สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 29 เม.ย. 67
.....คุณรักพ่อไหม.......... : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > อื่นๆ
ความเห็น: 5 - [20 ส.ค. 54, 14:19] ดู: 1,811 - [29 เม.ย. 67, 09:08] โหวต: 1
.....คุณรักพ่อไหม..........
neonet offline
18 ส.ค. 54, 10:28
1
หลังจากทำคนไทยซึ้งสะเทือนใจไปกับโฆษณาชุด Silence of Love จากไทยประกันชีวิต ที่ขนาดอออนแอร์วันแรกในประเทศไทยก็ทำเอาฮิตเป็นกระแสซึ้งเศร้าเรารักพ่อ ประทับใจคนไทยไปทั้งประเทศ ล่าสุดยังซึ้งข้ามประเทศไปไกลถึงแดนมังกร เรียกน้ำตาชาวจีนได้ไม่แพ้ชาวไทยเช่นกัน

          กระแสซึ้งข้ามประเทศนี้รายงานมาจากเว็บไซต์ไชน่าสแม็ค ของจีน ที่ยกพื้นที่หนึ่งหน้ากล่าวถึงกระแสความเศร้าสะเทือนใจที่โฆษณาตัวนี้มีผลต่อผู้ชมชาวจีน ซึ่งทำเอาอาตี๋อาหมวยชาวจีนน้ำตาหยดแหมะ! สะอึกสะอื้นตามกันไปเป็นแถว หลังจากได้ดูโฆษณาชุด Silence of Love ที่เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงและพ่อผู้เป็นใบ้ หลังบริษัทไทยประกันชีวิตได้จากอัพโหลดโฆษณาดังกล่าวขึ้นไปยังเว็บไซต์วิดีโอแชร์อย่างยูทูบ พร้อมทำซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษประกอบด้วย ล่าสุดมีผู้คนจากทั่งโลกคลิกเข้าไปชมแล้วกว่า 470,000 คน และดูเหมือนจะดังเป็นพิเศษท่ามกลางหมู่ชาวจีน ถึงขนาดมีคนนำไปอัพโหลดซ้ำลงในเว็บไซต์ tudou.com เสิร์ชเอ็นจิ้นสุดอิตของจีนตามมาอีกมากมาย และได้ฟีดแบ็คซึ้ง เศร้า ประทับใจ ไม่แพ้กับในเมืองไทยเช่นกัน

          โดยมีชาวจีนบางรายแสดงความคิดเห็นที่มีต่อโฆษณาตัวนี้เอาไว้ในเว็บไซต์ไชน่าสแม็ค และยูทูบ ว่า "กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริง ๆ", "โฆษณายาวแค่สามนาที แต่ทำเอาฉันร้องไห้ไม่หยุด", "น่าจะเอามาทำเป็นหนังด้วยซ้ำ" หรือ "ทำไมเมืองไทยถึงมีแต่โฆษณาซึ้ง ๆ ดี ๆ" ซึ่งนับว่าเป็นกระแสตอบรับที่น่าตกใจและน่าดีใจเป็นอย่างมาก


  เรื่องราวคนขายเต้าหู้ คือพ่อฉันผู้เป็นใบ้

          เรื่องจริงที่เปี่ยมด้วยความเป็นมนุษย์ เกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ ทางตอนเหนือของมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน มีเมืองขนาดกลาง ชื่อว่า เทือกเหล็ก เกือบทุกเช้าตรู่หรือพลบค่ำ บนท้องถนนกรรมกรจะเห็นผู้เฒ่าเข็นรถขายเต้าหู้เคลื่อนไปอย่างช้า ๆ ลำโพงที่ต่อกับแบตเตอรี่บนรถกระจายเสียงใสของหญิงสาว

          "เต้าหู้มาแล้วจ้า เต้าหู้อ่อนสูตรโบราณ เต้าหู้อร่อยจ้า - เสียงนี่เป็นของฉัน คนขายคือพ่อฉัน พ่อฉันเป็นใบ้"

          ตราบถึงวันนี้อายุกว่ายี่สิบแล้ว ฉันจึงใจกล้าพอที่จะบันทึกเสียงตัวเองไว้บนรถขายเต้าหู้ของพ่อ แทนกริ่งทองเหลืองที่พ่อเขย่ามาหลายสิบปี เมื่อตอนฉันอายุแค่ 2-3 ขวบ ฉันก็รู้ว่ามีพ่อเป็นใบ้น่าอัปยศเพียงใด ดังนั้น ฉันจึงเกลียดชังพ่อแต่เล็ก เมื่อฉันเห็นเด็กบางคนถูกแม่สั่งให้มาซื้อเต้าหู้กลับหยิบเต้าหู้ไปโดยไม่จ่ายเงิน พ่อโก่งคอยาวแต่ไม่อาจตะเบ็งเสียงออกมา ฉันไม่อาจทำเหมือนพี่ชายที่ไล่ตามไปต่อยเด็กได้ แต่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ปริปาก ฉันไม่ชังเด็กคนนั้น แต่กลับชังพ่อที่เป็นใบ้

          ถึงแม้ว่าทุกครั้งที่พี่ชายช่วยหวีผมให้และเจ็บจนต้องสูดปากซี๊ด ฉันก็แข็งใจไม่ยอมให้พ่อถักผมเปีย.. ที่บ้านไม่มีรูปถ่ายบานใหญ่ของแม่ มีเพียงรูปขาวดำขนาด 2 นิ้ว ที่ถ่ายร่วมกับสาวเพื่อนบ้านก่อนแต่งงาน เป็นตัวแทนแม่ที่จากพวกเราไป และเมื่อใดที่พ่อถูกฉันเมินเฉยก็มักจะหันกระจกเงากลับมาดูรูปแม่อีกด้านหนึ่ง เพ่งจนนานพอแล้วค่อยจากไปทำงานอย่างซึมเศร้า

          ที่น่าโมโหที่สุดคือเด็กคนอื่นเรียกฉันว่า อีใบ้สาม (ฉันเป็นลูกคนเล็กสุด ในบรรดาพี่น้องสามคน) ฉันจะวิ่งกลับบ้านเมื่อด่าสู้เด็กพวกนั้นไม่ได้ ต่อหน้าพ่อที่กำลังโม่เต้าหู้อยู่ ฉันเขียนวงกลมบนพื้นแล้วถ่มน้ำลายที่ตรงกลาง ถึงแม้ฉันไม่เข้าใจว่าที่ตนทำนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ทำเช่นนี้เมื่อถูกเด็กด่าว่า ฉันคิดว่า นี่คงเป็นการแสดงคำด่าคนใบ้ที่ร้ายกาจที่สุดแล้ว ครั้งแรกที่ฉันด่าพ่อด้วยวิธีนี้ ทำให้พ่อต้องหยุดงานในมือ มองดูฉันอย่างงุนงง น้ำตาไหลนองหน้าอยู่นาน น้อยครั้งที่ฉันเห็นพ่อร้องไห้ แต่วันนั้นพ่อขดตัวในโรงเต้าหู้ร้องไห้ตลอดทั้งคืน เป็นการสะอึกสะอื้นที่ไม่ส่งเสียงดัง เพราะเห็นพ่อหลั่งน้ำตา จึงดูเหมือนฉันสามารถหาทางออกให้กับความน้อยใจของตัวเองได้ในที่สุด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันมักจะไปด่าพ่อต่อหน้าต่อตาแล้วเดินหนี ปล่อยให้พ่องงเป็นไก่ตาแตก ทว่าพ่อไม่หลั่งน้ำตาอีกแล้ว แต่จะขดตัวที่ผอมเซียวให้ลีบเล็กลง พิงกับคานโม่หรือจานโม่ ดูน่าเกลียดยิ่งในสายตาฉัน ฉันต้องเรียนหนังสือให้ดี เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ จะได้ไปให้พ้นจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าพ่อฉันเป็นใบ้ นี่เป็นความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของฉันในขณะนั้น

          ฉันไม่รู้ว่าพี่ชายสองคนมีเหย้าเรือนได้อย่างไร ไม่รู้ว่าโรงเต้าหู้นั้นพ่อเปลี่ยนคานโม่ใหม่อีกกี่ด้าม ไม่รู้ว่ากริ่งทองเหลืองลั่นจนริมขอบสึก ผ่านไปแล้วกี่ฤดูกาล กี่ตำบลหมู่บ้าน รู้เพียงว่าฉันปฏิบัติต่อตนอย่างเคืองแค้น เรียนหนังสืออย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดฉันก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้...

          เสื้อม่อฮ่อมกรมท่าซึ่งอาโกวตัดเย็บให้ตั้งแต่ปี 1979 พ่อเพิ่งเอามาใส่เป็นครั้งแรกในต้นฤดูใบไม้ร่วงปี 1992 ท่ามกลางแสงตะเกียงในยามค่ำ พ่อหน้าตาชื่นบานขณะยัดธนบัตรกำใหญ่ซึ่งยังติดกลิ่นคาวเต้าหู้ไว้ที่ฝ่ามือฉันอย่างพิถีพิถัน ปากก็เอะอะเออออไม่หยุดยั้ง ฉันมองดูความดีใจและภาคภูมิของพ่อโดยวางตัวไม่ถูก เหม่อมองพ่อเที่ยวแจ้งให้ญาติโยมเพื่อนบ้านทราบด้วยใบหน้ายิ้มกริ่มพอใจ เมื่อฉันเห็นพ่อพาคุณอาและพี่ ๆ มาช่วยลากหมูตัวที่พ่อบรรจงขุนมา 2 ปี จนอ้วนพี ลงมือชำแหละเพื่อเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน เพื่อเป็นการฉลองที่ฉันเข้ามหาวิทยาลัยได้ หัวใจที่เคยแข็งดุจท่อนไม้ของฉันไม่รู้ถูกอะไรสะกิดเข้า จนฉันร้องไห้โฮ

ขอให้เราปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจ เพราะชีวิตเราได้มาไม่ง่าย มีโอกาสพบกันถือเป็นบุญวาสนา

ขอให้เราปรนนิบัติต่อพ่อแม่ด้วยความกตัญญูกตเวที เพราะหลังจากท่านสิ้นบุญแล้ว จะเหลือแต่ความรำลึก

ขอให้เราปฏิบัติต่อคู่ชีวิตด้วยความจริงใจ เพราะหลังจากจากกันแล้ว จะไม่มีโอกาสจูงมือกันเดินเที่ยว

ขอให้เราทะนุถนอมการเจริญเติบโตของบุตร เพราะเมื่อถึงเวลาอันควรจะไม่มีโอกาสได้โอบกอดลูก ๆ อีก

ขอให้เราทุ่มเทและให้อย่างเต็มที่ ขอบคุณและอุทิศโดยไม่เห็นแก่ตัว ต่อการพบปะในบุญวาสนาทุกโอกาส
เครดิต ICT ot8iy[
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024