สยามฟิชชิ่ง
หน้าแรก|กระดาน|รีวิว|ประมูล|ตลาด|เปิดท้าย
login | สมัครสมาชิก | วิธีสมัครสมาชิก | ลืมชื่อ/รหัส | login ไม่ได้? | 5 พ.ค. 67
จูนทุ่นชิงหลิว กับเรื่องง่ายๆในการตั้งทุ่น: SiamFishing : Thailand Fishing Community
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
 กระดาน > สปิ๋ว/ชิงหลิว
ความเห็น: 60 - [27 ต.ค. 50, 17:39] ดู: 59,545 - [5 พ.ค. 67, 02:50]  ติดตาม: 3 โหวต: 9
จูนทุ่นชิงหลิว กับเรื่องง่ายๆในการตั้งทุ่น
กระทู้: 19
ความเห็น: 528
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 18-09-2549
ตั้งกระทู้: 22 ม.ค. 50, 11:41
จูนทุ่นชิงหลิว กับเรื่องง่ายๆในการตั้งทุ่น
ช่วงนี้เห็นว่ากระแสสะปิ๋วกำลังมาแรงครับ  พอดีช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ไปตกปลาด้วยเหตุผลเรื่องหน้าที่การงาน เลยขอใช้ช่วงเวลาอู้งานมานั่งเขียนบทความเล็กๆน้อย สำหรับเพื่อนนักตกปลา

มือใหม่และผู้ที่สนใจการตกสะปิ๋วได้ลองนำไปใช้หรือไปประยุคใช้กันดู ที่จริงแล้วเคยเขียนบทความไว้ ค่อนข้างยาว ชื่อ "ขอดเกล็ด"ลองไปหาอ่านกันได้ในเว็บเพื่อนบ้าน ซึ่งจะพูดถึงการ
ตกสะปิ๋วแบบโดยรวม และรวมถึง เทคนิคการตกปลาเกล็ดชนิดต่างๆ 

แต่วันนี้อยากจะพูดถึงหัวใจสำคัญอีกอย่างนึงในการตกสะปิ๋ว นั่นคือการตั้งทุ่น ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆแล้วสิ่งสำคัญในการตกสะปิ๋วนั้นผมจะให้ความสำคัญหลักๆดังนี้

1. จุดที่จะตก หรือเราเรียกว่าหมายนั่นเอง แน่นอนโดยตกปกแล้วปลาก้อมักจะอาศัยอยู่ทั่วบ่อ แต่ ปลาเกล็ดนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีเส้นทางในการออกหาอาหารตามหน้าดิน  ซึ่งมักจะอยู่
ตามขอบชายตลิ่ง ตอไม้ใต้น้ำ หรือร่มเงาไม้ที่ยื่น ลงไปในน้ำ และจากประสพการณ์แล้ว ปลาเกล็ดมักชอบที่จะอาศัยอยู่เหนือลมมากกว่า ใต้ลม และข้อดีอีกอย่างในการตกเหนือลมคือ อ่าน
ทุ่นได้ง่ายกว่า

2. การตั้งทุ่น และ จูนทุ่น การตั้งทุ่นส่วนใหญ่เพื่อนนักตกปลาทราบกันอยู่แล้ว ซึ่งแล้วแต่ความถนัดและประสพการณ์ของแต่ละคน แต่การจูนทุ่นนั้นคืออะไร เดี๋วเราค่อยมาว่ากัน

3. ช่วงเวลาและเหยื่อ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นนะครับปลาเกล็ดเกือบจะทุกชนิด มันจะมีพฤติกรรมในการหาอาหารของมัน นอกจากเส้นทางในการ ออกหาอาหารแล้ว ช่วงเวลาก้อมีผลในการ

ตกปลาเกล็ดด้วยเช่นกันโดยส่วนตัวแล้วผมจะแบ่งช่วงเวลาที่ตกสะปิ๋วได้เหมาะสมสุด 2 ช่วง ช่วงเวลาที่เหมาะสมนี้หมายถึง ช่วงที่ปลาจะเข้ามาตอดเหยื่อ หรือกินเหยื่อมากกว่าช่วงเวลาอื่น 
คือช่วง 10 โมงเช้า จนถึง บ่ายโมง และช่วง 4 โมงจนถึงตะวันตกดิน  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าช่วงเวลาที่เหลือปลาจะไม่กินเบ็ดนะครับ ที่กล่าวมานั่นคืออัตราความถี่ และช่วงเวลาที่หวังผล
แอดมินแก้ไข เพื่อทำการย้ายกลุ่มย่อย 29 ม.ค. 50, 10:42
กระทู้: 19
ความเห็น: 528
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 18-09-2549
ความเห็นที่ 1: 22 ม.ค. 50, 11:45
เอาล่ะเข้ามาพูดถึงการตั้งทุ่น และ จูนทุ่นกันดีกว่า การตั้งทุ่นอย่างที่เพื่อนนักตกปลาทราบกันแล้วนะครั
เอาล่ะเข้ามาพูดถึงการตั้งทุ่น และ จูนทุ่นกันดีกว่า การตั้งทุ่นอย่างที่เพื่อนนักตกปลาทราบกันแล้วนะครับ แบ่งได้หลักๆ 2 แบบ คือ บาลานซ์ และไม้ตาย ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของแต่ละคนซึ่งส่วนมากแล้วเราจะใช้การตั้งทุ่นแบบไม้ตายมากกว่า  เหตุผลคือง่ายไม่ยุ่งยาก หวังผลได้กับปลาเกล็ดทุกชนิด
ส่วนการตั้งทุ่นแบบบาลานซ์นั้นข้อดี คือ สามารถสื่อสารได้ไว เวลาปลาเข้ามาตอดเหยื่อ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีประสพการณ์แล้ว จะไม่รู้จังหวัดในการวัดคันเบ็ด เปอร์เซ็นการที่จะวัดเบ็ดเข้า
ปากปลานั้นมีน้อยมาก เพราะเราไม่สามารถแยกออกได้ว่า ขณะที่ทุ่นขยับนั้นปลา กำลังทำอะไร  ตอมเหยื่อ, ตอดเหยื่อ หรือ อมเหยื่อเข้าปากไปแล้ว ยกเว้นแต่  ปลาจะอมเหยื่อเข้าปาก
เต็มๆ แล้วถอนทุ่นหรือดึงทุ่นจมไปเลย หรือบางทีเหยื่อที่ห้อมเบ็ดไว้หมดทำให้ทุ่นถอน นักตกปลากัดวัดเบ็ดเปล่าๆเอาซะอย่างงั้น ข้อเสียอีกอย่างของการตั้งทุ่น บานลานซ์คือ ถ้าบรเวณที่
ตกมีลม พัดทุ่นจะพาเหยื่อคลื่นไปตามแรงลม ฉนั้น การตั้งทุ่นแบบบาลานซ์ จะเหมาะสมกับการตกปลาที่ตอดเหยื่อเบาๆ อย่างพวกปลาจีน และในพื้นที่ ที่ไม่ค่อยมีลมมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่า
จะไม่เหมาะกับการตกปลาเกล็ดอื่นๆเอาเสียเลย อย่างที่กล่าวไว้ถ้าเราสามารถอ่านทุ่นได้เข้าใจพฤติกรรมปลา การตั้งทุ่นแบบบาลานซ์นั้นก้อจะถือว่าเป็นอาวุธชั้นยอดอย่างนึงทีเดียว   
การตั้งทุ่นแบบไม้ตาย อันนี้สำหรับเซียนสะปิ๋วและมือใหม่ เข้าใจหลักการและการประกอบอยู่แล้ว เพียงแค่ผูกชุดสายหน้า (เบ็ด และ ลูกหมุนเล็กๆ) ตะกั่ว และ ทุ่น เท่านี้ก้อสามารถตกได้ หวังผลได้กับปลาเกล็ดทุกชิด (ไม่รวมปลาล่าเหยื่อ) ดีไม่ดีรวมไปถึงปลาหนัง และปลาเกราะ(ซัคเกอร์)ที่ไม่ได้รับเชิญด้วย
การตั้งทุ่นแบบไม้ตายนั้นขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละคน บางคนตั้งสูง บางคนตั้งต่ำ ผมเองก้อเช่นกัน ในการตกปลาแต่ละครั้งผมก้อจะตั้งทุ่น สูงต่ำไม่เท่าไร เพราะอะไร?  ขึ้นอยู่กับลม และปลาที่ตก  ถ้าลมแรง การตั้งทุ่นสูง ลมก้อจะพัดทุ่นเอน อ่านทุ่นลำบาก ส่วนปลาที่ตกนี้ไม่ได้หมายถึงว่าวันนี้ผมจะตั้งใจตกปลาอะไร แต่หมายถึงเวลา ถ้าเกิดวันนั้น หรือ บ่อนั้นมีปลาเล็ก
เยอะ จำพวกปลานิลการตั้งทุ่นต่ำ จะทำให้วัดไม่ค่อยได้ปลา เพราะปลาเล็กจะตอมตอดเหยื่อจนทุ่น  ขยับอยู่อย่างนั้น วัดเท่าไรก้อไม่เข้าปากซักที แต่โดยปกติแล้ว ถ้าปราศจากปัจจัยทั้ง 2 ข้อ ข้างต้นผมจะตั้งทุ่น ให้โผล่มา 3 ข้อ  1ข้อสำหรับปลาตอดและเหยื่อคลื่นที่ไปจากจุดเดิม ข้อที่ 2 วัดได้เลย  แต่ถ้ามีกั๊ก ขยับเล็กน้อยระหว่างข้อ1-2 ถ้าขยับขึ้นถึงข้อ3 ก้อวัดได้เลยเช่นกัน

ซึ่งเทคนิคการตั้งทุ่น นี้ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละท่านนะครับ
กระทู้: 19
ความเห็น: 528
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 18-09-2549
ความเห็นที่ 2: 22 ม.ค. 50, 11:48
ส่วนการจูนทุ่นนั้นคืออะไร ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่าทุ่นชิงหลิวมีหลายแบบหลายขนาด หรือ เรียกกันว่าเบ
ส่วนการจูนทุ่นนั้นคืออะไร ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่าทุ่นชิงหลิวมีหลายแบบหลายขนาด หรือ เรียกกันว่าเบอร์ ซึ่งเบอร์แต่ละยี่ห้อก้อต่างขนาดกันไปด้วย บางท่านอาจจะคิดแค่ว่า เอา
ตะกั่วเม็ดหรือตะกั่วฟิวส์ใส่ไปแค่ถ่วงทุ่นให้จม โผล่หางมาแค่ที่เราต้องการ หรือถ้าเกิดว่าใส่ตะกั่วเข้าไปแล้วทุ่นยังนอนหรือยังเอนอยู่ ก้อใส่เพิ่มเข้าไปอีก อย่างนั้นก้อถูกต้องแล้วครับ แต่
เราไม่รู้เลยว่าตะกั่วที่เราถ่วงไปนั้นหนักเกินไปหรือเปล่า ฉนั้น การจูนทุ่น หรือการปรับบาลานซ์ระหว่างทุ่นกับตะกั่วก้อมีความสำคัญอย่างนึง
เพราะ
การจูนทุ่นทำให้เรารู้น้ำหนักของตะกั่วที่เหมาะสมกับทุ่น คือทุ่นจะสื่อสารได้ดีเพราะตะกั่วไม่ถ่วงทุ่นหนักเกินไป สามารถสื่อสารให้เรารู้ได้ว่าปลาตอดเหยื่ออยู่ หรือปลาอมเหยื่อเข้าไปแล้ว
ส่วนการจูนทุ่นนั้นก้อง่ายมากๆ เพียงแค่เราเอาทุ่นที่มีอยู่ ลองมาร้อยสายเอ็นยาวซัก2คืบ ผูกเบ็ดและลูกหมุน แล้วลองเอาเบ็ดเกี่ยวตะกั่วที่เราใช้ดู (ในที่นี้ส่วนใหญ่ผมจะใช้ตะกั่วเม็ดเล็กๆ

มีขายเป็นกล่องมีรูตรงกลางไม่ใช่ตะกั่วหนีบนะครับไม่ดี เพราะทำให้สายขาดได้ง่าย) แล้วลองปล่อยทุ่นลงในโอ่งน้ำ แล้วคอยดูว่าทุ่นที่ปล่อยลงไปเป็นอย่างไร ถ้าหนักเกินไปตะกั่วจะดึงทุ่น
จมลงไปอยู่ใต้น้ำทันที แต่ถ้าได้น้ำหนักตะกั่วที่เหมาะสม เมื่อปล่อยลงไป ทุ่นจะจมลงน้ำเมื่อตะกั่วลงไปถึงก้นโอ่ง ทุ่นจะมีการให้ตัวนิดหน่อย ให้ตัวในที่นี้คือ เมื่อตะกั่วลงถึงพื้น ทุ่นจะมี
แรงดึงตะกั่วลอยขึ้นมาจากพื้น เล็กน้อยแล้วค่อยจมลงไป แล้วเราก้อจำว่า ทุ่นดอกนี้เบอร์นี้ ใช้ตะกั่วกี่เม็ด หรือควรใช้ตะกั่วขนาดใหน แล้วลอง ทำตามขั้นตอนนี้กับทุ่นเบอร์อื่นๆที่ท่านมีอยู่ดู


เพียงเท่านี้เพื่อนนักตกปลาก้อจะมีทุ่นที่สามารถสื่อสารได้แม่นยำในการตกสะปิ๋วแล้วล่ะครับ

เอาไว้คราวหน้าจะเอาเรื่อง "วัดเท่าไรก้อไม่ติด" มาให้เพื่อนๆนักตกปลาได้อ่านกันนะครับ

กระทู้: 62
ความเห็น: 1,695
ล่าสุด: 04-05-2567
ตั้งแต่: 08-01-2547
ความเห็นที่ 3: 22 ม.ค. 50, 12:25
ดีๆๆๆ  ต่อครับ 

กระทู้: 17
ความเห็น: 6,977
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-03-2545
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 4: 22 ม.ค. 50, 12:41
ยอดเยี่ยมครับ  น้ารินคัม
กระทู้: 21
ความเห็น: 617
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 30-11-2549
The Bear(171 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 5: 22 ม.ค. 50, 12:41
เข้าใจแล้วครับ ผมเองก็เคยรู้สึกว่าเวลาตกปลาบ่อ ถ้าอยู่หมายเหนือลม ปลาจะกินดีกว่า จริงๆด้วย 

ส่วนขอดเกล็ดอ่านหลายรอบแล้วครับ ได้ความรู้ดีมาก ขอบคุณมากๆครับ 
กระทู้: 37
ความเห็น: 2,647
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 16-08-2549
noiet(75 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 6: 22 ม.ค. 50, 12:51
น้ารินครับ  ผมอยากเห็นชุดปลายสาย ที่ประกอบเสร็จแล้วอ่ะครับ  ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นยังไง  ถ่วงตะกั่วทำยังไงประมาณเนี๊ยะอ่ะครับ  กะลังหัดสปิ๋วครับ  ขอบคุณครับ
กระทู้: 23
ความเห็น: 354
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 26-09-2549
JBL(18 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 7: 22 ม.ค. 50, 13:21
ขอบคุณครับ
กระทู้: 19
ความเห็น: 528
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 18-09-2549
ความเห็นที่ 8: 22 ม.ค. 50, 13:27
ต้องขอโทษคุณ noiet พอดีไม่มีรูปชุดปลายสายเลย แต่ ดูตัวอย่างจาก รูป ค.ห.1 ได้ แต่จะอธิบาย ให้คร่าวๆนะ
ต้องขอโทษคุณ noiet พอดีไม่มีรูปชุดปลายสายเลย แต่ ดูตัวอย่างจาก รูป ค.ห.1 ได้ แต่จะอธิบาย ให้คร่าวๆนะครับ

การประกอบชุดปลายสายในการตกสะปิ๋วนั้น ขึ้นอยู่กับนักตกปลาว่าทุ่นชิงหลิวที่นำมาใช้นั้นใช้แบบเสียบใส้ไก่ หรือแบบที่เปลี่ยนเป็นลูกหมุนแล้ว แต่อยากแนะนำให้เปลี่ยนเป็นลูกหมุนจะดีกว่าเพราะโยนเหยื่อได้ง่ายว่า และเวลาอัดปลาไม่ต้องมาพะวงว่าทุ่นจะไปติดปลายไกด์ในกรณีที่เราตั้งทุ่นน้ำลึก

ส่วนเทคนิคในการประกอบสายหน้านั้น คือ
1. line Stopper ---> ลูกปัดขนาดเล็ก
2. ทุ่นชิงหลิวที่เปลี่ยนจากใส้ไก่เป็นลูกหมุนแล้ว --->
3. line stopper (ดึงให้สูงขึ้นมาจากลูกหมุนชุดปลายสาย 10-12นิ้วฟุต)
4. ชุดปลายสาย ประกอบด้วย ลูกหมุนขนาดเล็ก สายเอ็น4ปอนด์ เบ็ดเบอร์ 4-6 เมื่อผูกเบ็ดเข้ากับลูกหมุนแล้วยาวไม่เกิน 3 นิ้วฟุต

ทำไมผมถึงใช้ line stopper 2 ตัว เหตุผลคือ ตัวล่างจะเป็นตัวป้องกันไม่ให้ทุ่นมาพันกับสายหน้าเวลาโยนเหยื่อ เพราะเวลาโยนเหยื่อโดยไม่มี line stopper ตัวล่างนี้ ชุดปลายสายมักจะไปพันกับหางทุ่นที่ห้อยลง จนดึงทุ่นจมน้ำไปต้องเก็บสายขึ้นมาปั้นเหยื่อแล้วโยนใหม่ครับ

line stopper ตัวล่างนี้ พอเราตัดสายเก็บอุปกรณ์แล้วไม่ต้องทิ้งนะครับ นำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยใช้เข็มเล่มเล็กๆ แทงเข้ารูเดิม แล้วใช้สายเอ็นสนเข็มเข้าไปใหม่ได้เลยครับ
กระทู้: 37
ความเห็น: 2,647
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 16-08-2549
noiet(75 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 9: 22 ม.ค. 50, 13:53
ชัดเจนมากครับครับ

ขอขอบคุณสำหรับน้ำใจ ที่น้ารินมีให้จากใจริง

ขอบคุณมากครับ  นับถือ หน่อยET
กระทู้: 86
ความเห็น: 4,658
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 21-08-2545
ความเห็นที่ 10: 22 ม.ค. 50, 14:50
เก็บด้วยคน......
กระทู้: 38
ความเห็น: 1,067
ล่าสุด: 22-04-2567
ตั้งแต่: 27-10-2548
นารา(132 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 11: 22 ม.ค. 50, 15:14
ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ขอดเกล็ดคืออาจารย์ท่านแรกที่ทำให้ผมหัดเล่นปลาเกล็ดครับ
และทำให้ผมเข้าใจคำว่า "ตกปลา"
กระทู้: 6
ความเห็น: 1,808
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 10-10-2549
ความเห็นที่ 12: 22 ม.ค. 50, 15:24
เยี่ยมจริงๆครับ
กระทู้: 42
ความเห็น: 4,095
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 15-06-2548
Rachi(293 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offlineใบแดง
ความเห็นที่ 13: 22 ม.ค. 50, 16:30
กระทู้: 107
ความเห็น: 59,683
ล่าสุด: 04-05-2567
ตั้งแต่: 16-08-2544
A21(2434 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 14: 22 ม.ค. 50, 17:01
แจ่มชัดแจ๋ว พี่แดววววววววววววววว ว.2 เสาร์นี้ไหมครับ
กระทู้: 125
ความเห็น: 3,739
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 17-06-2547
ความเห็นที่ 15: 22 ม.ค. 50, 17:07
แจ่มครับน้า
ขอบคุณครับ
กระทู้: 20
ความเห็น: 3,083
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 15-01-2549
ความเห็นที่ 16: 22 ม.ค. 50, 19:26

..........^.^ ดีครับ เปนฟามรุ้ดีจังเลย

กระทู้: 0
ความเห็น: 836
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 15-06-2549
ความเห็นที่ 17: 22 ม.ค. 50, 21:02
ใช้คันขนาดไหนดีครับ ถึงจะสนุกกับการตก กำลังหัดอยู่แบบ
งูๆ ปลาๆ ขอบคุณครับ
กระทู้: 3
ความเห็น: 63
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 12-09-2549
ความเห็นที่ 18: 22 ม.ค. 50, 21:20
แทงกิ้ว แทงกิ้ว หลายๆ
กระทู้: 5
ความเห็น: 192
ล่าสุด: 30-04-2567
ตั้งแต่: 12-07-2548
ความเห็นที่ 19: 22 ม.ค. 50, 21:27
กระทู้: 88
ความเห็น: 2,507
ล่าสุด: 01-09-2566
ตั้งแต่: 13-02-2548
ความเห็นที่ 20: 22 ม.ค. 50, 21:36
ผมติดตามบทความ "ขอดเกล็ด" ของน้ามานานแล้วครับ เยี่ยมมากครับ
กระทู้: 11
ความเห็น: 588
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 26-11-2549
Jewmen2000(83 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 21: 23 ม.ค. 50, 07:10
มาเก็บข้อมูลคับ น้าริน
กระทู้: 17
ความเห็น: 6,977
ล่าสุด: 27-01-2566
ตั้งแต่: 05-03-2545
jedi(100 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 22: 23 ม.ค. 50, 08:28
น้าพงค์ ตาม มาเก็บ ข้อมูล อีกแล้ว 55555
กระทู้: 6
ความเห็น: 1,448
ล่าสุด: 05-04-2567
ตั้งแต่: 20-06-2549
suriyadet(56 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 23: 23 ม.ค. 50, 11:52
ขอบคุณครับ
กระทู้: 120
ความเห็น: 8,743
ล่าสุด: 03-05-2567
ตั้งแต่: 08-02-2549
สมยศ(4788 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้)offline
ความเห็นที่ 24: 23 ม.ค. 50, 12:18


ยอดเยี่ยมครับ....ได้ความรู้เพิ่มมากเลย
กระทู้: 20
ความเห็น: 1,141
ล่าสุด: 30-04-2567
ตั้งแต่: 15-11-2547
ความเห็นที่ 25: 23 ม.ค. 50, 13:38
โห ชัดเจนไปเลย ขอบคุณครับ

ผมกำลังประสบปัญหาเรื่องทุ่นไม่เลื่อนอยุ่พอดีเลยครับ อ่อ ต้องเปลี่ยนเป็นลูกหมุนนี่เอง 

ถามนิดนะครับน้า รินคัม คือ ตรงลูกหมุนที่ทุ่นน่ะครับ ทำยังไงเอ่ย ใช่ท่อหดหรือป่าวครับ แล้วมันต้องผูกยังไงอ่ะครับ
หน้าที่: 1 | 2 | 3 >
siamfishing.com © 2024