สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 4 พ.ค. 67
วิธีการดื่มตระกูล JW (ซ้ำขออภัยครับ) : Fishing Article
 ห้องบทความ/เทคนิค > บทความอื่นๆ
ความเห็น: 20 - [12 ก.ย. 55, 10:32] ดู: 13,027 - [4 พ.ค. 67, 01:28] โหวต: 5
วิธีการดื่มตระกูล JW (ซ้ำขออภัยครับ)
obishi (1 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้) offline
18 เม.ย. 55, 17:05
1
วิธีการดื่มตระกูล  JW  (ซ้ำขออภัยครับ)
ภาพที่ 1
Red Label
หรือในอดีตชื่อ JW Special Old Highland (เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Red Label ใน
ปี 1909) เป็นวิสกี้ตระกูล JW ชนิดเดียว ที่ไม่ได้เป็น Scoth Whisky แท้ 100%
หากแต่ว่า JW เน้นไปที่รสชาดของวิสกี้ ที่สามารถปรับให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์
มีทั้งความหวาน ความนุ่ม และความเผ็ดร้อนในเวลาเดียวกัน Red Label
เป็น Blended Whisky ที่ผ่านการผสมมาจาก Malt และ Blended Whisky 35 ชนิด
เป็น JW หนึ่งในไม่กี่ชนิด ที่ผลิตออกมาในขนาดที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกขวดจะมี
ลักษณะเหมือนกันคือ ขวดทรงสี่เหลี่ยม และ ฉลากสีแดงขอบทอง สัญลักษณ์เด่นอีก อย่างคือ
ไสตรดิ้งแมน หรือกล่องของ Red Label ที่สามารถนำมาเรียงต่อกันกลายเป็น
ฉลาก Red Label ขนาดใหญ่ได้ ข้อแนะนำในการดื่ม Red Label
สำหรับการดื่ม Red Label นั้น ไม่มีวิธีการดื่มทีแนะนำตายตัวมาจาก JW สามารถดื่มผสมกับอะไรก็ได้
กินเพียวก็ได้ หรือจะนำไปทำค๊อกเทลก็ยังได้ บวกด้วยเรื่องของราคา ทำให้ Red
Label เป็นเหล้าที่ขายดีที่สุด
วิธีการดื่มตระกูล  JW  (ซ้ำขออภัยครับ)
ภาพที่ 2
Black Label
เป็น Blended Whisky อายุ 12 ปี เป็นวิสกี้ Johnnie Walker ที่เก่าแก่ที่สุด
โดยวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1865 ในชื่อของ Walker’s Old Highland ก่อนจะมาใช้
ชื่อ Extra Special Old Highland ในปี 1906 - 1908 และสุดท้ายในปี 1909 ก็
เปลี่ยนมาใช้ชื่อ Black Label จนถึงทุกวันนี้ ลักษณะเด่นของ Black คือกลิ่นหอม
รมควันถ่านพีท กลิ่นขิงวานิลลา และกลิ่นผลไม่อย่างลูกแพร และแอปเปิ้ล และส่วน
ผสมจาก เกรนและมอลท์ วิสกี้กว่า 40 ชนิด ผสมผสานออกมาเป็น JW Black Label ใน
ปัจจุบัน วิธีการดื่ม JW Black Label ที่ดีที่สุด จำกันเอาไว้นะครับ Black จะ
ต้องดื่มโดยผสมกับน้ำและน้ำแข็ง เพื่อที่จะทำให้ได้กลิ่นของบุหรี่แห้ง กลิ่นของ
วานิลลา และกลิ่นของผลไม้ ที่จะอบอวลขึ้นมาหลังจากได้สัมผัสกับน้ำ การผสมน้ำจะ
ทำให้ได้รสของวิสกี้ที่ Strong ขึ้น (ภาษาไทยน่าจะเป็นคำว่า เข้มขึ้นครับ)



วิธีการดื่มตระกูล  JW  (ซ้ำขออภัยครับ)
ภาพที่ 3
GreenLabel
หรือในอดีตที่เราคุ้นเคยในชื่อของ JW Pure Malt เป็นวิสกี้น้องใหม่ที่สุดในบรรดา 5 Label
ทั้งหมด ความพิเศษของวิสกี้ที่หมักบ่มนาน 15 ปีชนิดนี้ อยู่ตรงที่ Green Label
เป็นวิสกี้ชนิดเดียวที่มีเพียงส่วนผสมของ Malt Whisky โดยไม่มี Grained Whsiky
ผสมอยู่เลย แถมส่วนผสมวิสกี้ทั้ง 15 ชนิด ที่นำมา Blended จนกลายเป็น Green
Label นั้น มาจากแหล่งกำเนิด Whisky ชั้นดีของสก๊อตแลนด์คือ Talisker,
Cragganmore, Linkwood, และ Caol Ila จนกลายเป็น Pure Malt Green Label ใน
ปัจจุบัน วิธีการดื่ม Green Label ให้ได้รสชาติมากที่สุด จำไว้นะครับ ให้กินใน
แบบของ On the Rock ด้วยการริน Green Label ลงในแก้วพอประมาณก่อน หลังจากชิมและ
รับกลิ่นรมควันจางๆและไอทะเล กลิ่นถังเชอรรี่ รวมถึงผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น แอพพริ
คอท ผิวส้ม พีช บวกกับกลิ่นเปลือกไม้ป่า และหญ้าอ่อน หลังจากนั้นจึงใส่น้ำแข็ง
ตามไป 1 - 2 ก้อน จะได้เห็นน้ำมันของวิสกี้ Fusil Oil และจะได้รับกลิ่นที่หอม
เข้มข้นขึ้นตามลำดับ เมื่อวิสกี้ได้สัมผัสความเย็น Green Label มีเอกลักษณ์อีก
อย่างหนึ่งคือ เมื่อดื่มแล้วรสชาติจะแตกต่างกันทุกครั้ง จากส่วนผสมต่างๆ
ของ Pure Malt ทั้ง 15 ชนิดนั่น
หมายเหตุ  JW ถอน Green Label ออกจากตลาดเมืองไทยระยะหนึ่งแล้ว  คงเหลือแต่พวกที่เคยสะสมไว้
วิธีการดื่มตระกูล  JW  (ซ้ำขออภัยครับ)
ภาพที่ 4
Gold Label
ถูกเปิดตัวขึ้นเมื่อปี 1920 ในโอกาสครบรอบ 100 ปี Johnnie Walker เป็นที่มาของคำ
ว่า Century Blend ที่จารึกอยู่บนฉลากของ Gold ทุกขวด วิสกี้หายากทุกชนิดที่ผสม
ออกมาเป็น Gold มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี รวมทั้งน้ำแร่บริสุทธิ์ และถังสำหรับ
หมัก รวมทั้งส่วนผสมหลักคือ Clynelish ซึ่งเป็นวิสกี้มอลทืที่หายาก และราคาสูง
ทำให้เกิดสีทอง ในตัววิสกี้ Gold ขวดนี้ การดื่ม เนื่องจากการดื่มวิสกี้ ไม่จำ
เป็นจะต้องคำนึงว่า วิสกี้จะเกิดการแข็งตัว เมื่อนำไป Frozen หรือ แช่ให้เย็น
จัด โดยเฉพาะ Gold ขวดนี้ ยิ่งคุณได้สัมผัสมัน ด้วยความเย็นมากเท่าไหร่ รสชาด
และกลิ่นของ Gold ขวดนี้ จะยิ่งนุ่มและอบอวลขึ้น การจิบควรจิบทีละน้อย และยิ่ง
ถ้าได้ ช๊อกโกแลต มารับประทานด้วยแล้ว คุณจะได้สัมผัส ความพิเศษ ว่าทำไม วิสกี้
ขวดนี้ จึงได้รับให้ประดับด้วยฉลากสีทอง

หมายเหตุ ปัจจุบัน Gold label ไม่มีแล้ว กลายเป็น Gold Reserveก ซึ่งมีราคาถูกลงมาก (blended)
วิธีการดื่มตระกูล  JW  (ซ้ำขออภัยครับ)
ภาพที่ 5
Blue Lable
นี่คือการผสมผสานของ เกรนวิสกี้ และ มอลท์วิสกี้ จำนวน 16 ชนิด ที่ต้องบอกว่า แพงที่สุด
ในโลก เพราะอะไรนั่นหรือ เพราะในจำนวน 16 ชนิดดังกล่าว มีบางชนิดที่ผ่านการหมัก
บ่มมากว่า 60 ปี และที่สำคัญ ในจำนวนวิสกี้ 1 ล้านถัง ที่ดิอาจิโอ ทำการผลิต จะ
มีเพียง 1 หรือ 2 ถัง เท่านั้น ที่นำมาเป็นส่วนผสมของ Blue Label ทุกขวดจะมี
หมายเลขกำกับ เพื่อแสดงถึงจำนวนที่ผลิตว่า หาได้ยากยิ่งขนาดไหน Blue ขวดนี้ จะ
มีจุกขวดที่ทำจากไม้ก๊อก หุ้มตะกั่วสีทอง มีกล่องบรรจุใส่เป็นสีน้ำเงิน และทอง
บุภายในด้วยผ้าซาตินอย่างดี การดื่ม จำไว้ว่า ใครอยู่ตรวจบัตรได้ดื่ม Blue
แล้ว อย่าเอาไปผสมมิกเซอร์ ให้คนเขาด่าในใจว่า ไอ้โง่ นะครับ ผมยังด่าในใจเลย
เหอะๆๆๆ การดื่มที่ดีที่สุด แน่นอนครับ วิสกี้ระดับนี้ จะต้องเป็นการดื่มแบบ
จิบวิสกี้ โดยไม่เติมอะไร หรือภาษาบ้านๆก็เรียกว่า ดื่มกันเพียวๆนี่แล่ะครับ
เจ้าของ JW บอกมาว่า จะให้ดี ควรจะอมน้ำแข็งให้เกิดความเย็นในปาก เมื่อน้ำแข็ง
ละลายหมด จึงค่อยจิบ Blue เข้าไป จะได้รับรสชาดที่ดีที่สุด แล้วจะได้รู้ว่า
วิสกี้ที่ว่ากันว่า ล้ำลึกที่สุดในโลก รสชาดิเป็นเช่นใด



" รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม"..  ^__^ ขอบคุณในการรับชมครับ
กรุณา ลงทะเบียน และ login ก่อนส่งความเห็นครับ
siamfishing.com © 2024