สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 29 มี.ค. 67
บักทึกจากความทรงจำในอดีต 2...อินทรีใหญ่ที่ไม้รูด : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความตกปลา
ความเห็น: 21 - [21 ต.ค. 58, 18:10] ดู: 2,900 - [28 มี.ค. 67, 17:53] ติดตาม: 4 โหวต: 8
บักทึกจากความทรงจำในอดีต 2...อินทรีใหญ่ที่ไม้รูด
bowl (171 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
4 ต.ค. 58, 02:40
1
คลิปที่ 1
เช้าวันเสาร์ปลายเดือนพฤศจิกา ผมเตรียมตัวไปตกปลาตั้งแต่ 8 โมง เมื่อวานวันศุกร์นั่งทำงานอยู่ เพื่อนมาหาบอกเอาไอ้เก่ยมาขายได้มาตั้ง 10 โล

อากาศหนาวๆ น้ำโตกลางวัน แห้งกลางคืน เดินดีมาก เคยเต็มชายฝั่ง ปลาใหญ่ๆตามเคยเข้ามาค่อนข้างชุม ผมตาลุกวาว คันไม้คันมือขึ้นมาทันที

: "ฉันว่าจะซื้อเครื่องหางซักชุด พายนานๆไม่ไหว เจ็บหลัง ช้า หากินไม่ทันเขา เตรียมตังค์มาถ้าไม่พอ พี่ช่วยออกให้ก่อนนะพี่"มันทำท่าออด

: "เออ..ไม่มีปัญหา ขาดเท่าไร เดี๋ยวออกให้ก่อน ซื้อร้านไหนละ ไปดูมาหรือยัง" ผมพยักหน้าตอบรับถามยิ้มๆ

   บ่ายวันนั้น เพื่อนผมก็แบกเครื่องหางยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ กลับไป นัดกันไม่เกินบ่ายโมงวันเสาร์ ต้องรีบถอยเรือ ไม่งั้นติดโขด เรืออกไม่ได้ 

   ผมเดินหอบสัมภาระย่องลงบันใดมาเข้าห้องครัว กะว่าจะหลบออกทางหลังบ้าน เจอแม่นั่งถักเสื้อไหมพรม มี"ไอ้แมค" หมาอัลซิเชี่ยนรุ่นๆ

   นั่งเฝ้าแม่อยู่ข้างหลัง มองผมตาละห้อย เหมือนจะตาม ไอ้ลูกหมาตัวนี้ ผมไปหอบหิ้ว อ้อนวอนซื้อทหารเขามาจากศูนย์สงครามฯ ที่ลพบุรี

   ตอนนี้ตัวมันโตยังกะเกรดเดนใหญ่ๆ ใครเข้าบ้านผมเจอไอ้แมค เป็นถอยหลังทุกคน เพราะมันมองทำท่าจะเอาเรื่อง ต้องคอยปราม

:  "ไปไม่ได้ จะไปตกปลา พรุ่งนี้ค่อยไปวิ่งกันนะ" ผมส่ายหน้าพูดลอยๆไปยังงั้น ทำยังกะมันรู้ภาษาคน ครางงี๊ดๆ ฟุบหมอบข้างหลังแม่

:  "ลำบากลำบนนะลูกนะ วันธรรมดาก็ทำงานมาหนื่อยแล้ว เสาร์-อาทิตย์ ต้องออกหาปลาอีก" เสียงแม่กระเซ้าแกมบ่น ผมรีบเดินหนีเข้า

     โรงรถ เสียงพ่อแว่วๆ ให้ขับรถดีๆ ผมรับคำแล้วสตารท์รถคู่ใจ ดัสสันกะบะตอนเดียว รุ่นช้างเหยียบ พ่อผมไปประมูลของกลางมาจาก

     โรงพักของพ่อ ที่เขาจำหน่ายคดีแล้ว ราคา 3 พันบาท เครื่องดีมากเพราะประวัติเป็นรถวิ่งของเถื่อน เครื่องแรง เหยียบเป็นพุ่งยังกะม้า

     เติมน้ำมันเบนซิน 200 บาท สมัยนั้น เท่านี้ก็ไปได้ถึงคลองใหญ่แล้ว แวะบอกพี่จิตรไปตกปลา ซื้อ กับข้าว ขนมไปฝากลูกสาวเพื่อน ขับรถไป  

     ชั่วโมงกว่าๆ ถึงบ้านเพื่อน เห็นกำลังประกอบเรือกับเครื่องหางอยู่ ส่งกับข้าวให้เมียมัน เอาสัมภาระ เบ็ด เสื้อกันหนาวใส่เรือ หันมาดูเพื่อน

:  "เรียบร้อยพี่ เอาไปลองวิ่งแล้ว น้ำมันแกลลอนวิ่งถึงคลองมะนาวแน่ ฉันว่าจะไปไม้รูด ได้ข่าวว่าอินทรีเข้า ฉวยดี" เพื่อนขยายความ

:  "แล้วเอ็งรู้หินหรือวะ ไกลนะโว้ย เดี๋ยวจะแห้วกลับมา" ผมพูดทำนองหารือ กลัวจะไม่ได้เรื่อง เพราะมีเวลาแค่วันเดียว รับปากกะแม่ไว้แล้ว

:  "เรื่องหิน ทะเลแถวนี้ หมายอยู่ในหัว พี่ไม่ต้องกลัว เดือนหงายด้วย สว่างยังกะแดดออก ยิ่งสบายใหญ่" เพื่อนคุยโอ่

:   "แล้วเหยื่อหมึกละ ซื้อใครได้มั่ง" ผมถามกลัวไม่มีเหยื่อตกปลา

:   "ไม่ต้องห่วง หมานุ(น้องเขย) เพิ่งออกไปกู้ลอบหมึกเมื่อกี้ เดี๋ยวเรากินข้าวแล้วออกเลย สั่งมันไว้แล้วว่าพี่จะมา ให้คอยที่

       หลักลอบหมึก แถวๆหมายหยักสอง อย่าเพิ่งเอาดองน้ำ วันก่อนมันได้ตั้ง 20 โล"

       เรารีบกินข้าวตุนไว้ก่อน ผมไม่กินข้าวเช้า ติดนิสัยมาตั้งแต่สมัยเรียน ยกยอดไปกินที่มหาลัยทีเดียว ไม่ใช่อะไร ประหยัดเงิน

       เดี๋ยวจะไม่ชนปลายเดือน เพราะแม่ส่งมาให้ ต้นเดือนก็เป็นเศรษฐีกัน 10 กว่าวัน ที่เหลือต้องประหยัด เขียมตังค์ ไว้ให้พอใช้

       กับข้าวฝีมือเมียเพื่อน อร่อยเหมือนเดิม คนบ้านป่าก็แบบนี้ ทำกับข้าวเก่ง ถูกปากไปหมด ซัดซะแน่นท้อง พอเอนหลังเคลิ้มๆ เพื่อน

       ก็มาปลุก บอกไปได้แล้ว เดี๋ยวเรือติด ลำบากเข็นกันอีก สำรวจของว่าลืมอะไรบ้าง น้ำมัน ถุงเท้า ถุงมือ เพราะหนาวมาก ใครไม่เคย

       ลองไปนอนกลางทะเลหน้าหนาว แล้วจะรู้ว่าดึกๆ ถ้าปลาไม่ฉวย นอนเฉยๆมันหนาวจับใจ อยากกลับมันซะตอนนั้น เราวิ่งเรือ

       ออกจากปากคลอง ตัดไปทางเขาล้าน มองออกไปในทะเล เห็นแนวหลักหมึก เป็นแถว ยังกะใครมาทำรั้วไว้ในทะเล

       ที่เขาวางกันใช้หลักไม้ไผ่ ยาวซัก 3-4 วา ปลายผูกธงบ้าง ใบไม้บ้าง ทางมะพร้าวบ้าง ทำสัญญลักษณ์ของแต่ละคน

       ว่าของใคร ทำยังงั้นก็ยังไม่วายโดนโขมยกู้ลอบ น้องเขยเพื่อนมันถึงรีบออกไป กลัวคนโขมยกู้ หลักลอบทำด้วยไม้ไผ่โคนผูกเชือก

        ขนาด 2 หุน ยาวซัก 5 เมตร ผูกหินถ่วงไม่ให้ลอยไปไหน เหนือโคนไม้ขึ้นมาซักวา ผูกเชือกกับตัวลอบทำจากไม้เนื้ออ่อน

        ตัดจากป่าละเมาะตีนเขาบรรทัด กว้างประมาณ 1 วา ยาว 2 วา เอามาดัดให้เป็นรูปท่อซีเมนต์ผ่าครี่ง ห่อด้วยอวนตาขนาด  ครึ่งนิ้ว

        ทุกด้าน เว้นด้านหน้าไว้ทำประตูเข้าเป็นงาห่ออวน ตาอวนเล็กกว่านั้นไม่ดี ตะไคร่น้ำเกาะเร็วทึบไปหมด หมึกไม่เข้าลอบ เจ้าของลอบ

        ต้องคอยเอาแปรงไปล้างตาอวนให้ขาว 3-4 วันครั้ง ให้หมึกเข้าง่าย ภายในลอบถ้าหาพวงไข่หมึกหอม(สีขาว) มาแขวนไว้ จะทำให้หมึก   

        เข้ามาไข่เร็วมาก 1-2 วันก็ได้ตัวแล้ว ด้านนอกคลุมด้วยทางมะพร้าว บางเจ้าก็ผูกทุ่นโฟมขนาดครึ่งฟุตไว้ที่ลอบ บางเจ้าก็ผูกไว้ที่หลักลอบ

        ถ่วงให้ลอยไม่จมก้นทะเล ไม่งั้นหมึกไม่เข้า เวลากู้ก็ไล่เป็นแถว ๆละประมาณ 10-20 ลูก หมดแล้วก็ขึ้นแถวใหม่ ถ้าหมึกเข้าชุมๆ วันหนึ่งกู้

        ได้ประมาณ 20-50 โล บางทีก็ได้ถึง 100 โล แล้วแต่ทำเล เพราะหมึกชอบอาศัยอยู่บริเวณที่เป็นดอน หรือเนินใต้น้ำ ไม่ชอบอยู่ก้นทะเล

:  "พี่ๆ นั่นไงๆ หมานุ เดี๋ยวเราไปดักรอมันที่ท้ายแถว จะลองกู้ดูด้วยว่าชุมไหม เผื่อจะทำบ้าง" เพื่อนสะกิดบอก แล้ววิ่งเรือไปท้ายแถวลอบ มองเห็น

     หลักอยู่ลิบๆ ถึงหลักแล้วมันเทียบเรือเข้าข้าง ดึงหลักคว้าสายลอบขึ้นมา ผมมองลงไปใต้น้ำ เห็นลอบลอยขึ้นมา ขี้หมึกดำเป็นสายเห็นชัดแต่ไกล 

:  "เออ..มีตัวชุมวุ้ย เดี๋ยวกลับไปฉันจะลองทำบ้าง" เพื่อนว่าพลางดึงงัดลอบขึ้นเหนือน้ำ เสียงหมึกตกใจดิ้นพ่นน้ำดังพรืดพราด ขี้หมึกสีดำกระจายเกลื่อน

     ทะเล มีหมึกตัวใสๆ เหลือบๆสี ในลอบประมาณ 10 กว่าตัว ดิ้นพรวดพราด พ่นขี้หมึกออกมาดำปี๋ไปหมด

:  "เพราะมีหมึกชุมนี่แหละ ปลาสาก อินทรี กุเลา ถึงได้คอยตอมกิน..คืนนี้มีหวังฉวยสะหงาด(ภาษาตราด)..นั่นไงหมานุมาแล้ว" เพื่อนบอกพลางหอบ

     หมึกใส่เรือ ผมมองตามเห็นน้องเขยมันยิ้มแหงมาแต่ไกล เสื้อก็ไม่ใส่ แดดเผาจนตัวแดงเป็นลูกตำลึง ยิ้มเห็นแต่ฟันขาวๆ

:  "มาถึงนานแล้วหรือพี่ เหียเขาบอกฉันแล้วว่าพี่จะมาตกปลา รีบออกมาก่อน กลัวคนโขมยกู้ลอบ" มันยิ้มจนเห็นเหงือก เหงื่อออกเกาะพราวเต็มหน้า

:  "เพิ่งถึงเมื้อกี้ กินข้าวแล้วก็รีบออกมา ได้เยอะไหม เห็นแวะแต่ละหลักนานๆ" ผมถามยิ้มๆ มองหาหมึกในเรือ กลัวมันดองน้ำ เสียของหมด

:  "พอได้พี่ ซัก 20 โล เท่าเมื่อวาน เหลืออีกแถวยังไม่ได้กู้ โดนโขมยไป 2-3 ลอบ สงสัยพวกคลองสน เห็นวิ่งเรือน้ำบานไป ฉันไล่ไม่ทัน"

     เหตุผลที่เขารู้ว่าโดนโขมยกู้หมึก เพราะในลอบมีแต่ขี้หมึก แต่ไม่มีตัว แสดงว่าตัวโดนเอาไปแล้ว อวนก็ไม่มีรอยขาดให้หมึกออกได้

:  "ช่างมันเถอะ คงหาไปตกปลา เหียว่าจะไปนอนไม้รูด วิทยุเรือคุยกันให้ลั่นว่าอินทรีเข้า ได้กันคนละหลายร้อยโล" เพื่อนปลอบแล้วปีนขึ้นเรือ

     เลือกหมึกตัวใสๆ ขนาดย่อมๆ ซัก 5 โล ห่อใส่ถ้งดองแยกกับน้ำแข็งไม่ให้ปนกัน

:  "เดี๋ยวไปคิดกันเงินที่บ้านนะหมานุ" เพื่อนบอกน้องเขย ทำหน้ายิ้ม

:  "เออ..เอาไปเถอะเหีย ไม่เป็นไร นานๆ พี่เขาจะมาตกปลาซะที เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะตามไปบ้าง" น้องเขยเพื่อนพูดยิ้มๆ เบนเรือออกไปกู้ลอบต่อ

    เราผละจากหลักลอบวิ่งเรือผ่านเขาล้าน น้ำทะเลใสมองเห็นหินกองใต้น้ำชัดแจ๋ว ปลาหลบกันวุ่นวาย เวลาตอนนั้นประมาณบ่ายสี่โมง

:  "ลองแวะหินหน้าช่องเขาขาดไหมพี่ น้ำใสเห็นตัวเลย กำลังลง เดินเชี่ยวดีเหลือเกิน" เพื่อนถาม ผมพยักหน้าตอบ แต่ร้องถามว่า

   "น้ำใสเห็นตัวแบบนี้ แล้วปลามันจะฉวย มิวิ่งหนีหมดหรือ"

    "เดี๋ยวเราไปทอดสมอเหนือหัวหิน น้ำมันพัดเข้าหาหินเอง เหยื่อสดๆแบบนี้ เดี๋ยวได้เรื่อง"

     เพื่อนขับเรือไป มองฉากซ้าย-ขวา ซักครู่ร้องบอกผม "เอ้าพี่เตรียมสมอ ใกล้ถึงแล้ว" ผมลุกไปหัวเรือ มองเห็นสมอก็ร้องว่า

     "เฮ้ย..เจอไอ้ลูกเก่าอีกแล้ว ปวดหลังยังไม่หายเลย ซื้ออะไรซื้อได้ แต่สมอทำไมเองไม่ซื้อว้า"

     "แหมเงินซื้อเครื่องฉันยังไม่พอ ต้องรบกวนพี่เลย เกรงใจ ไว้คราวหน้าไปตลาดจะซื้อแล้ว" มันตอบปนหัวเราะ

     "เออ เท่าไรว้าสมอเลท เดี๋ยวกลับไปแล้วจะให้ช่างจิตรทำให้ คราวหน้าจะเอามาให้" ผมพูดปนยิ้มๆ แล้วก็อุ้มสมอหินลูกนั้นหย่อนลงน้ำ

      เพื่อนผมรื้ออุปกรณ์แฮนด์ไลน์ออกมา หั่นหมึก ดึงหัวเกี่ยวส่งสายให้ผม ผมกำลังจะเอาเบ็ดออกจากคัน หันไปรับ

:    "เอาอันนี้เถอะพี่ ดีกว่าคันพี่อีก ไอ้คันแบบนี้ ใช้ลากตอนเช้าจะเข้าท่ากว่า" เพื่อนบอก ก็จริงตามนั้น วันนั้นผมเอาคันรอก ไดว่าซีไลน์ขนาด

      4 โอ กะจะมาลากอินทรี ไม่ได้ว่าอะไร คลี่สายออก เหวี่ยงไปทางหัวเรือ ล้างมือกับน้ำทะเล เอาสายเหน็บก้นนอนทับมองเพื่อนสาระวนกับ

      การเหวี่ยงสายทั้ง 4 สายของมัน ไปท้ายเรือ คอยเบนหัวหลบขี้หมึกมาเป็นสายตามแรงเหวี่ยง มันล้มตัวลงนอนบ่นเจ็บหลัง ยังไม่ทันขาดเสียง

      เห็นมันคว้าสายบนหัวนอน ดึงกระชากร้องลั่นทะเล

:   "ไอ้เก่ยนี่หว่าพี่ ไม่มีชิม กระชากเลย" ร้องพลางสาวสายเข้าหาเรือ พอถึงมันยกขึ้นมาเห็นตัวเหลืองอ๋อย ไม่มีจุดดำ เขี้ยวขาวโง้งในปาก ตัวประมาณ

     เกือบศอก ดิ้นสะบัดน้ำกระจาย มันปลดปลาเอาเบ็ดออกทางเหงือก เพราะกลืนถึงกระเดือก ไม่ทันได้หย่อนใส่ท้องเรือ สายที่เหลือสามสายของมัน 

     ก็ปะทุ ขึ้นพร้อมกัน มันร้อง"ไอ้หย่า" "เหนียวๆโว้ย อย่าขาด" ดึงซ้ายทีขวาที สักครู่ก็ดึงตัวใต้น้ำตัวขนาดไล่ๆกันขึ้นมา เหลืองไปทั้งเรือ ดิ้นโครมคราม

     ใต้ท้องเรือ มันเกี่ยวเหยื่อ เหวี่ยงเบ็ด ปากก็ร้องถาม

:  "พี่ยังไม่ฉวยหรือ ระวังให้ดี ปลากำลังหิว เดี๋ยวฉวยแน่" ผมมองที่สายเบ็ดตัวเอง หูฟังเพื่อนดึงปลา อื้ออ้าไปหมด ซักพักสายเบ็ดที่อยู่ในมือ ทอดโค้งไป

     ในน้ำก็ทำปฏิกริยา ค่อยๆยืดตรงแหน่ว พอสะเทือนถึงมือผมก็กระชากกลับ เท่านั้นคุณเอ๋ย ความรู้สึกเหมือนดึงสมอหินหัวเรือยังไงยังงั้น สายลั่นออก

     จากมือวิ่งลงน้ำ เสียงโฟมม้วนสายลั่นเป็นข้าวตอก ผมกระชากไม่ให้ปลาเข้าหิน ยื้อยุด ฉุดกระชากกันสักครู่ ฝ่ามือร้อนไปหมดก็ได้ตัวขึ้นมาตัวขนาด

     เท่าๆกัน เหลืองอ๋อย ไม่มีลายจุดดำเลย

:   "นี่ปลานอกนี่พี่ ไม่มีลายดำ หางแหว่ง ฝูงเบ้อเร้อ ตัวเท่าๆกันเลย สงสัยตามเคยเข้ามา ระวังอย่งให้ขาดนะพี่ เดี๋ยวหนีหมด" เพื่อนร้องเตือน พอได้ตัวแรก

      ตัวที่ 2 3 4 ก็ตามมา ขนาดเกือบเท่าๆกัน เย็นนั้นก่อนอาทิตย์ตก เราได้ไอ้เก่ย เกือบ 30 ตัว ไซร์เท่าๆกัน นน.ตอนขายประมาณเกือบ 70 โล จนฟ้ามืด

      ปลาก็หยุดฉวย



เกล็กเล็กเกล็ดน้อย:- 1.หมึกที่เข้าลอบส่วนมากจะเป็นหมึกหอม ชอบไข่ไว้ที่ปากทางเข้าลอบบ้าง หลัง ข้างๆลอบบ้าง ถ้าเข้าไปใข่ข้างในหมด

                               สงสัยแน่นจนลอบแตก ส่วนหมึกกระดองดุ ฉลาดกว่ามาก ไข่จะมีสีดำ มักไข่ที่หลังลอบ ไม่เข้าลอบ ยังกะมันรู้ ที่ได้ตัว

                               ในลอบ ส่วนมากจะเป็นลอบปลาอันใหญ่ๆ ยาว3-4 เมตร มันเห็นปลาข้างในจะเข้าไปกิน เลยติดกับ ส่วนหมึกศอก และ

                                หมึกกล้วย หมึกสาย ไม่เห็นเคยเข้าลอบ การทำลอบก็เหมือนช่วยมันแพร่ขยายพันธุ์ มีที่วางไข่ ฝักไข่แต่ละฝัก มีลูกหมึก

                                ว่ายลอยน้ำอยู่ในถุงไข่ไม่ต่ำกว่า 10 ตัว ผมเคยลองแกะดู พอปล่อยลงน้ำ ไอ้ตัวเล็กๆก็ว่ายหายไปฉิว

                              2.ปลาอั้งเก่ยฝูงที่ว่ายหากินมาจากทะเลลึก ส่วนมากจะไม่มีจุดดำที่ปลายโคนหาง หางแหว่ง ขาดๆ เพราะว่ายตามกัดหางกัน

                                 เวลาแย่งเหยื่อ หางเลยเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นปลาชายฝั่ง จะมีจุดปานดำที่โคนหาง สีปลาจะออกแดงๆชมภูๆ เห็นก็รู้เลย

                              3. เช่นกัน ดึงปลาอั้งเก่ย อย่าให้สายขาด เข้าหินได้ มันจะวิ่งตามแย่งเหยื่อหนีไปหมด ขอให้สนุกกับการตกตกปลานะครับ

       

                *********ขอพักไว้เท่านี้ก่อนนะครับ มีต่อภาค 2 ลูกน้องมาตาม ฝนตกน้ำจะท่วมห้องปุ๋ยแล้ว ต้องรีบไปดู ลาก่อนครับ************

                                   ผิดพลาด อะไร ติชมได้เต็มที่ ผู้เขียนก็ตาลายแล้ว เนทหลุดอยู่เรื่อย ต้องคีย์ใหม่หลายรอบ ขอบคุณครับ


แก้ไข 5 ต.ค. 58, 02:16
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024