เมื่อวันที่อบรมถ่ายภาพ  มีหลายคนบอกกับผมว่า อยากรู้ว่า ภาพที่ผมถ่ายหลาย ๆ ภาพ เขาชอบแต่ดูไม่ออกว่า ผมใช้เทคนิคอะไรบ้างในการถ่ายภาพนั้น ๆ  อยากให้ ผมอธิบาย  และ อิงบทเรียนที่ผมได้สอนไป เพื่อให้ได้เห็นภาพ และนำไปพัฒนาใช้งานได้ในโอกาสต่อไป 

           
            จากวันนั้น ผมก็คิดอยู่ว่า  ต่อไปผมถ่ายภาพแล้วจะพยายามพิมพ์บอกเทคนิคด้วย  แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกทริพตกปลาสักเท่าไหร่  เลยขออนุญาติ นำภาพเก่า ๆ ที่เคยถ่ายไว้มาบอกเทคนิคก่อนเพื่อเป็นแนวทางสำหรับ นักตกปลาที่ชอบถ่ายภาพเพื่อเก็บมาโพสท์ให้เป็นทริพตกปลาที่สนุก และน่าสนใจกว่าเดิมครับ

            ///////////////  ภาพนี้ ผมถ่ายที่อ่างเก็บน้ำบางพระ  เมื่อครั้งที่มีดอกหญ้าสวยงาม  ในช่วงฤดูหนึ่งของอ่างเก็บน้ำบางพระจะมีดอกหญ้า เช่นนี้สวย ๆ อยู่เต็มอ่างไปหมด  ระหว่างตกปลา  ส่วนใหญ่ผมจะนั่งอยู่ท้ายเรือ  เพื่อนร่วมทริพอยู่หัวเรือ  ระหว่างที่ปลาไม่ค่อยกินเหยื่อผมก็หยิบกล้องมา คอยจับจังหวะที่  เรือพายไปใกล้ดอกหญ้าแล้ว นำดอกหญ้านั้นมาถ่วงดุลย์กับ  ซัปเจ็คที่เป็นคนตกปลา  ทิ้งตำแหน่งของคนตกปลาให้ อยู่ในกฏ 3 ส่วน ปลายคันเบ็ดหันไปทางช่องว่าง ทิศทางเดียวกันกับหน้าของนักตกปลา ทิ้งพื้นที่ให้โล่งสบายไม่อึดอัด เวลาแบบหันหน้าไป 
ช่องว่างระหว่างคนกับเฟรม ไม่ว่าจะเป็น ด้านขวาและด้านล่าง วางให้พอเหมาะ ไม่เบียดเฟรมจนเกินไป  เป็นไปได้ก็ทิ้งระยะไว้ให้ พอดีกัน จะได้ภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์  ภาพนี้ วัดแสงแล้วต้องอันเดอร์ลงมาเพื่อ ขับให้คนเป็นภาพ เซมิซิลลูเอท ให้มีรายละเอียดนิดหน่อย    เก็บความงามของดอกหญ้าให้  ไล่ระดับเพิ่มการถ่วงน้ำหนักกับซัปเจ็คให้ พอดี    จัดเส้นแบ่งขอบฟ้าไว้ในกฏ 3 ส่วน  ทิ้งพื้นที่ด้านบนไว้  พระอาทิตย์ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ สีขาว ๆ เป็นวงกลม ๆ เพิ่มจุดสนใจให้กับภาพ เพราะสีขาวจะแย่งสายตาเราไป  แต่ด้วยความที่สีขาวนั้น ไม่มีจุดเด่น  อย่างไร มองภาพไปก็ไปจบที่ซัปเจ็คอยู่ดี    เส้นขอบฟ้าตรงถึงแม้จะมองไกล  จนเห็นทิวเขาอยู่ลิบ ๆ เป็นการสร้างมิติภาพได้อย่างดี ///////////////

                      ระหว่างการถ่ายภาพ  ต้องไม่รบกวนแบบปล่อยให้เขาตกปลาตามอากัปกิริยาของเขา  หากเราให้เขาพยายามแอ๊คติ้งจะได้ภาพที่ไม่เป็นธรรมชาติ สื่ออารมณ์ของภาพไม่ค่อยได้ครับ
     

ภาพนี้ เป็น ออโต้ไวท์บาลานซ์ แต่ผมปรับพิกเจอร์สไตล์ให้ สีออกมาแรง ๆ  เหมือนอย่างที่ปรับให้กับกล้องน้ามาด  ข้อดีก็คือ จะได้สีจัดจ้านขึ้น  แต่ข้อเสียก็คือ จะได้สีที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงนัก  แต่การถ่ายภาพ คือการสร้างภาพให้ เกินจริงนิด ๆ อยู่แล้วครับ  ลองดูครับในกล้องสามารถปรับพิกเจอร์สไตล์ได้มากมายหลายแบบ  ทั้งสำเร็จรูป  และปรับตั้งเอง  ลองไล่ปรับดูทีละค่า จะเห็นความแตกต่าง จนบางครั้ง เราได้ภาพสีแรง ๆ ที่น่าสนใจทีเดียวครับ

            ภาพนี้ ผมก็ถ่ายที่อ่างเก็บน้ำบางพระ  ครั้งที่ไปตกปลากับ อาจารย์ตี๋  วันนั้น เราได้ปลากระสูบ สองตัว ไปกันตั้งแต่เช้า อากาศดี  มีเมฆหมอกพอได้สร้างบรรยากาศ  มีคนไปเล่น พารามอเตอร์  ผมเห็นแล้วก็หยิบกล้องเปลี่ยนเลนส์ระยะ 70-200 ซูมที่ 200 ใช้โมโนพร๊อต เพื่อเก็บให้นิ่งที่สุด

            ยังใช้กฏเดิม ๆ คือ กฏ 3 ส่วน ทั้งเส้นขอบฟ้าที่ผมต้องมองให้ เมฆนั้นเหมือนเส้นแบ่งที่เราจะได้ กฏ 3 ส่วนให้ได้    พารามิเตอร์ ก็อยู่ในกฏ 3 ส่วนเช่นกัน  ทิ้งพื้นที่ด้านซ้ายไว้เพื่อให้ ดูเหมือน มีพื้นที่ให้ พารามิเตอร์วิ่งไปข้างหน้า    ผมพูดเสมอว่า ภาพถ่ายต้องสะอาด ๆ แล้วจะดูสบายตา  ภาพนี้ก็เช่นกันครับ  ถ่ายให้สะอาด ๆ เข้าไว้ 

              ภาพนี้ พิกเจอร์สไตล์แรง ๆ เหมือนเดิม  หลังจากที่ได้ภาพมาผมก็ ปรับเคิร์ฟนิดหน่อย ให้ ภาพดูแจ่ม ๆ แล้ว ก็ย่อด้วยแอ๊คชั่นที่ทำไว้ ครับ

ภาพนี้ เป็นอีกวันที่ไปบางพระ

              วันนี้ไปแต่เช้าเหมือนเดิม  แต่วันที่ไปนี้  เริ่มแล้ง ดอกหญ้าไม่มีแล้ว    ผมพยายามถ่ายให้ไม่เหมือนเดิม  วันนี้ก็เลยต้องเล่นกับ แสงและพระอาทิตย์

              ภาพนี้ผมปรับให้อันเดอร์เพื่อให้ เกิดภาพ เซมิซิลลูเอท  ปรับเอฟแคบ ๆ ให้เกิดแสงแฉกที่ดวงอาทิตย์  และ อาทิตย์ที่สะท้อนน้ำ  ใช้กฏเดิม ๆ คือ  กฏ 2/3  ทั้งคนด้านซ้าย ก็อยู่ในกฏ 2/3  ศรีษะอยู่ในจุดตัดที่ 1    พระอาทิตย์ด้านขวา อยู่ที่ กฏ 2/3  พระอาทิตย์ที่สะท้อนน้ำอยู่ที่จุดตัดที่ 4  เส้นขอบฟ้าตรง  อยู่ในกฏ 2/3  เคลียร์ ๆ สะอาด ๆ กฏง่าย ๆครับ

ภาพนี้ ถ่ายใกล้ ๆ กับภาพแรก  แต่ภาพนี้ ผมแหกกฏเรื่องการถ่วงดุลย์  เอาพระอาทิตย์มาไว้ตรงใกล้ ๆ คน  เรียกสายตามารวมไว้ที่เดียว    พระอาทิตย์นำสายตามาใกล้ซัปเจ็ค  ด้านล่างเงาสะท้อนพระอาทิตย์ พยายามให้เฉียกาบเรือเพื่อสร้างแสงแฉก  พอเราอันเดอร์ลงมามาก ๆ  ด้านขวา  ไม่มีแสงมาช่วย  เลยทำให้เกิดขอบดำ  อันนี้เป็นเสน่ห์ อีกอย่างของภาพครับ

            ภาพนี้ผมก็ถ่ายที่บางพระ  เมื่อครั้งไปตกปลากับ น้าแม็ค  น้าแม็คอยู่หัวเรือ  ใจร้อนเพราะต้องรีบเข้าหมาย  เลยช่วยไต๋ พายข้ามฝั่ง    ผมบอกให้ งัดพายแรง ๆ เพื่อให้ น้ำกระเซ็น 

              สมใจนึกเลย  น้ำกระเซ็นมาโดนหน้ากล้องเยอะเลย  ภาพนี้ ใช้สปีตชัตเตอร์ ไม่ช้านัก  เลยทำให้ เห็นสายน้ำค่อนข้างแข็ง  ให้อารมณ์ของการเคลื่อนไหวน้อย 

              ส่วนเทคนิคอื่น ก็ใช้ กฏ 2/3  แบ่งขอบฟ้าออกเป็น ครึ่ง ๆ  ไม่มีอะไรมากครับ

ภาพนี้  ก็ที่บางพระ ไปกับ น้าโอ  ถ่ายช๊อตใกล้เคียงกันกับ ที่ถ่ายน้าแม็ค ด้านบน  แต่ ปรับสปีตชัตเตอร์ให้ช้าลง  โหมดถ่ายภาพอะไรก็ได้  ขอให้ สั่งได้ ดั่งใจที่เราต้องการว่า ภาพนี้เราต้องการ เอฟกว้าง ๆ หรือ แคบ ๆ  ภาพนี้ต้องการ สปีตเร็ว ๆ หรือ ช้า ๆ  โหมดใด ก็วัดแสงออกมาเท่ากัน  ใช้ให้เป็นเถอะครับ  รับรองว่า ได้ภาพตามต้องการ

              จะเห็นได้ว่า  ภาพนี้ พอใช้สปีตช้า ๆ จะได้ภาพที่มีอารมณ์ของการเคลื่อนไหว  ไม่ว่าจะเป็น ใบพาย  หรือ กระแสน้ำที่ดูเหมือนแรง  ให้อารมณ์ความรีบเร่งได้อย่างดี

        ภาพนี้ก็ถ่ายที่บางพระครับ    ระหว่างที่เราตกปลา  ก็มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งหาปลาด้วยการ ล้อมอวนแล้ว ใช้ไม้กระทุ้งน้ำให้ ปลาตื่นไปติดอวน    วันที่ฟ้ามิด มีควันที่เกิดจากการเผาหญ้า ทำให้ ดูทมึน ๆ  ให้ภาพตุ่น ๆ ขาว ๆ    ผมปรับให้ อันเดอร์ลงมาเพื่อให้ เห็นน้ำที่กระเซ็นจากการ กระทุ้งน้ำ  ทำให้ภาพที่ได้ เป็น ซิลลูเอท และยังเห็น สายน้ำโดยมีเขา รับอยู่ทำให้ เห็นน้ำชัดขึ้น  ใช้ กฏ 3 ส่วนและ วางซัปเจ็คไว้ที่จุดตัดเช่นเดิมครับ

ภาพนี้ก็ที่บางพระครับ    เป็นภาพนักตกปลาที่มาสร้างนั่งร้าน สำหรับเฝ้าปลาอยู่บริเวณ  ที่ห่างจากริมตลิ่งพอสมควร  เพื่อให้ ตีเบ็ดได้ออกไปอีกไกล ๆ ไม่มีใครรบกวนมากนัก    ผมวางซัปเจ็คไว้ที่ จุดตัดที่ 2 และ ถ่วงดุลย์ ด้วยเหยื่อที่เพื่อนร่วมทริพลากมา  ในจุดตัดที่ 3  เส้นขอบฟ้า อยู่ในกฏ 3 ส่วน  วัดแสงให้อันเดอร์ลง เล็กน้อย เพื่อเก็บรายละเอียดของพื้นน้ำได้บ้าง

             

            เรียน คุณ  Aspire5050  ////////////  เรื่องกฏ 3 ส่วน ที่เกิดจากเส้น 4 เส้นมหัศจรรย์ที่ ทำให้เกิด จุดตัด 9 ช่อง  พี่เล็ก อธิบายได้ไม่ยาก  แต่ว่า พี่เล็ก ตีเส้น ในภาพไม่เป็น  พี่เล็ก ใช้ โฟโต้ช๊อป ไม่เก่ง    เดี๋ยวพี่เล็ก จะวานให้น้าเว็ป  มาตีเส้น อธิบายให้ คงชัดเจนขึ้นครับ  ///////////

ภาพนี้ ก็ถ่ายที่บางพระ  เมื่อครั้งที่ ยังมีดอกหญ้าอยู่  ภาพนี้ ใช้เทคนิคการเอียงกล้องถ่าย  เพื่อให้ภาพดูแปลกตา  อันเดอร์ให้ เป็นภาพซิลลูเอท ปรับ พิกเจอร์สไตล์ให้แรง ๆ สีจัด ๆ  ซัปเจ็ค อยู่ในกฏ 3 ส่วน เหยื่อที่ถูกเหวี่ยงเป็น องค์ประกอบรอง ที่อยู่ในจุดตัดที่ 2 แค่นี้  ภาพก็เรียกร้องความสนใจได้มากแล้วครับ

          ภาพนี้ก็ถ่ายที่บางพระ  หลังจากที่ได้ปลาแต่ก็เย็นมากแล้ว  ผมก็เลยใช้เทคนิคเปิดแฟลช  แล้วเปิดสปีตช้า ๆ จับจังหวะที่แบบแสดงอารมณ์ดีใจ  แล้วก็ใช้กฏ 3 ส่วน  เส้นขอบฟ้า ตรง  สะอาด สะอาดครับ

ภาพนี้ก็ถ่าย ที่บางพระครับ  เป็นนักตกปลาที่ไปทำแคร่  ในน้ำ แล้ว นั่งเฝ้าปลา 

            บรรยากาศตอนเย็น ๆ  ที่บวกกับหมอกควันคลุ้ง ๆ ได้ภาพไม่ใสนัก  แต่ก็ คอมโพสท์มาให้ สะอาด ๆ + กับ กฏ 3 ส่วนและ จุดตัด 9 ช่อง  แต่แอบแหกกฏ นิด ๆ ให้ มันหลุด ๆ เลยกฏ  แต่ก็ยังอิงกฏเกณฑ์อยู่ดีครับ

ภาพนี้ ถ่ายที่เขื่อนศรีนครินทร์ 

              กฏ 3 ส่วนแบ่งขอบฟ้า  คนอยู่ในจุดตัดที่ 4 มีรีแฟลชชั่นที่พื้นน้ำ

การถ่ายภาพให้ ได้แสงแฉก ต้องเปิดเอฟแคบ ๆ ในภาพนี้ เปิดเอฟ 32  ที่ ไอเอสโอ 100  หากผมวัดแสงให้พอดีที่คน  ภาพนี้ ก็คงสปีตช้ามาก ๆ ทำให้ ภาพสั่นไหว  แต่ภาพนี้เป็นภาพซิลลูเอท  ผมวัดแสงให้อันเดอร์  เลยได้ สปีตที่ 1/50  ทำให้ ถือถ่ายได้ โดยไม่สั่นไหวครับ 


                          น้ารำสองถัง  ลองถ่ายตามที่ผมบอกนะครับ  ถ่ายซิลลูเอท  เปิดเอฟแคบ ๆ ภาพจะไม่สั่นไหวครับ  ถือว่า เป็นการบ้านแล้วกันนะครับ  ผมจะคอยดูภาพในกระทู้นี้ครับ



//////////////////////////    และฝาก ถึงน้า  "แชมป์ฟิชชิ่ง"  และเพื่อนสมาชิก จาก เพชรบูรณ์    ผมได้ทาน มะขามหวานที่ฝากให้เมื่อวันก่อน  ด้วยความขอบคุณ  และ ขอบอกว่า  "อร่อยมาก ๆ ครับ "  ทุกฝักดีหมด  แบบไม่น่าเชื่อเลยครับ ////////////////////////// 

                            ขอบคุณมาก ๆ ครับ

                อย่างภาพนี้ก็เช่นกันครับ  ผมถ่ายด้วยมือถือ  ปรับเอฟแคบ ๆ สปีตชัตเตอร์ไม่ช้านัก เพราะผมต้องการให้อันเดอร์ เป็นเซมิซิลลูเอท    วางตำแหน่ง ของซัปเจ็คไว้ที่ กฏ 2/3 ด้านซ้าย  เส้นขอบฟ้าตรง แบ่งกลางภาพ ใช้แนวขอบเรือเป็น เส้นนำสายตาไปสู่ ซัปเจ็ค    มีแนวกิ่งไม้แห้ง เป็นตัวถ่วงน้ำหนักกับ ซัปเจ็ค  และวางตำแหน่งของ พระอาทิตย์ไว้ใกล้เคียงจุดตัดที่ 2 พร้อมกับ วางตำแหน่งของดวงอาทิตย์ และแสงที่สะท้อนน้ำไว้ ที่ กฏ 3 ส่วน ให้ถ่วงน้ำหนัก กับ ซัปเจ็ค ซ้าย - ขวา เกือบจะเท่า ๆ กัน  ส่วนสีที่เกิดนั้น เกิดจาก ปรับไวท์บาลานซ์เป็น ทังสเตน    คอยแอ๊คติ้งของ แบบให้ ดูเป็นธรรมชาติ และ รีแลกซ์มากที่สุดครับ

ตอบน้ารำสองถังครับ

        ภาพในความเห็นที่ 99 และ 100  ใช้กฏการลดหลั่นครับ
วัตถุ ที่ขนาดเดียวกัน ลดหลั่นเปรียบเทียบด้วยขนาดจากระยะของเลนส์ และวัตถุ ที่ใกล้ไกล ครับ  คงเคยได้ยิน คำว่า "เส้นผมบังภูเขา"  เทคนิคนี้ก็มาใช้กับ การถ่ายภาพนี้  ในความเห็นที่ 99 คนที่นั่ง อยู่ใกล้  ส่วนคนที่ยืนอยู่ไกล  แล้ว ก็ ใช้เทคนิค  ค่อย ๆ ให้คนนั่ง ยื่นมือเหมือน ถือคนที่ยืนอยู่ไกล  แค่นั้นเองครับ

        ความเห็นที่ 100 ก็เช่นกันครับ      ใช้เทคนิค  ยืนแล้ว ยื่นหน้าจูบ สโตนเฮด ดูแล้วเหมือน อยู่ติดกัน แต่ความจริงไกลกันมากครับ  ลองทำดูนะครับ รับรองได้แน่นอนครับ 

อย่างนั้นแหละครับ ถูกแล้ว  แต่  คงมีปัญหาเรื่อง ระยะชัดลึกครับ    ต้องเปิดหน้ากล้องให้แคบ ๆ  (เอฟสต๊อปสูง ๆ)  จะทำให้ภาพนั้นชัดลึก  จะชัดทั้งแฟนและ เครื่องบินครับ ลองใหม่นะครับ 

              หลายท่านถามว่า ภาพนี้วัดแสงอย่างไร    ทำไมเก็บฟ้า และ น้ำได้พอดี 

              ภาพนี้ ผมถ่ายด้วยการวัดแสงด้วย โหมด PALTERN วัดแสงที่ ท้องฟ้า  ซึ่ง ใกล้เคียงกับพื้นน้ำ สังเกตุได้ว่า ใกล้เทามาก  มีเรือ และ เสื้อสีขาวผสมให้ อันเดอร์อยู่แล้ว เลยไม่ต้องชดเชย  ถ่ายที่ ไอเอสโอ 100  ที่สปีตชัตเตอร์ 1/1000  เปิด เอฟ 5  ที่ระยะเลนส์ 14 ม.ม.  ด้วยเลนส์ 10-20 ของซิกม่า

              สาเหตุที่ได้ น้ำกับฟ้า สีเต็ม ทั้งคู่ก็เพราะ องศาของแสง  และทิศทางของผู้ถ่ายกับ แบบ และฉากหลังที่ หันหากัน 

              ตามที่เคยบอกไว้ว่า  แสงเดียวกัน ท้องฟ้าเดียวกัน  หากมองให้รอบ ๆ ตัวเราแล้ว จะเห็นว่า  แต่ละองศาที่เราขยับตัว  แสงเปลี่ยนตลอดเวลา  เปลี่ยนแม้กระทั่งพื้นน้ำ  และท้องฟ้า  ภาพนี้ จะดูดีกว่านี้หากมี ซีพีแอล ช่วยตัดแสงสะท้อนต่าง ๆ ให้ เข้มข้น จัดเจน ขึ้น  แต่ หากเรา ได้จังหวะทิศทางของแสงที่ ดีแล้ว  ซีพีแอลก็ไม่ต้อง      หากเรา ถ่ายภาพตกปลา  แล้วถูกบังคับด้วย ทิศทางของแสง  เพราะต้องอยู่ในเรือลำเดียวกับคนที่ตกปลา  ไม่ง่ายนักหากจะหาองศาของแสงได้ พอดี  ทุกครั้งไป  แต่จำไว้ว่า  หากมีโอกาสได้เจอแล้ว ต้องเก็บกลับมาให้ได้ครับ

ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจครับ 

                    เข้ามายืนยันว่า  โฟกัสที่ตาครับ    ไม่ใช่ว่า  โฟกัสที่ปากแล้วผิดนะครับ    ถ่ายภาพ ไม่มีผิด ไม่มีถูก  มีแต่สวยกับไม่สวย  แต่มันก็มีกฏเกณฑ์ของมัน  และมีมาตรฐานมุมมองที่ยอมรับกันทั้งโลกที่เกิดจากธรรมชาติของมนุษย์ที่ว่าด้วยการมองเห็น ครับ

          ภาพนี้ผมถ่ายขณะที่กำลังนั่งเรือจาก ท่าแพ ไปแพตาเหน่ง  บรรยากาศยามเช้า  ไม่มีแสงแดด  ผมอยากถ่ายให้ภาพแสดงถึงการเคลื่อนไหว  ของความเร็วเรือให้สัมพันธ์กับสายน้ำที่ถูกเรือแหวกช่องน้ำไป  ผมปรับให้สปีตชัตเตอร์ช้า ๆ  ซึ่งจะสัมพันธ์กับรูรับแสงที่แคบ ๆ  จนเหลือความไวชัตเตอร์อยู่ที่ 1/8 วินาที  ความเร็วของเรือ และสายน้ำที่เคลื่อนไป ทำให้เกิดเป็นสายน้ำ ให้อารมณ์ของการเคลื่อนไหวเป็นอย่างดี 

            ข้อสำคัญ  ควรถือกล้องให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะนิ่งได้ ครับ

                ด้วยเทคนิคเดียวกัน  ผมใช้สปีตชัตเตอร์ช้าๆ ถ่ายภาพ เพื่อนนักตกปลาที่ตีเหยื่อปลอมกันที่  เกาะเล็ก ๆ ของเขื่อนปราณ  ดูแล้วให้อารมณ์คลื่นแรง ๆ เหมือนกับว่า  พวกนักตกปลานี้ ตกอยู่เกาะของทะเลใด ทะเลหนึ่ง    แต่ที่แท้  ที่นี่คือ น้ำจืดครับ

                เทคนิคไม่ยากครับ    ใช้สปีตชัตเตอร์ช้า ๆ  ถือกล้องให้นิ่ง ๆ  จะได้อารมณ์ของการเคลื่อนไหว    สร้างภาพให้ ดูสนุกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ทีเดียวครับ

ตอบน้า รำสองถัง

        ภาพในความเห็น 128  พี่เล็กใช้เลนส์ ฟิชอาย 10-17 โตคิน่า ของน้าเว็ปครับ  ภาพนั้น พี่ไม่ได้บอกให้ คนเรือทำตัวนิ่ง ๆ แต่เขานิ่งอยู่แล้วครับ  สไตล์พี่  เวลาแคนดิทไลฟ์  หรือ ไลฟ์ฟิชชิ่งพวกนี้ พี่ไม่ค่อยสั่งแบบ ปล่อยให้เขาตกปลา  หรือ ทำอะไร ตามสบายไม่รบกวนเขา  แล้วเราหาจังหวะ ถ่ายภาพเอาเองครับ  นอกเสียจากตอน ถือปลามาโชว์นี่แหละ  อาจจะต้องบอก นู่นนี่บ้างครับ

        ส่วนภาพที่จะให้  ช่วยวิจารณ์ให้ ก็ลงมาในกระทู้นี้ได้เลยครับ

เทคนิคและวิธีการง่าย ๆ ที่ใช้กันบ่อยมาก และได้ผล ก็คือ ต้อง หา CPL มาใส่ไว้ที่หน้าเลนส์ แล้ว หมุนทำมุมให้ เกิดองศา ลดเงาสะท้อนครับ

            CPL  มีคุณภาพหลายเกรด ก็เป็นไปตามราคาเสียส่วนใหญ่  CPLที่ คุณภาพดีดี ตัดได้หมดจด  ราคาสูงลิบลิ่วครับ  แต่ก็คุ้มค่ากับงานที่ได้กลับมาครับ

CPL ของซิกม่าผมไม่เคยใช้เลยครับ  ไม่ทราบว่าดีหรือเปล่า  แต่อยากให้น้าลองดู  ว่า ใช้แล้วเห็นความแตกต่างหรือไม่  วิธีการใช้ ก็  หลังจากที่ คิดว่าจะถ่ายอะไร แล้วมันมีแสงสะท้อน ก็ค่อย ๆ หมุน CPL ดูช้า ๆ จะค่อย ๆ เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง  ภาพจะมืดลงนิด ๆ พร้อม ๆ กับ แสงสะท้อนนั้นค่อย ๆ หายไป  จนกว่าจะเจอจุดที่ดีที่สุดแล้ว ก็หยุดหมุน  แล้วลองถ่ายดู    หากจะเปรียบเทียบ  ก็ ถ่ายมา สองภาพ  ก่อนใส่ CPL และ หลังใส่ CPL ก็จะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้นครับ

          CPL  ที่ดีดี  เท่าที่เห็นก็มี 2 ยี่ห้อ คือ CANON  กับ NIKON แหละครับ  แต่ ส่วนใหญ่ คนใช้ NIKON มากกว่า ก็เพราะว่า  CANON เป็นรอยง่ายมากกกกกกกกก  ครับ 

ตอบน้ารำสองถัง  เลนส์ที่ใช้ถ่ายสินค้า  ผมว่า  ระยะเลนส์คิท นี่พอใช้เหลือเฟือแล้วครับ    หาไฟโคมสักสองสามดวง  มาช่วยกำกับแสง  เปิดเอฟให้แคบนิด  หาฉากสีขาวสะอาด ๆ อาจจะเป็นผ้าหรือกระดาษขาวแผ่นใหญ่    แล้ววางเหยื่อหรือสินค้าที่จะถ่าย  แล้วงอกระดาษด้านหลังขึ้นมาเป็นฉากรับนิดหน่อย  จะได้ไม่มีรอยต่อ  แค่นี้ผมว่า  เหลือเฟือแล้วครับ สำหรับการถ่ายสินค้าลงในเว็ป  ลองดูภาพ ของ น้าแม็ค ที่ถ่ายด้วยระยะเลนส์คิท  ครับ