาด 5-6 กิโลกรัม ที่ลอยขึ้นมาให้เห็นตัว ด้วยเหยื่ออ่อยปลาหัวอ่อน ไม่ต้องใช้ลูกตะกั่ว เรือวิ่งเกือบสองชั่วโมงก็มาถึงหัวเกาะคุ้มในช่วงเที่ยงวัน
    ทิ้งสมอไม่ต้องดูหมาย  อาศัยตำแหน่งลายน้ำของดาวเทียม จากที่เฮียพรเทพเคยมาครั้งก่อน น้ำอ่อนลงมาก ลมยังแรงอยู่ เรือก็ปัดไปมา เบ็ดเฮียก็ติดหิน 
“จอดใกล้หินเกินไป  ผมจำได้มันไม่ใช่ตรงนี้ไต๋”
“ผมก็จอดตามหมายจีพีเอสเฮีย...มันก็ตรงกับไอ้ตัวเล็กของผม” เฮียก็บ่นไปเรื่อย พร้อมดึงสายเบ็ดให้ขาด ลงอีกก็ติดอีก
“ตรงโน้น  ถัดจากหัวเกาะ...จำได้น้ำ 30 เมตร”
“ไปก็ไป ลองดู” เบ็ดทุกคันถูกเก็บขึ้นเรือ “เอ้าแคท...ถอนสมอ” เวียนดูก็มีแต่ระดับน้ำ 24 เมตร ซาวเดอร์พอจับความลึกได้บ้าง ผมบอกเฮียว่าตรงนี้ลึกสุด
“นั่นแหละใช่เลย...ทิ้งสมอ” น้ำหัวเกาะยังพอไหล หมึกเป็นเกี่ยวเบ็ดถูกปล่อยไปหน้าดิน...ได้พักเดียว
“สงสัยว่าจะไม่มีหิน...ปลาเล็กยังไม่ตอดเลยไต๋” ไต๋ผิดอีกแล้ว ถ้าปลาไม่กินเหยื่อ
“ผมก็จอดตามที่เฮียว่า” ตรงนี้เป็นดินทราย ถัดไปมีหินกระจาย  ถ้าฉวยต้องเป็นของใหญ่ หมึกเป็น ปลาเล็กไม่กวน สงสัยท่าจะย้ายหมายอีกแล้ว
“ย้ายดีกว่าไต๋...ไปตรงโน้นแหละ...ดูแนวเขาแล้ว  ไม่ใช่ตรงนี้” เฮียชี้มือไปข้างหน้า  ไม่ต้องใช้ตำแหน่งจากจอกันแล้ว กลับไปใช้การเล็งฉากแทน ก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่เฮียจำได้แน่หรือ ?
“เอ้าแคทถอนสมอ” ย้ายห่างจากจุดแรกมา 50 เมตร ตามที่เฮียว่า
“ตกนี้แหละ...ใช่เลย...มันกินดีมาก” เฮียเล่าความหลัง  ถึงวันวานยังหวานอยู่...  เงียบ... “มีที่ไหนอีกไต๋...ปลาเล็กก็ได้ น้ำมันนิ่งแล้ว”
“ลองไปหินเรือแตกดู ทางผ่านจะเข้าอ่าวสลักเพชร  เราจะต้องแวะไปซื้อสายพานไดน์ก่อนค่ำ”
    ที่หมายนี้เฮียได้ปลาเล็ก ปลาน้อยมาหลายตัว  บ่ายสามแล้วต้องไปรีบซื้อของ เดี๋ยวนี้อ่าวสลักเพชร  มีแต่เรือสำราญจอดเต็มไปหมด...แต่จะสนุก มันเหมือนเรือตังเกเรา หรือเปล่าไม่รู้ ขึ้นอยู่ที่ใจ และกระเป๋าของแต่ละคน  ผมเคยไปกับเรือพวกกัน  เอียนแทบตาย  สบายเกิน ขอแบบนี้ดีกว่า
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 6
  กลับออกมาหมายข้างเกาะเหลายายามเย็น  มีปลาฉวยจนสายเอ็นขาดไป  คิดว่าเป็นปลาสาก  หมึกเป็นที่มีก็ตายหมด  เพราะน้ำเสียในอ่าว  พอมืดก็ลองตกหมึกตรงนี้ดู  เมื่อเห็นว่าหมึกเข้าน้อย  ก็ลองย้ายไปอีกหน่อย  มีหมึกขึ้นเล่นหลายตัว แต่ไม่ยอมกินเบ็ด 
      หนึ่งชั่วโมงผ่านไป  ผมก็ทนไม่ไหว  ขอย้ายไปตกข้างเกาะไม้ซี้ใหญ่  เห็นมีแสงไฟเรือไดน์หลายลำ  ระยะทาง 3 ไมล์  ครึ่งชั่วโมงก็ถึง
      เป็นหมายหน้าเกาะรับลม  แต่หมึกก็ขึ้นดี  ผมขอนอนก่อน ราวตีหนึ่งเฮียก็ปลุก  บอกว่าได้หมึก 50 กว่าตัว  ไปเข้าหมายตกปลาดีกว่า  หาที่บังลมหน่อยนะ
      คลื่นลมแรงจัด  กว่าจะวิ่งมาจอดบังเกาะใบดั้งได้ น้ำก็สาดเข้ากลางลำ  มีปลาสากฉวยตัวเดียว ก่อนพาสายเข้าใบจักรขาดไป  รุ่งสางท้องฟ้าก็มืดครึ้มไปหมด  ลม ฝน ถล่มเข้ามาทุกทิศทาง ต้องถอนสมอหนี หาเหลี่ยมเขาที่พอจะบังได้  รอจนสายท้องฟ้าจึงเปิด แต่ลมก็ยังจัดอยู่  ลองวิ่งจะมาหมายหน้าเกาะหมาก  หัวเรือพ้นเกาะมาได้ไม่มาก ก็ต้องหันหัวเรือกลับ ไปไม่รอดแน่... หวนคิดถึงหมายเก่านานแล้วไม่เคยมา อยู่บนเส้นทางกลับบ้าน เป็นหมายสุดท้าย                                             
      ที่หินกองเกาะง่าม  ลมไม่แรงนักพอจอดเรือได้  ผมยังจำได้แม่นเกือบ 15 ปีที่แล้ว ไต๋โก๊ะเคยพามาหลบลม  สองวันที่เรือเราไม่ได้ปลาเลย  ผู้พันตึ๋งถูกปลากระเบนนกฉวยเบ็ด  ท่านเล่นกับมันนานกว่าชั่วโมง  ด้วยคัน สาย ขนาดเล็ก  สุดท้ายมันก็ยอมจำนน  ขนาดราว ๆ 20 กิโลกรัมได้ ผมเห็นแล้วสงสารและเสียดาย จึงขอท่าน และเพื่อนท่านให้ไว้ชีวิตเขา ก่อนจะถูกคมตะขอ เพราะมันเป็นปลาหายาก สวยงาม ปล่อยเขาไปเถอะ...เชื่อผม
      คลื่นลมขนาดนี้  เราจะเอาชีวิตกลับบ้านได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เสียงจากวิทยุ  กองทัพเรือต้องส่งเรือรบ  มารับนักท่องเที่ยวที่ติดตามเกาะต่าง ๆ กลับขึ้นฝั่ง  ปลาถูกปล่อยไป  พร้อมกับรอยยิ้มของทุกคน  แล้วไต๋โก๊ะก็ดันเรือเข้าฝั่งกว่า 5 ชั่วโมง...ผมต้องนอนคลุมโปง ไม่อยากเห็นโขลงคลื่นลูกใหญ่กว่าช้าง 
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 7
หมายนี้ในช่วงสาย  พอน้ำไหล  ก็มีปลาฉวยหลายครั้ง  ไอ้เปี๊ย  สากเหลือง โฉมใหญ่  ผมทำขาด หลุดไปสองตัว  เล่นเอาเฮียบ่น
“ทำขาดอย่างนี้  ปลาก็หนีหมดสิ...เสียดายแย่เลย”
      ผมมองดูปลาที่ได้มา  ก็ไม่มีน้ำแข็งจะแช่แล้ว ปลาบางตัวเริ่มส่งกลิ่นเหม็น แต่เฮียก็ยังอยากจะได้อีก สำหรับผมแค่รู้ว่าหมายนี้มีตัว ก็ดีใจแล้ว ในขณะที่หมายอื่น ๆ เกือบจะเป็นหมายร้าง จนเรือตราดบางลำต้องพาแขกไปตกปลาทะเลปราณ  เรือเราอยู่ถึงบางปะกงกลับมาตกปลาทะเลตราด มันอะไรกันนี่ !
“ผมไม่เสียดายหรอก...เราได้สู้กันแล้ว...เขาชนะ” ผมใช้สายลีดลวดเก่าเพื่อตกไอ้สากน้ำดอกไม้ แต่โฉมใหญ่มาผิดคิว ก็เลยขาด
“ชนะยังไงไต๋...ปลาเนื้อดีทั้งนั้น...ช่วยกันเอาให้หมดฝูงก่อนลา...” เฮียอัดปลาขึ้นอีกตัว “หมึกเป็นอยู่อีกแยะ...เอ้าแคทเกี่ยว”ผมวางคันเบ็ด และทำหน้าที่ถ่ายภาพ
“ผมพอแล้วเฮีย... หมดเวลาทำบาปแล้วทริปนี้...จะเอาบุญให้มัน”  ผมเข้าใจดีว่าทุกชีวิตมีหน้าที่ต้องทำ แม้ต้องสละเลือดเนื้อของตัวเองให้เป็นทานก็ตาม ถึงที่สุดแล้ว... ล้วนมีผลแห่งบุญกุศลจริง ๆ ไม่ต้องสงสัย...นี่แหละ! การข้ามภพชาติ ของสัตว์ทั้งหลาย
“ใจบุญอย่างนี้...จะมาตกปลาทำไมไต๋ ?” เฮียหันมามองหน้า แววตาสงสัย กึ่งหมั่นไส้
    ผมรับความรู้สึกนั้นได้...อยากจะลาออกจากไต๋ แต่ยังไม่หมดภาระที่ต้องทำ...ปลาก็หลุดไปแล้ว พวกเรายังติดเบ็ดอยู่เลย  “ตกปลาหานิพพาน...ยังไงเฮีย” ผมบอกสิ่งสูงสุดที่กำลังตามหา
“แบบไหนนิพพาน?”
      จะตอบเฮียว่าอย่างไร... พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า นิพพานคือความสุข บรมสุข ที่รู้ได้เฉพาะตน “ปัจจัตตัง” 
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด...ผมก็พอจะรู้ได้เฉพาะตัว

                        ......................... จบ .........................
ย้อนอดีตหมายดัง...ทะเลตราด
ภาพที่ 8
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024