สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 25 เม.ย. 67
น้องมะ 2/6 : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความอื่นๆ
ความเห็น: 1 - [30 ก.ย. 54, 12:36] ดู: 1,283 - [25 เม.ย. 67, 08:14]
น้องมะ 2/6
moo2502 offline
30 ก.ย. 54, 11:26
1
น้องมะ 2/6
ภาพที่ 1
น้องมะ
โดย Nalinee Koraksawet เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2011 เวลา 0:11 น.
เมื่อก่อนฉันชอบเพ้อเจ้อว่า อยากออกกำลังกาย  อยากเข้านอนแต่หัวค่ำ  อยากตื่นเช้า อยากอารมณ์ดี  อยากทานอาหารให้ครบทุกมื้อทุกหมู่    อยากทำอะไรสารพัดอย่าง แต่ไม่ได้ทำซักอย่าง ได้แต่เพ้อไปเรื่อย  ไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยซักอย่าง ถ้าไม่นับเรื่องงานนะ แต่พอรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งเต้านมนะ ขอบอกว่า ตัวฉันเองยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย คำว่ามะเร็ง ลอยละล่องเต็มหัวไปหมด เครียดมึนอยู่ ประมาณ 4-5 เดือนได้ละมั๊ง ช่วงนั้น ฉันอ่านแหลก อะไรที่พอรู้ ว่าเค้าห้ามกิน ฉันก็ไม่กินทันที่ที่รู้เลยแหละ เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของฉัน แทบจะถูกทุกข้อ  อะไรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคนี้ได้    ฉันทำและเป็นซะหลายอย่าง เรื่องการใช้อารมณ์ของฉันก็ติดอันดับต้น ๆ กับเค้าเหมือนกันนะ ซึ่งฉันมักจะได้ยินมาว่าความเครียดนี่แหละตัวดีนัก  ผสมกับการกินผิดเวลา ชอบกินอาหารที่ไม่หลากหลาย แล้วก็ไร้สาระ ซะเป็นส่วนใหญ่ เวลานอนก็ไม่นอน เวลาตื่นก็ไม่ตื่น บางคนที่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงหรือเหมือนกันกับฉัน อาจจะคิดว่าตัวเองไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เรื่องนั้นฉันคิดเอาเองว่าเป็นเพราะร่างกายและเวรกรรมของเราแต่ละคน ล้วนมีความซับซ้อนแตกต่างกัน และสะสมมาไม่เท่ากัน แต่เมื่อทุกอย่างถึงพร้อม ก็เมื่อนั้นแหละ เรื่องนี้จริงเลย ทำอย่างไร ได้อย่างนั้น จริง ๆ

ทุกวันนี้ฉันถึงได้ไม่สงสัยเลย ว่าทำไมฉันถึงเป็นโรคนี้ ไม่เคยมีคำว่า ทำไมต้องเป็นฉันอยู่ในหัวเลยนะ ถ้าจะมี ก็คงเป็นคำว่า “รู้อย่างนี้”  ร  รู้อย่างนี้ไปตรวจสุขภาพเป็นประจำดีกว่า รู้อย่างนี้ออกกำลังกายซะตั้งนานแล้ว รู้อย่างนี้จะรีบเข้านอนเร็วกว่านี้  รู้อย่างนี้จะไม่ปี๊ดหรอก รู้อย่างนี้ จะไม่นู่น ไม่นี่ ไม่นั่น แล้วก็ปล่อยให้มันเป็นไปทั้ง ๆ ที่ก็รู้นะ  แต่ก็นั่นละนะ คนเรา ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา  แต่ฉันก็คิดว่ามันยังไม่สายเกินไปหรอก อย่างน้อยฉันก็ยังโชคดีที่เป็นแค่มะเร็ง ไม่ได้โดนรถชน หรือมีเหตุอะไร  ที่ทำให้ต้องตายไปอย่างกะทันหัน แบบนั้นซิมันน่าเศร้ากว่า แต่นี่ฉันยังพอมีเวลาที่จะได้คิด ได้เลือกจัดการกับชีวิตที่เหลือ ยังมีโอกาสได้พบเจอผู้คนที่ฉันรัก และที่สำคัญ ได้มีโอกาสรู้จัก พระพุทธศาสนา ได้มีโอกาสนั่งสมาธิ  ได้พบเจอสิ่งดี ๆ คนดี ๆ อีกมากมาย แม้จะได้เห็นมุมที่ไม่ดีมั่ง ก็ได้คิดว่ามันก็เป็นส่วนนึง ของทุกคน แม้แต่ตัวเราเองก็มี แล้วนับประสาอะไรกับคนอื่นละ เค้าก็คนเหมือนกับเรา ส่วนจะไม่ดีมากน้อยก็แล้วแต่คน ใครเลยจะดีไปได้หมดจด 

คิดถึงผู้คนทุกคนที่ฉันได้รู้จัก หรือแม้แค่พบเจอกันช่วงสั้น ๆ ก็ตาม คิดถึงว่าการที่เราแต่ละคนได้มารู้จักเจอะเจอกัน มันก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์พออยู่แล้ว แล้วถ้าติดตามตอนต่อมา ของชีวิต ว่าเราแต่ละคนล้วนมีผลต่อกันอย่างไรบ้าง ก็ยิ่งทึ่งในความสามารถของผู้กำกับที่อยู่ข้างบน ประกอบกับตัวของเราเองด้วย ที่ทำให้เราได้มาเป็นเพื่อน เป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง เป็นพ่อแม่ เป็นลูกหลาน เป็นญาติพี่น้อง เป็นคนรู้จัก เป็นครู เป็นศิษย์  เป็นคนที่ถูกรัก หรือเป็นคนที่ไม่ถูกรัก ให้ได้พบ ได้ผูกพัน พลัดพราก  ได้ช่วยเหลือกันเกื้อกูลกัน หรืออาจจะทำร้ายกันบ้าง โดยเฉพาะทางวาจา  สารพัดสารพันสิ่งที่ได้กระทำต่อกัน ซึ่งฉันคิดว่ามันไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญหรอกที่พวกเราได้มาเจอกัน




สิ่งมหัศจรรย์



ชีวิตนี่มีเรื่องมหัศจรรย์ มากมายไปหมด เพราะมนุษย์เราก็คือสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งเหมือนกัน ตัวเรานะ ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ความคิดของเรานี่สิ  มหัศจรรย์กว่า ชีวิตเป็นไป ก็เพราะ ความคิดนี่แหละ จริงด้วย  บ่อยครั้งที่ชมตัวเอง และคนอื่นว่า ช่างคิดได้  คนบางช่างคิดเรื่องร้าย ๆ ได้มหัศจรรย์มาก ๆ ถ้าคน ๆ นั้น ไม่มีความคิดร้าย ๆ  แล้วเค้าจะสามารถทำเรื่อง ร้าย ๆ ได้อย่างไรละ

ถึงฉันจะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เพียบพร้อม แต่มันก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้ฉันเป็นฉันในทุกวันนี้ได้ แม้แต่ผู้คนที่อยู่รอบตัวฉัน ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้ฉันรู้สึกดีกับชีวิตของตัวเองมาก ดีใจที่ตัวเองเกิดมามีพ่อแม่ พี่ น้อง และเพื่อน ๆ ที่ดี ฉันเคยไม่พอใจที่เกิดมาในครอบครัวของตัวเอง โดยลืมคิดไปว่า ตัวเองโชคดีแค่ไหนแล้วที่เกิดมา มีพ่อ มีแม่อยู่ครบ แถมมี พี่น้องอีกเพียบ ถ้าไม่มีพวกเค้าเลยละ ชีวิตฉันจะเป็นยังไง เพราะไม่มีชีวิตใครที่ดีพร้อมไปหมดหรอก  แล้วก็เพื่อน เป็นสิ่งที่ฉันภูมิใจที่สุดว่าฉันมีเพื่อนดี ๆ อยู่มากมาย   

ขอเพียงเราให้โอกาสตัวเองที่จะได้อยู่กับตัวเองจริงๆ บ้าง เราอยากที่จะรู้จักคนอื่น แต่เราเคยอยากที่จะรู้จัก
ตัวเองบ้างรึเปล่า ตัวฉันเองก็เพิ่งรู้จักตัวเองจริง ๆ ก็เมื่อไม่นานมานี่เอง  ทั้งที่ชีวิตฉันก็อยู่คนเดียวมาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งรู้จักตัวเองจริง ๆ เมื่อไม่นานมานี่เอง แล้วพอรู้จักแล้วก็ต้อง ค่อย ๆ ทำใจยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวเอง และตัวเองกำลังเป็น ถ้าเป็นเรื่องดี  ก็ยอมรับง่ายหน่อย  แต่ถ้าเป็นเรื่องร้าย ๆ ก็คงไม่ง่ายเป็นธรรมดา ถ้ามะเร็งไม่มา ฉันก็คงทำไม่ได้ขนาดนี้หรอก แล้วอย่างนี้จะให้ฉันเกลียดมะเร็งเหรอ เพราะน้องมะเค้าก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เค้าไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก เพราะเค้าก็คือส่วนนึงของฉัน

ถึงตอนนี้ ฉันไม่เสียใจเลยที่เป็นมะเร็ง ก็แค่เซ็งบ้างเป็นบางเวลา  ถ้าจะเสียใจก็คงเสียใจในความเป็นตัวเองมากกว่า ว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งแล้ว ทำไม ไม่รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ ถ้ามีอันเป็นอะไรไปด้วยเหตุอื่น คงน่าเสียใจมากกว่า



กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024