เก่ง 975 : Angler Profile
เก่ง 975 offlineใบแดง
เข้าชม 55,683 ครั้ง
ความถี่ 7 หน้า/วัน
ล่าสุด 27-01-2566, 00:20:30
ตั้งแต่ 25-04-2545, 19:15:33
มีสมาชิกติดตาม 4 ท่าน
ข้อมูลทั่วไป
เลขที่
1022
คันเบ็ด
สั้นมั่ง-ยาวมั่ง...
รอก
Penn-Newell......
เหยื่อ
แล้วแต่อารมณ์....
อื่นๆ:
k_love_fish@yahoo.com ; pachara_rithdech@hotmail.com ; pachara@yamaha-motor.co.th
ข้อมูลหน้ากระดาน
โหวต 5 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้ กระทู้ 89 คห. 2,725 ()
5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5-5
...ทำไม บักเดช ถึงพาเพื่อน..แห่กันไปเที่ยวผับ.. ทีละ 18 คน... ก็เพราะหน้าผับ ................เขาประกาศไว้ว่า ................ต่ำกว่า 18 ห้ามเข้าน่ะสิ (!!) ------------ * บักเดช................ไปร้านขายทีวี.. ! ถามคนขายว่า "ไม่ทราบว่า..ที่นี่มีทีวีสีขายรึเปล่า? คนขายตอบว่า.."มี" บักเดชเลยบอกว่า ................"งั้นเอาสีเขียวมาเครื่องนึง" (!!) ------------ บักเดช..เข้าไปเดินดูของในร้านจีฉ่อย เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่งวางอยู่ บักเดชถามอาอึ้มว่า "อึ้ม.. **ที่วอบแวบสีเงินๆ นั่นอะไร" อึ้มตอบว่า "กระติกน้ำไง ................(**ฟาย)" "แล้วมันทำอะไรได้มั่ง" "ก็ใส่ของร้อน-ก็ร้อนนาน ................ใส่ของเย็น-ก็เย็นนาน". บักเดช..เห็นว่าน่าสนใจ................เลยตกลงซื้อมาอันนึง เช้าของวันใหม่..อากาศแจ่มใส บักเดช..ก็เอากระติกน้ำที่เพิ่งซื้อมา..ไปที่ทำ งาน.. ตั้งอวดบนโต๊ะ..อย่างภาคภูมิ หัวหน้าบักเดชเห็นเข้า................เลยถามขึ้น "อะไรนั่นน่ะ..บักเดช" "กระติกน้ำครับ" "แล้วมันมีอะไรพิเศษรึ" "ก็ใส่ของร้อน..ก็เก็บความร้อนได้ หรือใส่ของเย็น..ก็เก็บความเย็นได้" หัวหน้าเลยถามว่า.. "แล้วใส่อะไรมาล่ะ" บักเดชยืด..ก่อนจะตอบว่า.. "กาแฟร้อน 2 แก้ว.. กับไอติม 1 ถ้วยครับ" (!!) -------------- ทุกครั้ง..หลังถ่ายเอกสารเสร็จ บักเดช..จะเอาฉบับก๊อปปี้-มาตรวจทาน..เทียบกับต้น ฉบับ เพื่อเช็คดูว่า..มีคำไหนสะกดผิดรึเปล่า (!!) -------------- บักเดช..จะยิ้มทุกครั้ง................ที่ฟ้าผ่า เพราะนึกว่า..มีคนกำลังถ่ายรูปเขาอยู่ !!) ------------- รู้ป่าวว่า...ทำไมบักเดช................ถึงกดโทรศัพท์เบอร์ฉุกเฉิน 911)..ไม่ได้ ก็เพราะ.....เขาหาเบอร์ 11 (สิบเอ็ด) .................บนแป้นไม่เจอน่ะสิ (!!) ----------------- บักเดช..เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์มาใหม่เครื่องหนึ่ง เล่นไปซักพัก..ก็เจอปัญหา บักเดช..เลยลองกดที่ HELP บนแป้น F1 ผ่านไปพักใหญ่... บักเดชหงุดหงิดมาก เลยโทรไปต่อว่า..ร้านที่เขาซื้อคอมมา "ผมกด F1 ตามที่เครื่องบอก.. เวลาที่มีปัญหา แล้วก็รออยู่เป็นชั่วโมง.. ยังไม่เห็นมีใครมาช่วย เลย" คนขาย : "(**...)" (!!) วันรุ่งขึ้น บักเดช : เครื่องคอมพิวเตอร์ คุณนี่ห่ว ยมากอีกแล้ว น่ะ ผมเสียเงินซื้อไปตั้งเยอะมีแต่ปัญหาไม่รู้จบ หน่ำซ้ำ พอโทรมาสอบถามพนักงานงานขายของคุณ ก็ดันตอบไม่รู้ เรื่อง ผู้จัดการ : มีปัญหาอะไรให้ดิฉันรับใช้ได้ค่ะ ( เสียงสั่นเครือมากด้วยอาการที่หวาดกลัวจะถูกลูกค้าด่ากลับ ) บักเดช : ก็หน้าจอคอมพิวเตอร์ ของคุณน่ะ รายงานผลว่า “ ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป“ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผู้จัดการ : บอกว่า เธอก็ไม่รู้ว่า ไอ้ซีตุ๊ป-ซีตุ๊ปเนี่ยมันคืออะไร ช่วงนั้นก็น้ำตาเกือบไหล เพราะกะว่าถ้าตอบปัญหาลูกค้าไม่ได้ ต้องถูกไล่ออกแน่เลยตู จนกระทั่ง..... ผู้จัดการ : คุณลองสะกดคำว่า " ซีตุ๊ป - ซีตุ๊ป " หน่อยสิคะ ว่าสะกดอย่างไร บักเดช : S - E - T - U-P - S - E - T - U - P ผู้จัดการ : คุณนี่ สุดยอด จริง ๆ อ่านได้งัย ซีตุ๊ป – ซีตุ๊ป 555! ------------- บักเดช..ไปหาหมอ...ในสภาพหูบวมแดงน่ากลัว หมอถามว่า.. "ไปโดนอะไรมาครับ" บักเดชตอบว่า.. " ผมกำลังรีดผ้าอยู่.. แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แต่แทนที่จะหยิบโทรศัพท์มาพูด ผมดันเผลอ..เอาเตารีดขึ้นมาแนบหูน่ะสิ" "โอ้ว..เดียร์" หมออุทานเป็นภาษาฝรั่ง................ด้วยความเวทนา "แล้วหูอีกข้าง..ทำไมถึงแดงเหมือนกันล่ะ" ..หมอถามต่อ "ก็**บ้านั่น...เสือ_ โทร.กลับมาอีกรอบ..อ่ะดิหมอ" (!!) --------------- * หลังจาก...ใช้ความพยายาม..ต่อจิ๊กซอว์อยู่น ในที่สุด..บักเดชก็ต่อเสร็จ เขาเอาไปอวดเพื่อน..ด้วยความภูมิใจ "เป็นไง ........เนี่ยฉันใช้เวลาต่อ..แค่ 5 เดือนเองนะโว้ย" เพื่อนบักเดชงง..ที่เขากล้าอวด " 5 เดือนเหรอ ! แถวบ้านฉันเรียกว่า..! โค-ตรนานเลยนะนั่น" "แกนี่ไม่รู้อะไร" บักเดช..ไม่ยอมลดละ "ดูที่กล่องนี่ ................เห็นมั้ย .................มันบอกว่า... "สำหรับ 4-7 ปี" แต่..ฉันใช้เวลาแค่ 5 เดือนเองนะเฟ้ย..(!!) :laughing: :laughing: :laughing: :laughing: :laughing: :laughing:
17 ปี, คห. 29 ดู 3.38K 1
แค้นฝังลึก
จอห์นนี่ เด็กชายอายุ 10 ขวบ เดินไปตามทาง.. มือนึงลากรถลาก อีกมือนึ่งดึงเชือกที่ผูกติดกับซากกบตัวแบนแต๊ดแต๋.. เมื่อเขาเดินมาถึงหอนางโลม.. เขาก็เคาะประตู.. หญิงวัยกลางคนนางนึงออกมาเปิดประตู และเมื่อหญิงผู้นั้นเห็นจอนห์นี่กับรถลากและซากกบ หล่อนจ้องมองเขาแล้วถามว่าเขาต้องการอะไร จอห์นนี่ตอบว่า "ผมรู้น่าว่าคุณขายอะไร ผมมีเงินนะ และผมก็จะไม่ไปไหนจนกว่าผมจะได้สิ่งที่ผมต้องการ" หญิงผู้นั้นขำ และคิดจะหยอกเด็กน้อยเล่น หล่อนจึงบอกให้เขาเข้ามาข้างในก่อน "เข้ามาสิ แล้วก็เลือกหญิงสาวที่เธอต้องการ" จอห์นนี่ถามว่า "มีสาวคนไหนที่เป็นโรคบ้างมั้ยเนี่ย?" หญิงวัยกลางคนประหลาดใจนิดๆแต่หล่อนก็ตอบไปว่า "ไม่มีหรอก" จอห์นนี่เถียง "แต่ผมได้ยินพวกผู้ชายพูดกันนะว่า ใครที่มีเซ็กซ์กับนางมาเบลที่หอนางโลมแล้วนั้น จะต้องไปโรงพยาบาลและโดนฉีดยา... ผมเอาคนนั้นแหละ.. ผมขอเลือกมาเบล.. ผมมีตังค์จ่ายน่า ไม่ต้องห่วง" หญิงวัยกลางคนมองจอห์นนี่อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ในที่สุดหล่อนก็บอกจอห์นนี่ว่า "เอาหล่ะ ถ้าอย่างงั้นจะเลือกมาเบลก็ได้ ขึ้นไปชั้นบนนะ มาเบลอยู่ห้องแรกทางขวามือ" จากนั้นจอห์นนี่ก็เดินไปที่บันไดพร้อมกับลากซากกบที่ถูกรถทับไปด้วย.. 10 นาทีต่อมา เขาก็เดินลงบันไดมา มือก็ยังลากซากกบตายอยู่อย่างนั้น เขาจ่ายเงินให้หญิงวัยกลางคน แล้วจูงรถลากมุ่งหน้าไปทางประตู หญิงวัยกลางคนเรียกให้เค้าหยุดก่อนแล้วถามว่า "ถามหน่อยเถอะ ไหนๆเธอก็รู้เรื่องของมาเบลแล้ว แล้วทำไมถึงเลือกสาวคนเดียวที่ติดโรคอีก? ทำไมไม่เลือกคนอื่นหล่ะ?" จอห์นนี่ตอบว่า.. "อ๋อ..มันเป็นแผนการแก้แค้นของผมน่ะ.. คืนนี้พอผมกลับบ้าน พ่อกับแม่จะออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน แล้วทิ้งให้ผมอยู่กับพี่เลี้ยง พอพ่อกับแม่ออกไป ผมก็จะฟันพี่เลี้ยงซะ.. แล้วพี่เลี้ยงผมก็จะติดโรคที่ผมเพิ่งติดไปเนี่ยแหละ.. พอพ่อกับแม่กลับมาบ้าน พ่อก็จะขับรถไปส่งพี่เลี้ยงของผม ระหว่างทางพ่อก็จะฟันพี่เลี้ยง.. แล้วพ่อก็จะติดโรค.. พอพ่อกลับมาบ้าน พ่อก็มีอะไรกับแม่.. แล้วแม่ก็จะติดโรคอีก.. แล้วพอถึงตอนเช้า พอพ่อไปทำงาน คนส่งนมก็จะมาส่งนม แล้วเขาก็จะฟันแม่ผม.. แล้วเขาก็จะติดโรค.. "ไอ้คนส่งนมเนี่ยแหละครับที่มันขับรถทับกบของผมตาย" :laughing: :laughing: :laughing: :laughing: :laughing: :laughing:
17 ปี, คห. 18 ดู 2.87K 1
เกิดรัยขึ้นเหรอ????
ภาพนี้ ที่โพสดูกันแบบตลกๆในกลุ่มที่ผมแหย่เล่น หรือว่าคุยสนุกๆด้วยกัน มันทำความเดือดร้อนให้ [b]คนบางคน แถว ราชบุรี[/b] เดือดร้อนใจ มากเหรอคับ???? น้าเวปเลยต้องตามมาแก้ไข ที่ความเห็นผมในกระทู้ที่ผ่านมา แล้วสมาชิกท่านนี้ ก็ได้นำเอาความไม่พอใจในการโพสรูปนี้ไปบ่นในกระทู้ขอความคิดเห็น 100 เสียงที่ผ่านมา ทั้งๆที่เป็นกระทู้แบบเป็นทางการ มันเหมาะสมหรือครับ แถมน้าเวปยังต้องตั้งกระทู้แบบว่า ติดตามปัญหาที่สมาชิกท่านนี้ ร้องเรียนมา แล้วก็ ลบออกไปเองจากระบบข้อมูล???? :angry: :angry: :angry:
17 ปี, คห. 104 ดู 13.71K 1
ไร้กรอบ.....?!?!?!?!?!?
ไร้กรอบ ***เคยได้ยินชื่อ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ ไหมครับ?? เขาเคยเป็นวิศวกรขององค์การอวกาศนาซา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน เคยได้รับรางวัลงานวิจัยที่ดีที่สุดระดับโลกเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไอพ่น ตัดสินใจกลับเมืองไทยเพราะ 1.อยากดูแลพ่อแม่ 2.ไม่อยากเป็นพลเมืองชั้นสองในบ้านพักคนชรา 3.อยากเที่ยว และ 4.ชอบกินอาหารอร่อย เคยเป็นอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะออกมาตั้งบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง ผมประทับใจบทสัมภาษณ์ของ ดร.วรภัทรใน "เสาร์สวัสดี" ของ "กรุงเทพธุรกิจ " เมื่อประมาณ 1-2 เดือนก่อนมาก คนอะไรก็ไม่รู้ ชีวิตมันส์เป็นบ้า ความคิดก็กวนเหลือหลาย ตอนที่เขาเป็นอาจารย์ วิธีการสอนหนังสือของเขาแปลกกว่าคนอื่น "ผมออกนอกกรอบตลอดเวลา" เขาบอก เขาเคยพาเด็กวิศวะไปที่ริมสระว่ายน้ำ เรียนไปและดูนิสิตสาว ๆ ว่ายน้ำไปด้วย คาดว่าคงไปเรียนเรื่อง "คลื่น" ระหว่างท่าฟรีสไตล์ กับท่าผีเสื้อ คลื่นที่เกิดขึ้นของท่าไหนถี่กว่ากัน ระหว่างชุดทูพีซกับวันพีซ แรงเสียดทานกับน้ำ ชุดไหนมากกว่ากัน แนวการศึกษาน่าจะออกไปทำนองนี้ แต่ที่ชอบที่สุดคือตอนที่เขาออกข้อสอบ ข้อสอบของเขาสั้นและกระชับมาก "จงออกข้อสอบเอง พร้อมเฉลย" โหย...เด็กวิดวะอึ้งกันทั้งห้อง คำตอบส่วนใหญ่เป็นการตั้งโจทย์แบบง่ายๆ เช่น ปั้นจั่นมีกี่ชนิด ผลปรากฎว่าได้ศูนย์กันทั้งห้อง เพราะเป็นคำตอบที่ไม่ได้แสดงความคิดที่ลึกซึ้งสมกับที่เรียนมาทั้งเทอม เหตุผลที่ ดร.วรภัทรออกข้อสอบด้วยการให้นิสิตออกข้อสอบเองเป็นเหตุผลที่ตรงกับใจผมมาก "ชีวิตคนเราจะรอให้อาจารย์ตั้งโจทย์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาโจทย์มาเอง คิดแล้วทำ ถ้าผิดแล้วอาจารย์จะปรับให้" เขามองว่าเด็กรุ่นใหม่ติดนิสัยเด็กกวดวิชา รอคนคาบทุกอย่างมาป้อนให้ไม่รู้จักคิดเอง "ถ้ารอและตั้งรับ คุณก็เป็นพวกอีแร้ง แต่พวกคุณแย่กว่าเพราะเป็นแค่ลูกอีแร้ง คือ รออาหารที่คนอื่นป้อนให้" โหย...เจ็บ ผมเชื่อมานานแล้วว่าชีวิตของคนเราเป็นข้อสอบอัตนัยที่ต้องตั้งโจทย์เองและตอบเอง ไม่ใช่ข้อสอบปรนัยที่มีคนตั้งโจทย์ และมีคำตอบเป็นทางเลือก ก-ข-ค-ง ถ้าใครที่คุ้นกับ "ชีวิตปรนัย" ที่มีคนตั้งโจทย์ให้และเสนอทางเลือก 1-2-3-4 คนคนนั้นชีวิตจะไม่ก้าวหน้า เพราะต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดเวลาติดกับ "กรอบ"ที่คนอื่นสร้างให้ ไม่เหมือนกับคนที่รู้จักคิดและตั้งคำถามเอง เรื่องการตั้งคำถามกับชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก อย่าลืมว่าเพราะมี "คำถาม" จึงมี "คำตอบ" เมื่อมี "คำตอบ" เราจึงเลือกเดิน พูดถึงเรื่องการตั้งคำถามผมนึกถึง"โสเครติส" เขาเป็นนักปรัชญาเอกของโลก ที่สอนลูกศิษย์ด้วยการสนทนา ตั้งคำถามให้ลูกศิษย์ตอบ สร้างองค์ความรู้จาก "คำถาม" กลยุทธ์ของ "โสเครติส" ในการสอนคือไม่ให้ความเห็นใดๆ แก่นักเรียน และทำลายความมั่นใจของ นักเรียนที่เชื่อว่าตนเองรู้ "โสเครติส" เชื่อว่าเมื่อเด็กตระหนักใน "ความไม่รู้" ของตนเองเขาจะเริ่มต้นแสวงหา "ความรู้ " แต่ถ้าเด็กยังเชื่อมั่นว่าตนเองมี "ความรู้" เขาก็จะไม่แสวงหา "ความรู้ " การตั้งคำถามของโสเครติสจึงมีเป้าหมายโจมตีและทำลายความเชื่อมั่นในภูมิความรู้ของนักเรียน เป็นกลยุทธ์เท "น้ำ" ให้หมดจากแก้ว เมื่อแก้วไม่มีน้ำแล้ว จึงเริ่มให้เขาเท "น้ำ" ใหม่ใส่แก้วด้วยมือของเขาเอง "น้ำ" ที่ลูกศิษย์แต่ละคนเทลงแก้วด้วยมือตัวเองมาจาก "คำตอบ"ที่เขาค้นคิดขึ้นมาเอง "คำตอบ" จาก "คำถาม" ของ "โสเครติส" "โสเครติส" นิยามศัพท์คำว่า "คนฉลาด" และ "คน โง่" ได้อย่างน่าสนใจ "คนฉลาด" ในมุมมองของ "โสเครติส" นั้นไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง แต่ "คนฉลาด" คือคนที่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ส่วน "คน โง่" นั้น คือคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ แต่ทำตัวราวกับเป็นผู้รู้ ***ไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้ผมยังมีความภาคภูมิใจใน "ความรู้" ของตนเอง แต่พออ่านถึงบรรทัดนี้ ทำไมผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลย***
17 ปี, คห. 27 ดู 3.52K 1
รูปงานปาร์ตี้ สยามฯ ณ. สกุณา เพิ่มเติมจ้า
เริ่มด้วยคุณอา วันชัย แจ้งอำพร
17 ปี, คห. 209 ดู 15.74K 1
ข้อมูลหน้าแรก
โหวต 0 เรื่อง 0 คห. 37
ข้อมูลหน้าตลาด
FB. 7 ประกาศ 10 คห. 295
ข้อมูลหน้าประมูล
FB. 1 ประกาศ 0 เสนอราคา 66
siamfishing.com © 2024