ถามผู้ชำนาญครับ...

ripper_ma (245 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้

)

10 ก.ค. 61, 13:24

ภาพที่ 1

หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) ท่านเกิดเมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ2424 ซึ่งตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง เมื่อแรกเกิดท่านศรีษะและเท้าโผล่ออกมาพร้อมๆ กัน บิดามารดา จึงได้ตั้งชื่อท่านว่า เด็กชายทบ เมื่อท่านอายุได้ 16 ปี ก็ได้บรรพชา เป็นสามเณร ที่ วัดช้างเผือก โดยมี พระอาจารย์สี เจ้าอาวาสวัดช้างเผือกในขณะนั้น เป็นผู้บรรพชาให้ ในระหว่างที่บวชเณรอยู่นั้น ท่านก็ได้ศึกษาพระธรรม พระวินัย ตลอดจนคาถาอาคม จากพระอุปัชฌาย์ของท่าน มิได้เที่ยวเล่นซุกซน เหมือนกับเณรรูปอื่นๆ พ.ศ.2445 สามเณรทบ มีอายุครบ 21 ปี บิดามารดาจึงได้ในอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่ วัดศิลาโมง บ้านนายม ตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี ท่านพระครูเมือง เป็นพระอุปัชณาย์ พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ธัมมปัญโญภิกขุ” หลังจากบรรพชา เป็นพระภิกษุ ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดช้างเผือก ซึ่งในระหว่างนั้น ก็ได้ ศึกษาเพิ่มเติม จาก ท่านอาจารย์ปาน เจ้าอาวาส วัดศิลาโมง จนมีความรู้กระจ่างทั้งในเรื่องพระธรรม พระวินัย และ คาถาอาม ซึ่งเมื่อเล่าเรียนกับอาจารย์ทั้งสองท่านครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว ท่านก็ได้ออกธุดงค์วัตร จนท่านได้พบกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว ซึ่งหลวงพ่อเดิม มีพรรษาแก่กว่าหลวงพ่อทบอยู่หลายปีและมีความสนิทสนมกัน ส่วนการจะแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันหรือไม่นั้น ไม่อาจทราบได้ขอรับ หลังจากท่านเดินธุดงค์ ก็กลับมาจำพรรษาที่วัดศิลาโมง จนกระทั่งปี 2472 คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้หลวงพ่อทบเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วเป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาวัดว่าต่างๆ ในเขตยังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส อีกจำนวน 5 วัด ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ และในปี พ.ศ.2507 หลวงพ่อทบท่านมีอายุได้ 83 ปี ความไม่เที่ยงแห่งสังขารก็เริ่มรุกรานท่านให้เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ ในระยะนี้นัยน์ตาของท่านก็เริ่มฝ้าฟางลง จนในที่สุดก็บอดมืดสนิททีเดียว ซึ่งนายแพทย์ผู้รักษากล่าวว่า นัยน์ตาของหลวงพ่อได้หมดอายุแล้ว ท่านจึงได้ขอลาออกจาก ตำแหน่งพระครูวิชิตพัชราจารย์ เจ้าคณะอำเภอชนแดน เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยฐานะกรมการศาสนา ก็มีมติให้ท่านคงดำรงตำแหน่งพระครูวิชิตพัชราจารย์กิตติมศักดิ์ต่อไปจนตลอด อายุ จนกระทั่ง เมื่อถึงปี 2519 หลวงพ่อได้มีอาการอาพาธมากขึ้น จนในวันที่ 14 มีนาคม 2519 ท่านก็ได้ละสังขาร ทิ้งไว้แต่ความดีงาม และความเคารพศรัธา แก่ลูกศิษย์ลูกหา ในภายหลังต่อไป หลวงพ่อได้จัดสร้างวัตถุมงคลไว้หลายรุ่น โดยมีรุ่นที่มีราคาตั้งแต่หลักแสน เช่น เหรียญรุ่นแรก ปี 2483 ถึงหลักร้อย ไว้ให้ผู้ที่เคารพศรัทธาหามาไว้คุ้มกายคุ้มตัว ครับ