สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 29 เม.ย. 67
มีเพียงฉันที่ไม่ได้กินฟรี : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความอื่นๆ
ความเห็น: 15 - [7 ก.ย. 54, 11:19] ดู: 2,632 - [28 มี.ค. 67, 23:45] โหวต: 3
มีเพียงฉันที่ไม่ได้กินฟรี
bo1976 (2752 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
6 ก.ย. 54, 12:03
1
มีเพียงฉันที่ไม่ได้กินฟรี

                นี่แหละสังคมเรา พยายามทำตัว เลว ๆ ให้สังคมเพื่ออยู่รอด ใช่มั้ย  เราเกิดมาเพื่อต่อสู้กะ โลกาวิวัฒนยิ่งพลิกตัวดิ้นรนได้เท่าไร ก้อ อยู่รอด  ทำตัว ดีดี แล้วสังคมจะมาข่มเหงเราเมื่อเราไม่ดิ้นรน  ช่าย มั้ย มีเพียงฉันที่ไม่ได้กินฟรีผู้แต่ง ภรรยาคุณเลี่ยว (ผู้แต่งใช้อักษรจีนเพียง ๘๐๐ ตัว สามารถบรรยายถึงสภาพสังคมจีนยุคใหม่ได้อย่างสุดยอดจริงจริง)               
                วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ พวกเพื่อนๆสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยม ได้นัดชุมนุมพบปะสังสรรค์กันที่ภัตราคาร เทียนอัน นับตั้งแต่สำเร็จการศึกษา พวกเพื่อนเก่าได้นัดพบปะกันสม่ำเสมอ มีแต่ฉันเท่านั้นที่ขาดการติดต่อกับพวกเพื่อน ฉันทำงานวาดภาพผลิตภัณฑ์ในโรงงานแห่งหนึ่ง ฉันและสามีต่างก็ช่วยกันทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว ด้วยรายได้ที่ไม่มากนัก ความจริงฉันตั้งใจจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธเพื่อนๆได้ ก็เลยต้องรับปาก  สามีของฉันยุ่งอยู่กับการทบทวนบทเรียนให้ลูกชาย ซึ่งลกชายของเรากำลังเตรียมตัวเข้าเรียนชั้นมัธยม เพื่ออยากให้ลูกชายได้เรียนในโรงเรียนมัธยมที่ดีมีชื่อเสียง  พักนี้สามีต้องวิ่งเต้นเข้าหาผู้บริหารโรงเรียน ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ทราบผลว่าสำเร็จหรือไม่  ก่อนออกจากบ้านฉันเหลือบมองดูลูกชายแล้วจึงเดินออกไป
                ภัตตาคาร เทียนอัน เป็นภัตราคารหรูชั้นหนึ่ง เมื่อฉันเดินเข้าไปห้องที่จองไว้ พวกเพื่อนๆมากันครบแล้ว  ทักทายฉันเกรียวกราวยังไม่ทันได้นั่งต่างก็แย่งกันยื่นนามบัตรให้ฉันพลิกดูนามบัตรแต่ละคนต่างก็มีตำแหน่งใหญ่โต เป็นผู้จัดการ ผู้บริหาร ต่างๆ แม้กระทั่งอาฮุยซึ่งเรียนไม่เอาใหนที่สุด สอบได้ที่โหล่ ก็ยังได้เป็นตำรวจ เป็นผู้กำกับสถานีตำรวจ
                มองดูอาหารที่พนักงานเอามาเสริฟ ฉันหูตาลายไปหมด นั่งนึกสงสารตัวเองที่ผ่านๆมาไม่เคยได้ลิ้มรสอาหารพวกนี้เลย คำนวนในใจค่าอาหารโต๊ะนี้มีมูลค่าเท่ากับรายได้ของฉันถึง ๓ เดือนทีเดียว  อาฮุยตำรวจทำตัวเหมือนเจ้าภาพงานเลี้ยงนี้ ชักชวนเพื่อนๆให้กินกันไม่หยุด และรินเหล้าแจกทุกคน คีบอาหารให้คนโน้นคนนี้ ปากก็พูดไม่หยุดว่า "กิน พวกเรากิน มื้อนี้ผมจัดการเอง ไม่ต้องห่วง" พรรคพวกทุกคนไม่มีไครขัดศรัทธา  ทั้งกินทั้งดื่มสนทนากันอย่างสนุกสนาน
                เมื่อสมควรแก่เวลา หลังจากที่กินกันอย่าง อิ่มหนำสำราญแล้ว ก็เป็นเวลาที่ต้องแยกย้ายกลับกันฉันสังเกตุดูไม่มีไครแสดงความใจกว้างที่จะเป็นผู้เคลียจ่ายค่าอาหาร ในที่สุดอาฮุยคักโทรศัพท์ออกมากดหมายเลขแล้วพูดว่า " เสี่ยวหลี่  คืนนี้ออกไปจับกุมกวาดล้างได้อะไรไหม.. ..เออ ดี ดี ส่งมาพบผมที่ภัตราคาร เทียนอัน สักคน ให้มาช่วยจ่ายค่าอาหารหน่อย" พูดจบเขาก็เก็บโทรศัพย์เข้ากระเป๋าด้วยความภาคภูมิใจ พวกเพื่อนก็เฮด้วยความสนุกสนานต่อมาไม่ถึง ๑๕ นาที  ก็มีชายวัยกลางคนผลักประตูเข้ามา พอ เห็นยอดเงินในใบเสร็จก็หน้านิ่วคิ้วขมวด ดูเหมือนว่าเงินสดเขามีไม่พอจ่าย เขาควักโทรศัพย์ออกมาพร้อมทั้งกดโทรพูดว่า "คุณเลี่ยวหรือครับ  ผมครูใหญ่หม่านะครับ เรื่องลูกชายของคุณที่ฝากมาเข้าโรงเรียนมัธยมของผมนั้นเป็นอันว่าผมตกลงรับไว้แล้วนะครับ แต่พอดีวันนี้ผมเชิญเพื่อนๆมาเลี้ยงอาหาร อยากขอให้คุณมาช่วยจ่ายค่าอาหารได้ใหมครับ  ผมอยู่ที่ภัตราคารเทียนอัน ห้อง ๒๐๓ ...."
              หลังจากนั้นประมาณ ๒๐ นาที มีคนมาเคาะประตู พอประตูเปิดออกมา ทันทีที่เห็นสามีที่ใส่แว่นสายตาหนาเตอะของฉัน คือผู้เดินเข้ามา  ฉันเป็นลมล้มฟุบลงทันที ( เรื่องสั้นนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมดีเด่นมากมาย ประจำปี ๒๐๐๖ )จัดเทียบเท่ากับ นักเขียนปฏิวัตร หลู่ซิ่น ทีเดียว
เรื่องจาก FW Mail ครับ
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024