กระดาน
รีวิว
ตลาด
ประมูล
เปิดท้าย
เรือ
แหล่งตกปลา
ร้านค้า
ค้นหาข้อมูล
Login
สมัคร
28 พ.ค. 68
ชะโด1กะบะ = ทองผาภูมิ : SiamFishing : Thailand Fishing Community
<
1
2
3
4
กระดาน
คห. 96 อ่าน 10,079 โหวต 27
ชะโด1กะบะ = ทองผาภูมิ
bigbike
(353
)
คห.76: 9 ก.ค. 54, 23:19
สุดเกะกะ
(244
)
คห.77: 9 ก.ค. 54, 23:40
ปากท้องสำคัญก็จริงอยู่ครับแต่เมือถึงคราวที่คนหากินแบบนี้จบชีวิตลงไปลูกหลานของเขาที่เลี้ยงมาจะสืบทอดการทำมาหากิน
แบบนี้ไม่ได้แล้วเพราะปลาไม่เหลือแล้วถ้า้เป็นอย่างนั้นแสดงว่ารักลูกหลานไม่จริงแล้วครับ..ตอนกูอยู่ให้ลูกหลานกูสบาย...ตอนกูตาย
มึงเอาตัวให้รอดกันเอง..มันจะดีหรือ
ใหญ่ บางพลี
(166
)
คห.78: 10 ก.ค. 54, 08:04
-เอาปลาล่าเหยื่อออก มากเท่าไร ปลากินพืช เช่น แรด นิล ตะเพียน หมอ บู่ สร้อย ฯลฯ ก็รอดมากขึ้น
ผมก็มีปลาเนื้อดีกินในราคาไม่แพง
-ปล่อยปลาล่าเหยื่อไว้มากๆ นักกีฬาตกปลาก็ชอบ เอาเรือกับ อปก.เรือนแสน ไปไล่ล่าตกแล้วปล่อย
ถ่ายภาพมาให้ดูมีคนชม หากขนมาเย๊อะๆ ก็โดนด่า แต่ที่แน่ๆ ปลากินพืชก็รอดน้อย ที่แย่คือ ผม
ต้องกิน แรด นิล หมอตะกรับ ราคาแพง เพราะหายากขึ้น ชาวบ้านต้องเสียค่าน้ำมันมากขึ้น
สรุปแว่..... ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะ ต่างคนทำตามที่ตัวต้องการ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
****** แต่ส่วนตัว ผมเชียร์ ให้เอาโดออกเย๊อะๆครับ ไม่ได้กินแรดเเก่งกระจาน มา 3 ปีแล้ว
ทิ้งท้ายนิด ว่า ((คนตกปลา))โมโหที่ไม่ได้สนุก กับ ทุกข์เพราะไม่มีจะลูกกิน((ชาวบ้าน))
ใครจะเศร้ากว่ากันครับ เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วมองให้รอบด้านครับ ปลดทุกข์ให้ใจตัวเอง
กันดีกว่า
อ่านที่นี่ก็ช่วยได้ครับ
ขอนลอย
(199
)
คห.79: 10 ก.ค. 54, 12:44
ดำยิงปลาจับคู่ กัดรัง แม่ครอก แน่นอนครับ มาช่วยยืนยันอีกเสียง
คนดำบอกว่าปลาพวกนี้ยิงง่าย ไม่หนี ลงไปเป็นเจอ
พวกช้วนลูกครอกที่เขาแหลม ได้ข่าวว่าปีนี้อาจจะลดลง เพราะราคาไม่ดี แม่ค้าเอาน้อย
..
ตกชะโดไม่ง่าย เพราะไม่มีตัวให้ตกครับ
stupidtokv2
คห.80: 10 ก.ค. 54, 19:39
การทำประมงทุกอย่าง เป็นการเอาเปรียบธรรมชาติอย่างที่สุด
ทำสวนยังต้องใส่ปุ๋ย ยังต้องใช้เวลาดูแล
แต่ทำประมง เราได้แต่ตักตวงจากธรรมชาติ น่าจะเก็บภาษีพวกทำอาชีพประมงมากกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
a40
(2
)
คห.81: 10 ก.ค. 54, 19:46
pia2505
(99
)
คห.82: 10 ก.ค. 54, 20:19
วิถีชาวบ้านครับ เพื่อปากเพื่อท้อง
psu_2519
(54
)
คห.83: 10 ก.ค. 54, 20:42
ป้าแอ้เข้าครัว
(2020
)
คห.84: 11 ก.ค. 54, 10:16
gfishing
คห.85: 11 ก.ค. 54, 13:42
MUM
(8
)
คห.86: 11 ก.ค. 54, 13:49
ส่วนตัวผมคิดว่า ระบบนิเวศน์ของเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำมันมีห่วงโซ่อาหารที่สมบูรณ์ของมันอยู่แล้วครับ
ไม่ใช่ว่าหากปลาล่าเหยื่อเยอะ ปลากินพืชจะลดน้อยลง
ผมเติบโตคุ้นเคยกับเขื่อนในประเทศไทยมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรของสัตว์น้ำในเขื่อนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งปลาล่าเหยื่อและปลากินพืช - ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของมนุษย์ ทั้งสิ้น " ที่ใช้เหตุผลว่าล่าเพื่อปากท้อง " ล่าทุกอย่างที่อยู่ในน้ำและบนบกแล้วเอาไปขายได้ ล่าแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย ( สัตว์ป่าคุ้มครอง ) เพราะกฏหมายเมืองไทยมีช่องว่าง และโทษทัณฑ์เบามากๆ
หากน้าว่าปลาล่าเหยื่อเยอะแล้วจะทำให้จำนวนของปลากินพืชลดน้อยลงป่านนี้ปลากินพืชคงสูญพันธุ์ไปหมดแล้วมั้งครับ เพราะแต่ก่อนชะโดในเขื่อนเยอะมากๆ ถึงมากที่สุด กระสูบนี่ฝูงใหญ่กว่ารถสิบล้ออีกมั้ง แต่ปลากินพืชต่างๆก็มีจำนวนที่เยอะมาก อาจจะเยอะมากกว่าปลาล่าเหยื่อซะด้วยซ้ำ แถมขนาดก็ใหญ่โตกว่าในสมัยนี้มากด้วย
แต่เมื่อเริมมีจำนวนของมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จาก 1 หมู่บ้าน ก็เพิ่มขึ้นเป็นหลายๆหมู่บ้าน มีการยึดอาชีพทำประมงเป็นหลัก มีการเลี้ยงปลาในกระชัง และหาปลาจากธรรมชาติตามฤดู ไปขาย ตั้งแต่ปลาเล็กปลาน้อย ไปจนถึงปลาขนาดใหญ่ ทั้งสัตว์น้ำสัตว์บก รวมไปถึงสัตว์ป่าคุ้มครองต่างๆ
...........................................................
ผมเป็นคนที่ชอบพักผ่อนด้วยการตกปลามาตั้งแต่เด็กๆ ตกทั้งปลาล่าเหยื่อ และปลากินพืช
ไม่ได้เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และไม่ได้โมโหที่ตัวเองจะไม่ได้เอาอุปกรณ์เรือนแสนไปตกแล้วปล่อย ( กับปลาล่าเหยื่อ )
แต่ดูจากภาพรวมของทุกๆปี และสอบถามรายละเอียด คำบอกเล่าจากชาวบ้านที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี
ชาวบ้านและชาวประมงไม่ชอบปลาล่าเหยื่อเพราะว่า " เวลาวางต่าขายหาปลา ก็ชอบมากัดกินปลาที่ติดต่ายทำให้เสียทั้งปลาและตาข่าย " , " เวลาเลี้ยงปลาในกระชังก็ชอบมากัดแทะกระชังจนทะลุแล้วขโมยปลาในกระชังไปกิน " , " เวลาวางเบ็ดราว ก็ชอบมากัดกินปลาที่ติดเบ็ดราว " ฯลฯ
ผมถามคำเดียว ปลามันผิดตรงไหนครับ " เพราะมันก็เลี้ยงปากเลี้ยงท้องมันเหมือนกัน และมันก็อยู่ในนี้มาก่อนพวกมนุษย์เสียด้วยซ้ำ " ถ้าจะบอกว่าชาวบ้านมีเหตุผลให้ล่า สัตว์น้ำมันก็มีเหตุผลให้ล่าเหมือนกัน
และในขณะเดียวกันผมนั่งตกปลากินพืช มันก็ไม่มีปลามากินเหมือนแต่ก่อนเช่นกันครับ ต้องอ่อยเหยื่อถมเหยื่อกันทีหลายๆสิบกิโลกรัมเพื่อรอฝูงปลาเข้ามากินเหยื่อที่ล่อไว้ แล้วจึงพานักตกปลาเข้าไปตก บางทีอ่อยเหยื่อไว้ตั้งเยอะยังไม่มีฝูงปลาเข้ามาเลยก็มี
ทั้งๆที่บอกว่าชะโดและปลาล่าเหยื่อลดปริมาณลง จะทำให้ปริมาณปลากินพืชเพิ่มมากขึ้น
" ทุกวันนี้ปริมาณของปลาล่าเหยื่อลดลงมากจนแทบจะไม่มีให้ตก แล้วทำไมปริมาณของปลากินพืชไม่เพิ่มขึ้นสักที เห็นมีแต่ลดปริมาณลงตามกันไปเรื่อยๆ ทุกๆปี "
ที่ผมพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะว่า " รู้สึกใจหายกับจำนวนปริมาณของสัตว์น้ำในเขื่อนต่างๆที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกๆปี "
และมีความต้องการอยากให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยกันสร้างกฏหมาย และกำหนดขอบเขตในการทำปะมง ให้มีช่วงของการหยุดทำปะมงเพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำของทุกๆปี "หยุดการล่าสัตว์น้ำทุกอย่างทั้งใช้อุปกรณ์จับสัตว์น้ำทุกชนิดและรวมถึงคันเบ็ดตกปลาด้วย"
ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อทรัพยากรสัตว์น้ำที่อุดมสมบรูณ์ของประเทศไทยเราครับ
ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ผมได้รับรู้ ได้ประสบพบเจอมากับตัวเองครับ แค่ต้องการให้เพื่อนได้รับรู้ก็เท่านั้นเองครับ
และผมก็เชื่อว่ามีน้าๆอีกหลายท่านที่รับรู้และได้เห็นมาเหมือนๆกับผม อาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำไป แต่ไม่ได้มาพิมพ์ให้เพื่อนๆได้รับรู้และเข้าใจกันครับ
หาก Admin เห็นว่าข้อความนี้ไม่สมควรก็ลบได้เลยนะครับผม
virat.s
(1084
)
คห.87: 11 ก.ค. 54, 15:09
อ้างถึง: ใหญ่ บางพลี posted: 10-07-2554, 08:04:42
-เอาปลาล่าเหยื่อออก มากเท่าไร ปลากินพืช เช่น แรด นิล ตะเพียน หมอ บู่ สร้อย ฯลฯ ก็รอดมากขึ้น
ผมก็มีปลาเนื้อดีกินในราคาไม่แพง
-ปล่อยปลาล่าเหยื่อไว้มากๆ นักกีฬาตกปลาก็ชอบ เอาเรือกับ อปก.เรือนแสน ไปไล่ล่าตกแล้วปล่อย
ถ่ายภาพมาให้ดูมีคนชม หากขนมาเย๊อะๆ ก็โดนด่า แต่ที่แน่ๆ ปลากินพืชก็รอดน้อย ที่แย่คือ ผม
ต้องกิน แรด นิล หมอตะกรับ ราคาแพง เพราะหายากขึ้น ชาวบ้านต้องเสียค่าน้ำมันมากขึ้น
สรุปแว่..... ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะ ต่างคนทำตามที่ตัวต้องการ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
****** แต่ส่วนตัว ผมเชียร์ ให้เอาโดออกเย๊อะๆครับ ไม่ได้กินแรดเเก่งกระจาน มา 3 ปีแล้ว
ทิ้งท้ายนิด ว่า ((คนตกปลา))โมโหที่ไม่ได้สนุก กับ ทุกข์เพราะไม่มีจะลูกกิน((ชาวบ้าน))
ใครจะเศร้ากว่ากันครับ เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วมองให้รอบด้านครับ ปลดทุกข์ให้ใจตัวเอง
กันดีกว่า
อ่านที่นี่ก็ช่วยได้ครับ
ลองคิดดูดีๆครับ ชะโดมันอยู่คู่กับประเทศเรามาเป็นพันปีแล้วครับ ถ้ามัน มีผลกระทบกับปลาเกล็ดจริง สมัยก่อนเราไม่มีปลาเกล็ดตัวใหญ่ๆกินกันหรอกครับ ชะโดมันกินเพื่ออยู่นะครับ ไม่ได้อยู่เพื่อกินแบบมนุษย์
ลองไปดูปลาตามตลาดสิครับว่าที่จับมามันเยอะเกินกว่าจะขายได้เท่าไหร่แต่ละวันต้องทิ้งไปเท่าไหร่ ไอ้ข้ออ้างประเภทเพื่อปากท้องเนี่ยหรือวิถีชาวบ้านเนี่ยเก่าไปแล้วครับ ที่จับมามันเกินกว่าที่พูดกันว่าเพื่อปากท้องไปเยอะแล้วครับ เราจับพวกเขามามากกว่าความต้องการทั้งนี้เพื่อตอบสนองกิเลสเราเองทั้งนั้นครับ ทั้งปลาเกล็ดปลาล่าเหยื่อ
โลกนี้มันสมดุลมาตั้งแต่ต้นมันเพิ่งมาเสียสมดุลก็ตอนที่มนุษย์ตั้งตัวว่าประเสริฐกว่าเพื่อนร่วมโลกนี่เองแหละครับ สิ่งประเสิรฐที่ทำร้ายเพื่อนร่วมโลกด้วยกันและผืนแผ่นดินที่ให้ชีวิตก็คนทั้งนั้นแล...
ก็ได้แต่ต้องช่วยกันให้ความรู้เด็กรุ่นใหม่ให้ลืมความเชื่อผิดๆ และรับรู้ถึงสมดุลของโลกและธรรมชาติที่แท้จริงครับ
atomka
(7
)
คห.88: 11 ก.ค. 54, 15:18
tammadaa
(574
)
คห.89: 11 ก.ค. 54, 15:41
อะนิจจัง นานาจิตตัง
artfishingman
คห.90: 11 ก.ค. 54, 15:50
:
DoctorK
(909
)
คห.91: 11 ก.ค. 54, 23:17
+
เอกคลอง8
(151
)
คห.92: 12 ก.ค. 54, 00:10
อุปกรณ์และเทคนิคของพวกเราพัฒนายิ่งขึ้นๆทุกๆวัน แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าบางสิ่งของพวกเราไม่พัฒนาขึ้นเลยแล้วทำให้...พรุ่งนี้ไม่มีปลา
กโน๊บ
(196
)
คห.93: 12 ก.ค. 54, 01:36
Nui113
(2767
)
คห.94: 12 ก.ค. 54, 06:09
tum.ปลากิน
(172
)
คห.95: 12 ก.ค. 54, 23:30
อ้างถึง: MUM posted: 11-07-2554, 13:49:31
ส่วนตัวผมคิดว่า ระบบนิเวศน์ของเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำมันมีห่วงโซ่อาหารที่สมบูรณ์ของมันอยู่แล้วครับ
ไม่ใช่ว่าหากปลาล่าเหยื่อเยอะ ปลากินพืชจะลดน้อยลง
ผมเติบโตคุ้นเคยกับเขื่อนในประเทศไทยมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงของจำนวนประชากรของสัตว์น้ำในเขื่อนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งปลาล่าเหยื่อและปลากินพืช - ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของมนุษย์ ทั้งสิ้น " ที่ใช้เหตุผลว่าล่าเพื่อปากท้อง " ล่าทุกอย่างที่อยู่ในน้ำและบนบกแล้วเอาไปขายได้ ล่าแบบไม่เกรงกลัวกฏหมาย ( สัตว์ป่าคุ้มครอง ) เพราะกฏหมายเมืองไทยมีช่องว่าง และโทษทัณฑ์เบามากๆ
หากน้าว่าปลาล่าเหยื่อเยอะแล้วจะทำให้จำนวนของปลากินพืชลดน้อยลงป่านนี้ปลากินพืชคงสูญพันธุ์ไปหมดแล้วมั้งครับ เพราะแต่ก่อนชะโดในเขื่อนเยอะมากๆ ถึงมากที่สุด กระสูบนี่ฝูงใหญ่กว่ารถสิบล้ออีกมั้ง แต่ปลากินพืชต่างๆก็มีจำนวนที่เยอะมาก อาจจะเยอะมากกว่าปลาล่าเหยื่อซะด้วยซ้ำ แถมขนาดก็ใหญ่โตกว่าในสมัยนี้มากด้วย
แต่เมื่อเริมมีจำนวนของมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จาก 1 หมู่บ้าน ก็เพิ่มขึ้นเป็นหลายๆหมู่บ้าน มีการยึดอาชีพทำประมงเป็นหลัก มีการเลี้ยงปลาในกระชัง และหาปลาจากธรรมชาติตามฤดู ไปขาย ตั้งแต่ปลาเล็กปลาน้อย ไปจนถึงปลาขนาดใหญ่ ทั้งสัตว์น้ำสัตว์บก รวมไปถึงสัตว์ป่าคุ้มครองต่างๆ
...........................................................
ผมเป็นคนที่ชอบพักผ่อนด้วยการตกปลามาตั้งแต่เด็กๆ ตกทั้งปลาล่าเหยื่อ และปลากินพืช
ไม่ได้เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และไม่ได้โมโหที่ตัวเองจะไม่ได้เอาอุปกรณ์เรือนแสนไปตกแล้วปล่อย ( กับปลาล่าเหยื่อ )
แต่ดูจากภาพรวมของทุกๆปี และสอบถามรายละเอียด คำบอกเล่าจากชาวบ้านที่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี
ชาวบ้านและชาวประมงไม่ชอบปลาล่าเหยื่อเพราะว่า " เวลาวางต่าขายหาปลา ก็ชอบมากัดกินปลาที่ติดต่ายทำให้เสียทั้งปลาและตาข่าย " , " เวลาเลี้ยงปลาในกระชังก็ชอบมากัดแทะกระชังจนทะลุแล้วขโมยปลาในกระชังไปกิน " , " เวลาวางเบ็ดราว ก็ชอบมากัดกินปลาที่ติดเบ็ดราว " ฯลฯ
ผมถามคำเดียว ปลามันผิดตรงไหนครับ " เพราะมันก็เลี้ยงปากเลี้ยงท้องมันเหมือนกัน และมันก็อยู่ในนี้มาก่อนพวกมนุษย์เสียด้วยซ้ำ " ถ้าจะบอกว่าชาวบ้านมีเหตุผลให้ล่า สัตว์น้ำมันก็มีเหตุผลให้ล่าเหมือนกัน
และในขณะเดียวกันผมนั่งตกปลากินพืช มันก็ไม่มีปลามากินเหมือนแต่ก่อนเช่นกันครับ ต้องอ่อยเหยื่อถมเหยื่อกันทีหลายๆสิบกิโลกรัมเพื่อรอฝูงปลาเข้ามากินเหยื่อที่ล่อไว้ แล้วจึงพานักตกปลาเข้าไปตก บางทีอ่อยเหยื่อไว้ตั้งเยอะยังไม่มีฝูงปลาเข้ามาเลยก็มี
ทั้งๆที่บอกว่าชะโดและปลาล่าเหยื่อลดปริมาณลง จะทำให้ปริมาณปลากินพืชเพิ่มมากขึ้น
" ทุกวันนี้ปริมาณของปลาล่าเหยื่อลดลงมากจนแทบจะไม่มีให้ตก แล้วทำไมปริมาณของปลากินพืชไม่เพิ่มขึ้นสักที เห็นมีแต่ลดปริมาณลงตามกันไปเรื่อยๆ ทุกๆปี "
ที่ผมพิมพ์กระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะว่า " รู้สึกใจหายกับจำนวนปริมาณของสัตว์น้ำในเขื่อนต่างๆที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกๆปี "
และมีความต้องการอยากให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ช่วยกันสร้างกฏหมาย และกำหนดขอบเขตในการทำปะมง ให้มีช่วงของการหยุดทำปะมงเพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำของทุกๆปี "หยุดการล่าสัตว์น้ำทุกอย่างทั้งใช้อุปกรณ์จับสัตว์น้ำทุกชนิดและรวมถึงคันเบ็ดตกปลาด้วย"
ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อทรัพยากรสัตว์น้ำที่อุดมสมบรูณ์ของประเทศไทยเราครับ
ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ผมได้รับรู้ ได้ประสบพบเจอมากับตัวเองครับ แค่ต้องการให้เพื่อนได้รับรู้ก็เท่านั้นเองครับ
และผมก็เชื่อว่ามีน้าๆอีกหลายท่านที่รับรู้และได้เห็นมาเหมือนๆกับผม อาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำไป แต่ไม่ได้มาพิมพ์ให้เพื่อนๆได้รับรู้และเข้าใจกันครับ
หาก Admin เห็นว่าข้อความนี้ไม่สมควรก็ลบได้เลยนะครับผม
สะใจมากคร้าบบบ
tum.ปลากิน
(172
)
คห.96: 12 ก.ค. 54, 23:31
อ้างถึง: virat.s posted: 11-07-2554, 15:09:31
อ้างถึง: ใหญ่ บางพลี posted: 10-07-2554, 08:04:42
-เอาปลาล่าเหยื่อออก มากเท่าไร ปลากินพืช เช่น แรด นิล ตะเพียน หมอ บู่ สร้อย ฯลฯ ก็รอดมากขึ้น
ผมก็มีปลาเนื้อดีกินในราคาไม่แพง
-ปล่อยปลาล่าเหยื่อไว้มากๆ นักกีฬาตกปลาก็ชอบ เอาเรือกับ อปก.เรือนแสน ไปไล่ล่าตกแล้วปล่อย
ถ่ายภาพมาให้ดูมีคนชม หากขนมาเย๊อะๆ ก็โดนด่า แต่ที่แน่ๆ ปลากินพืชก็รอดน้อย ที่แย่คือ ผม
ต้องกิน แรด นิล หมอตะกรับ ราคาแพง เพราะหายากขึ้น ชาวบ้านต้องเสียค่าน้ำมันมากขึ้น
สรุปแว่..... ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะ ต่างคนทำตามที่ตัวต้องการ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
****** แต่ส่วนตัว ผมเชียร์ ให้เอาโดออกเย๊อะๆครับ ไม่ได้กินแรดเเก่งกระจาน มา 3 ปีแล้ว
ทิ้งท้ายนิด ว่า ((คนตกปลา))โมโหที่ไม่ได้สนุก กับ ทุกข์เพราะไม่มีจะลูกกิน((ชาวบ้าน))
ใครจะเศร้ากว่ากันครับ เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วมองให้รอบด้านครับ ปลดทุกข์ให้ใจตัวเอง
กันดีกว่า
อ่านที่นี่ก็ช่วยได้ครับ
ลองคิดดูดีๆครับ ชะโดมันอยู่คู่กับประเทศเรามาเป็นพันปีแล้วครับ ถ้ามัน มีผลกระทบกับปลาเกล็ดจริง สมัยก่อนเราไม่มีปลาเกล็ดตัวใหญ่ๆกินกันหรอกครับ ชะโดมันกินเพื่ออยู่นะครับ ไม่ได้อยู่เพื่อกินแบบมนุษย์
ลองไปดูปลาตามตลาดสิครับว่าที่จับมามันเยอะเกินกว่าจะขายได้เท่าไหร่แต่ละวันต้องทิ้งไปเท่าไหร่ ไอ้ข้ออ้างประเภทเพื่อปากท้องเนี่ยหรือวิถีชาวบ้านเนี่ยเก่าไปแล้วครับ ที่จับมามันเกินกว่าที่พูดกันว่าเพื่อปากท้องไปเยอะแล้วครับ เราจับพวกเขามามากกว่าความต้องการทั้งนี้เพื่อตอบสนองกิเลสเราเองทั้งนั้นครับ ทั้งปลาเกล็ดปลาล่าเหยื่อ
โลกนี้มันสมดุลมาตั้งแต่ต้นมันเพิ่งมาเสียสมดุลก็ตอนที่มนุษย์ตั้งตัวว่าประเสริฐกว่าเพื่อนร่วมโลกนี่เองแหละครับ สิ่งประเสิรฐที่ทำร้ายเพื่อนร่วมโลกด้วยกันและผืนแผ่นดินที่ให้ชีวิตก็คนทั้งนั้นแล...
ก็ได้แต่ต้องช่วยกันให้ความรู้เด็กรุ่นใหม่ให้ลืมความเชื่อผิดๆ และรับรู้ถึงสมดุลของโลกและธรรมชาติที่แท้จริงครับ
ถูกต้องแล้วคร้าบบบบบ
<
1
2
3
4
ทำการ login ก่อนส่งความเห็น
siamfishing.com © 2025