ผมคิดว่าหลายท่านคงเคยเจอคำถามทำนองนี้ หรือไม่ก็เคยถามตัวเองเช่นนี้ และผมก็คิดว่า มีคนมากมายที่ไม่ตกปลา หรือไม่ก็เลิกไปก็เพราะคำถามนี้

คำถามนี้จะยังคงอยู่กับเราไปชั่วชีวิต หากเรายังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ ในยามมีสติเราอาจไม่คิดถึงมัน แต่ในยามหวาดหวั่น ก็ใช่ว่ามันจะไม่ผลุดขึ้นมาท้าทาย

ผมคิดว่าหลายท่านได้พบคำตอบมานานแล้ว บางท่านก็ไม่สนใจที่จะหาคำตอบ บางท่านก็ได้คำตอบที่ไม่ค่อยจะแน่ใจนัก สำหรับผมคำถามนี้ เป็นสิ่งที่ท้าทายความคิดเป็นยิ่งนัก จะว่าไป มันเป็นเหมือนเงื่อนไขให้ผมค้นคว้าไปไกลถึงความหมายของการดำรงค์อยู่เลยทีเดียว ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทความ "การตกปลา พุทธศาสนา และชีวิต" ( http://www.siamfishing.com/content/view.php?id=183&cat=article )

แล้วความเห็นของท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ

หมายเหตุ
1. ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ พิมพ์ครั้งที่ ๑ หน้า ๖๒๔
บาป, บาป- [บาบ, บาบปะ-] น. การกระทำผิดหลักคำสอนหรือข้อห้ามในศาสนา; ความชั่ว, ความมัวหมอง.
2. ตามพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ (พระเทพเวที-ประยุทธ์ ปยุตโต) พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้าที่ ๑๓๖
บาป ความชั่ว, ความร้าย, ความชั่วร้าย, กรรมชั่ว, กรรมลามก, อกุศลกรรมที่ส่งให้ถึงความเดือดร้อน, สภาพที่ทำให้ถึงคติอันชั่ว, สิ่งที่ทำจิตให้ตกสู่ที่ชั่ว คือ ทำให้เลวลง ให้เสื่อมลง

เรื่องนี้  ตามความเห็นของผมก็เช่นดังบทประพันธ์นี้

The old man and the sea

You did not kill the fish only to keep alive and to sell for
food , he thought. You killed him for pride and because
you are fisherman. You loved him when he was alive
and you loved him after. if you love him. it is not a sin to
kill him. or is it more ?

Ernest  Hemingway

ตราบใด ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ผมก็ไม่เลิก ชินซะแล้วกับคำว่าตกปลามันบาป อิๆๆ ...

มีคนเล่าให้ฟังเรื่องผู้ชายคนนึงที่ต่างจังหวัด...เขาออกไปตกปลาทุกวัน แล้วเวลาได้ปลามาก็จะเอาเชือกร้อยปากปลาติดๆๆไว้ด้วยกัน ทำอย่างนี้อยู่หลายปี...พอมีลูก ลูกเป็นปากแหว่งเพดานโหว่อ่ะ ชาวบ้านเลยบอกว่าเป็นเพราะบาปกรรม

ได้ยินแล้วก็กลัวเหมือนกัน...แต่เข้าวงการมาแล้วอ่ะ...กลัวไม่ได้ตกมากกว่า

ก็เลยคิดว่าจะทำบุญให้เยอะขึ้นอีก ประมาณว่าชดเชยกับการที่เราทำปลาเจ็บ...พอใช่ได้มะ???

อาทิตย์ที่แล้วนอนโรงพยาบาล 5 วันทอลซินอักเสบครับ ต้องฉีดยาเช้าเย็น เจ็บคอมาก มีแต่คนมาซ้ำเติม เพราะก่อนหน้าไม่สบายเอากะดี่เหล็กไปตีปลาบู่มาตัวละโล อีก1วันก็ไม่สบายเลยตอนป่วยกลัวมาก ตอนนี้หายแล้วเมื่อวานได้ปลาช่อนมา2 ตัว ดีใจจัง สงสัยต้องไปดูเหยื่อปลอมที่ร้านเพิ่มอีกแล้ว.....  ปล.พอหายก็ถวายหัวหมูกับรีฯแก้บนศาลพระภูมิ เจ้าที่ที่โรงพยาบาลเลยตอนไม่สบายยอมรับว่ากลัวมากๆๆๆๆๆ...

ผมว่าส่วนใหญ่มักจะโดนบอกกล่าวไม่ว่า เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงาน ญาติผู้ใหญ่หรือคนใกล้ชิด ว่ามันเป็นบาป กรรมจะตามสนองไม่กับตัวเอง ก็คนใกล้ชิด(โดยเฉพาะลูก) ผมว่าคนเราเกิดมาก็มีกรรมติดตัวมาอยู่แล้ว ใครทำอะไรก็ทำก็ทำไป เราตกปลาก็ตกไป จะหยุดตกเก้าเดือนก็ตอนภรรยาตั้งท้อง เพราะหลายๆคนขอร้อง และเพื่อความสบายใจของทุกๆคน ทั้งหมดทั้งปวงก็มีด้วยประการเช่นนี้ ...................  เศร้าเหลือเกินชีวิตคนตกปลาอย่างเราๆ

-โดยรวมแล้วผมไม่สนใจนักในเรื่องบาปผมคิดว่าสิ่งที่เราทำมันไม่เดือดร้อนใคร(ยกเว้นปลา ซึ่งเป็นอาหารของคน ไม่ต่างอะไรกับหมูและวัว และสัตว์ต่างๆ9ล9ชนิดที่ถูกคนกินเป็นอาหาร)รวมทั้งไม่ผิดกฏหมายรวมทั้งการตกปลาแบบกีฬาก้อเป็นส่วนช่วยในการอนุรักษ์พันธ์ปลาทางอ้อมอีกวิถีทางหนึ่งอีกทั้งยังทำให้บุคคลเหล่านั้นมีความใจเย็นและรักธรรมชาติอีกด้วย

เผอิญผมระลึกชาติได้....

ชาติก่อน... ผมเกิดเป็นปลาอยู่ในบึงสำรวมครับ
และชาตินี้... ผมมาเอาคืนอ่ะ 5 55 55 อย่าซีเรียสๆครับ

บาปน่ะ... มันก็บาปอยู่แล้วล่ะครับ (ถ้าจะยึดเอาตามหลักคำสอนฯ)
แต่มันก็เป็นบาปของผมนี่ และผมก็ไม่เคยเอาบาปนี้ไปอุทิศให้ใคร...
แม้แต่คนที่ถามคำถามนี้กับผม... และผมจะยอมรับบาปนี้ที่ผมก่อโดยดุษฎีครับ แม้ว่าชาติหน้าผมจะต้องเกิดเป็นปลาให้คนตกบ้าง(ฝากไว้ก่อน).... เพราะชาติโน้น... ผมก็จะได้เกิดมาเป็นคนตกปลาต่อไป 55 5 555

ผมมีคำตอบที่เคลียร์สำหรับทุกคนโดยใช้หลักพระพุทธศาสนา แต่ขอตอบแบบตัวต่อตัวครับ เรื่องมันยาวครับ

อ่านแล้วบางทีประสาทสัมผัสของผมมันก็แยกไม่ค่อยออก  แต่ของผมถึงเวลาไปทำบุญก็ไปทำครับ และเวลาว่างก็ไปทำบาปบ้างเพื่อให้เท่าๆกันบาลานซ์ให้กับชีวิตครับ ไม่บุญมากเกินไปและไม่บาปน้อยเกินไปครับ
  เวลาผมเข้าวัดก็จะชอบมาก..ชอบตอนที่พระท่านฉันเสร็จแล้วก็ไปยกกับข้าวมาทานกันหลายๆคน อิ่มจุใจ กรวดน้ำกลับบ้าน ชอบก็ตอนช่วงนี้แหล่ะครับ แหะๆๆ.. 

อืม ผมว่าบาปด้วยกันทุกคนแหละ เพราะคนเราต้องกิน  แล้วพอกินเราก้อบาปทำให้เหมือนเป็นตัวบ่งการฆ่าสัตว์หลายหมื่น หลายพันตัว  อ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...คิดเล่นๆ  อะ....อิ อิ

คำถามแบบนี้ ผมเจอบ่อยมาก

คำตอบแรก ที่จะได้ยินจากผม ก็คือ บังเอิญผมไม่ได้รักษาศีล 5 ผมเลยไม่รู้สึกว่า "บาป" เพราะผมเอง นับถือศาสนาคริสต แต่ผมเอง ไม่ค่อยอยากเอาเรื่องของศาสนามาเป็นข้ออ้างเท่าไรนัก............ ทุกศาสนา ต้องการสอนคนเป็นคนดีทั้งสิ้น

คำถามต่อมามักจะถามว่า แล้วตกมาเอาไปทำอะไร

จะปล่อย เขาก็ว่ามันเจ็บฟรีดิ ถ้างั้น
จะเอาไปกิน ก็ว่า ไม่สงสารมันเหรอ

ผมเอง ก็จะให้คำตอบว่า จริง ๆ ผมก็มีสัญชาติญานในการ "ล่า" เฉกเช่นบรรพบุรุษเคยทำมา เพื่อความอยู่รอด เพียงแต่วันนี้ การล่าของผม ไม่ได้ทำเพื่อความอยู่รอดแล้ว

บางท่านก็จะแย้งผมว่า แหม สมัยนี้ เขาไม่ต้องไปล่า เพื่อความอยู่รอดแล้ว ใช่ครับ แต่ท่านยังบริโภคปลา เนื้อสัตว์ อยู่หรือไม่ครับ ถ้ายังบริโภคอยู่ ก็ นั่นแหละครับ ยังต้องมีการล่า เพียงแต่ว่าปัจจุบันมีระบบการเงินขึ้นมาแทน เราก็ทำมาหากินตามที่เราถนัด และใช้เงินเป็นสื่อกลาง แต่จะเปรียบเทียบไป หากท่านใช้เงินซื้อเนื้อสัตว์มา ก็คงเปรียบเทียบ เฉกเช่นเดียวกับการ "จ้างวานฆ่า" คงไม่ผิดนัก

การบริโภค ของเรา ก็คือสาเหตุแห่งการล่า การฆ่า ครับ ผมได้เห็นถึงการประมงล้างผลาญ ด้วยเหตุผลว่า ปลามันมีราคา มีคนรับซื้อ ไปส่งตามรีสอร์ท ร้านอาหาร ตามแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งสัตว์น้ำทะเล เรายังส่งออกมีมูลค่าสูงมาก ก็เป็นหนึ่งแรงผลักดัน ให้เกิดการทำลายล้างอย่างรุนแรง อย่างที่เราได้เห็นกัน จนจะกลายเป็นเรื่องชินตา การเกิดสิ่งเหล่านี้ เกิดขึ้น คนกินไม่ "บาป" ใช่หรือไม่ครับ ....

มันไม่ใช่เหตุผลสำหรับเพียงแค่การแก้ตัว ให้การฆ่า และการล่าของผม นั้นชอบธรรม เพียงแต่หากเราคิดอย่างเป็นกลาง ดูว่า มันเป็นจริงหรือไม่


ฉะนั้น ผมเองก็ตกปลา ตามวิถีที่ผมยังอยากตกปลา เอามากินบ้าง ปล่อยไปบ้าง เดินอยู่บนทางสายกลาง และให้กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมที่เราทำแล้วมีความสุข ผมต้องการไปพักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้ใช้ชีวิต อีกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตกปลาทะเล หรือการตกปลาตามเขื่อน ได้เข้าใจเรียนรู้ธรรมชาติ แวดล้อม ของการตกปลา เรียนรู้ฤดูกาล เรียนรู้ พฤติกรรมของปลา และนำมาใช้กับการตกปลา

ผมได้รู้จักการใช้เหตุผล ความเชื่อมั่น และการทดลอง สิ่งต่างๆ ในการตกปลา ซึ่งมันทำให้ผมยังสนุกกับการตกปลาหลากหลายรูปแบบ ไม่ได้ยึดติด กับ ความเชื่อ หรือคำว่า เขาเล่าว่า เท่านั้น........

นอกจากนี้ ผมยังได้สัมผัสรูปแบบวิถีชีวิตต่าง ๆ เรื่องราวต่าง ๆ เวลาออกไปตกปลา เรื่องจริงมั่ง เรื่องโม้มั่ง ผสมปนเปกันไป เป็นประสพการ์ณของคนที่หลากหลาย ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ให้เราได้เรียนรู้

และ อีกหลายอย่าง หลายเหตุผล ที่ผมให้ตัวผมมีความสุข เวลาตกปลา ......

สำหรับผม เหตุผล ในการที่ผมตกปลา มันมีความหมายเกินกว่า คำว่า "ตกปลามันบาป" นั้นมากนัก ผมจึงยังตกปลาต่อไป

vbvbvb

เรื่องนี้อีกแล้วไซร้ น้าเวบเอ่ยทำไมนี่

เรื่องแบบนี้ ต้องบอกว่า

พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง ....

พอได้ไหมเนี่ยสุภาษิตนี้เนี่ย บังเอิญ ตอนเรียนภาษาไทย ได้ 1 อ่ะ แหะๆๆ

บาปอยู่ที่ใจ

ใจอยู่ที่ไหน .... ตัวคุณเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด

มันน่าปวดหัว จริง....จริง      แล้วถ้าผมเป็นคนญี่ปุ่นมาตกปลาที่ ประเทศไทยมันจะบาปไหม..หนอ !!!!!!

นานาจิตตังครับ

ถ้าถามผมว่าการตกปลาเป็นบาปไหม....ผมก็จะตอบเพียงสั้นๆ ว่า คงจะบาป
แต่ถ้าถามผมว่าได้อะไรจากการตกปลา....ผมสามารถที่จะตอบเป็นประโยคที่ยาวๆ มากกว่าคำว่า "บาป" เพียงคำเดียวครับ

ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก

ผมเคยได้ยินมาว่า  "บาปอยู่ที่คนทำ  กรรมอยู่ที่คนกิน"
555 เพราะฉะนั้น  ผมตกปลา  ไม่บาปครับ

อย่าไปซีเครียดเลยครับ  วงจรแห่งชีวิต 
เวลาเพื่อนถาม...ผมก็บอกไปว่า    "ปลาที่ผมตกได้เนี่ย มันโชคดีแล้ว เพราะผมตกได้จะปล่อยทุกตัว  แต่ถ้าเป็นชาวบ้านตกได้ เจ้าปลาตัวนั้นนะ....ตายแน่นอนครับ"

ตอนแฟนผมท้อง 8 เดือน ผมยังพาแฟนไปนั่งตกปลาทานอาหารที่บึงสำราญเลยครับ พอเดือนที่9 นั่นแหละถึงเลิกตก แบบกัวว่าจะคลอดที่บึงสำราญอ่ะ  คงชุกละหุกน่าดูถ้าคลอดที่บึงฯ เกิดลูกผมออกจากท้องแม่แล้วหล่นลงน้ำก็ว่ายน้ำหนีกันพอดี  ต้องวานพวกน้าป้อม น้าจอน ตีเบ็ดเกี่ยวลูกผมคืนมาอีก  จบบัดนี้ลูกชายผม 4 ขวบแล้วยังว่ายน้ำมะเป็นเลย.......แหะๆๆ อย่าซีเครียดครับ

บาปหรือไม่ สำหรับผม ไม่ได้คิดเลยอ่ะครับหรือว่าลืมคิดไปก็ไม่รู้ อิอิอิ แต่หากถ้าเป็นคนอื่นมาคิดแทนผม ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกครับ สำหรับผม ผมคิดอย่างเดียวก็คือ เวลาที่ผมไปตกปลา มันเป็นการทำบุญสำหรับผมอ่ะครับ และเป็นการทำบุญที่เห็นผลทันตาซะด้วย เพราะผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปตกปลา อาจจะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวไปสักนิด แต่ผมก็หาได้ทำให้ สิ่งมีชิวิตที่เรียกว่า...คน ที่อยู่รอบข้างผมเดือดร้อนแม้แต่น้อย

******* ผู้ใดทำบาป ทำชั่ว ผู้นั้นย่อมหม่นหมองไปเอง ********

- แล้วมีท่านใดบ้างล่ะครับ ที่ตกปลาแล้ว รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข เป็นทุกข์ รู้สึกเศร้า รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ และหมองหม่น ชีวิตไม่มีความสุข
- ถ้าไม่ ก็จงทำต่อไปเถอะครับ
- ทั้งนี้ ผมเห็นว่า มันไม่ได้หมายจำเพาะเจาะจงว่า จะเป็นเฉพาะเรื่อง "การตกปลา" เท่านั้นนะครับ ทุก ๆ เรื่องที่เรา ๆ ท่าน ๆ ทำอยู่ในชีวิตประจำวันด้วย

คนที่บอกว่าบาป  (หมายถึงคนที่รู้จัก กับผม)
ชีวิตมันยัง....ทำชั่ว.....  กว่า ที่ผมตกปลาอีกครับ...เพื่อนๆ
อย่าให้บอกเลยเรื่องอะไรบ้าง

ตกได้แล้วนำไปประกอบอาหารเลี้ยงทั้งครอบครัว มีคุณค่าทางโภวนาการอีกต่างหาก ดั่งคำที่ว่า กินปลาเถอะน้องสมองจะดีกินปลาเถอะพี่จะดีที่สมอง ผมว่ามันอยู่ที่เจตนาครับ ว่าบาปหรือไม่ อามิตตาพุทธ.......

อื่มมม..ไม่รู้สิ คล้ายๆกับผมอยากรวยแล้วยังขี้เกียจมั๊ง ก็รู้ว่าขี้เกียจไม่ดีจะยากจน ก็ยังขี้เกียจ ฮ่าๆๆๆ

เป็นกระทู้ที่ดีครับ ผมขออนุญาตคัดลอกของผมมาให้อ่านในนี้ถ้าไม่เป็นการสาวความยืดอีกครั้ง
สรุปสั้นๆนะครับ
หนึ่ง สังคมไทยได้ปลูกฝังทุกคนมาตั้งแต่เกิดแล้วว่า คำว่า "ตกปลา" ต้องคู่กับคำว่า "บาป"

สอง หากคิดได้แค่นี้ก็จะมีแค่ บาป กับ ไม่บาป เหมือนว่ามันเป็น สีขาว กับ สีดำ ไม่เคยมองว่ามันมีสีอื่น เช่น แดง เขียว... ในโลกนี้

สาม เป็นการผิดหลักพุทธศาสนาอย่างแน่นอนหากคุณนับถือพุทธ

สี่ ลองคิดดูว่าหากคนไทยพากันหยุดกินปลาแค่หนึ่งวัน ปลาจำนวนมหาศาลจะมีชีวิตรอดและไม่ต้องเจ็บปวดกับการถูกจับ เทียบไม่ได้กับจำนวนปลาที่ตกได้อันน้อยนิดด้วยซ้ำ

ห้า การจับปลาเพื่อการค้าต่างหากที่เป็นการทรมานสัตว์อย่างแท้จริงโดยไม่คิดด้วยซ้ำว่าปลามีชีวิตและเลือดเนื้อ เช่นการจับปลาฉลามโดยตัดเอาแค่ครีบแล้วโยนตัวทิ้งน้ำ นักตกปลาเสียอีกที่รักและห่วงใยแหล่งน้ำธรรมชาติที่ปลาอยู่ และใช้ประโยชน์จากปลาที่ตกได้มาอย่างระลึกถึงคุณค่าของปลา ผิดกับคนที่พูดว่าบาปบางคนที่กินปลาที่สั่งในร้านโดยคิดว่าปลาเป็นแค่อาหาร กินทิ้งกินขว้างเสียส่วนมาก นี่หรือผู้ที่เรียกตัวเองว่าบริสุทธ์

จบการสนทนาเถอะครับ ผมว่าถามกันมาหลายรอบแล้วครับ  ไม่ผิดกฎหมายก็ทำไปเถอะครับ