OkER : Angler Profile
OkER มีสำเนาบัตร offline
เข้าชม 5,415 ครั้ง
ความถี่ 1 หน้า/วัน
ล่าสุด 27-01-2566, 00:20:30
ตั้งแต่ 16-12-2551, 11:52:18
มีสมาชิกติดตาม 0 ท่าน
ข้อมูลทั่วไป
เลขที่
43836
ที่อยู่
419/1354 หมู่.5 ซ.32
ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270
บัตร
เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่จะเห็นข้อมูลนี้
ข้อมูลหน้ากระดาน
โหวต 19 คะแนนโหวตจากผู้ชมกระทู้ กระทู้ 3 คห. 7
ขออนุญาติแนะนำน้าๆ เกี่ยวกับเครื่องช็อตไฟฟ้าหน่อยครับ
ผมจำได้ว่าได้เคยเตือนน้าท่านหนึ่งซื้อได้นำเครื่องช็อตไฟฟ้ามาเปิดประมูลและผมก็ได้เตือนน้าคนนั้นไปว่า "การขายเครื่องช็อตไฟฟ้านั้นผิดกฎหมายนะครับ" โดยถึงแม้ว่าทางกฎหมายไทยในปัจจุบันจะมีช่องว่างทางกฎหมายเกี่ยวกับเครื่องช็อตไฟฟ้าแต่ผมก็คิดว่าการมีไว้ในครอบครองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามก็ไม่สมเหตุสมผลทั้งสิ้น ซึ่งที่ผมเตือนไปนั้นก็เพราะความหวังดีโดยไม่อยากให้เกิดเหตุสลด ดังข่าวที่ผมได้่นำมา post ไว้นะครับ และอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเป็นเครื่องมือในการข่มขืนผู้หญิง และผมก็ได้นำข้อความที่ผมอ่านเจอด้านล่างมาให้น้าๆ ทุกท่านได้ดูกัน เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ ตร.คุม2คนงานโหดทำแผนฆ่านายจ้าง วันที่ : 13 กรกฎาคม 2550 จากเหตุการณ์ที่ นางวาสนา แซ่ตั้ง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง หจก.ศรีสาธิต ในซอยวชิระธรรมสาธิต 57 สุขุมวิท 101/1 แขวงบางจาก เขตพระโขนง ถูก นายปาย อายุ 23 ปี ชาวกะเหรี่ยง กับนายจรินทร์ หรืออ๊อด พันธ์ศิริ อายุ 20 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี สองลูกจ้างทมิฬทำร้ายร่างกายจนซี่โครงหัก ใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต ก่อนจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกายและอวัยวะเพศทิ้งศพไว้ในร้านชิงเอาเงินสด 40,000 บาท หลบหนีไป เมื่อตอนค่ำวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา พอวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง และ กก.สส.บก.น.5 ติดตามจับกุมตัวลูกจ้างทั้งสองคนได้ ยอมรับสารภาพหมดเปลือก สำหรับนายปาย กะเหรี่ยงทมิฬ ยังเคยก่อเหตุฆ่าเพื่อนคนงานตายในท้องที่ สภ.ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อปีที่แล้วด้วย ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ท.สุชัย พุ่มไพศาลชัย รอง ผกก. สส.สน.พระโขนง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ไพรินทร์ รัตนประทีป พงส.(สบ3) เจ้าของคดี และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งได้ควบคุมตัว นายจรินทร์ หรืออ๊อด พันธ์ศิริ กับนายปาย สองผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ นางวาสนา แซ่ตั้ง นายจ้าง ไปยื่นคำร้องฝากขังผู้ต้องหาผลัดแรกต่อศาลจังหวัดพระโขนงเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. ถึงวันที่ 23 ก.ค. 50 พร้อมกับคัดค้านการขอประกันตัวของผู้ต้องหา และขออนุญาตนำผู้ต้องหากลับไปควบคุมตัวที่ สน.พระ โขนง เพื่อนำตัวไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ และสอบสวนปากคำเพิ่มเติม ศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตตามคำร้องของพนักงานสอบสวน จากนั้นตอนบ่ายวันเดียวกัน พ.ต.อ. ประสาท ไชยศิริ ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.สุชัย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ไพรินทร์ พงส.(สบ3) เจ้าของคดี พร้อมด้วยกำลังตำรวจ 50 นาย ได้ควบคุมตัวนายจรินทร์ กับนายปาย สองผู้ต้องหาทมิฬ เดินทางไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพที่ หจก.ศรีสาธิต เลขที่ 875/1 ซอยวชิระธรรมสาธิต 57 สุขุมวิท 101/1 ที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.ปรีดาภรณ์ แซ่ตั้ง อายุ 18 ปี กับ ด.ช.เจษฎาภรณ์ แซ่ตั้ง อายุ 14 ปี ลูกสาวและลูกชายของนางวาสนา รวมทั้งประชาชนเกือบ 100 คน พากันมาดูการทำแผนฯของผู้ต้องหาด้วย การทำแผนฯเริ่มตั้งแต่ นายปาย กับนายจรินทร์ นั่งกินเหล้ากันที่ห้องพักคนงานหลัง หจก.ศรีสาธิต จุดที่ 2 นายปาย ผู้ต้องหานำเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่ใส่ก่อเหตุไปทิ้งถังขยะใกล้ๆห้องพัก และจุดที่ 3 ตอนที่ผู้ต้องหาทั้งสองลอบเข้าไปทำร้ายนางวาสนา ขณะนั่งทำงานอยู่ในร้านจนเสียชีวิต ใช้เวลาในการทำแผนฯ 30 นาที หลังทำแผนฯเสร็จแล้ว น.ส.ปรีดาภรณ์ พร้อมกับญาติ ๆ และไทยมุงที่มาดู ต่างตะโกนสาปแช่งและพยายามจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ทำร้ายผู้ต้องหาทั้งสองตลอดเวลา โดยเฉพาะ น.ส.ปรีดาภรณ์ ลูกสาวผู้ตายที่ร่ำไห้ตลอด เวลา ถึงกับตะโกนด้วยความแค้นว่า ตำรวจน่าจะปล่อยให้ฆาตกรทั้งสองโดนรุมประชาทัณฑ์จนตายถึงจะสาสมกัน ถึงโดนประหารชีวิตก็ไม่คุ้มเท่าที่ทำกับแม่ตน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยกันไม่ให้ผู้ต้องหาถูกทำร้าย ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมที่ สน.พระโขนง อย่างทุลักทุเล พ.ต.อ.ประสาท ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า พนักงานจะเร่งสอบสวนปากคำผู้ต้องหาให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมกับรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรจาก ทว. ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ และผลการตรวจลายนิ้วมือจาก พฐ. ที่ต้องนำมาประกอบสำนวน คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองได้ ด้าน พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องเครื่องช็อตไฟฟ้าว่า ปัจจุบันมีการสั่งเข้ามาขายกันอย่างแพร่หลาย โดยเครื่องช็อตไฟฟ้านี้ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทำอันตรายต่อร่างกายและชีวิตคนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ โดยสามารถแปลงกระแสไฟฟ้าได้สูงตั้งแต่ 10,000-300,000 โวลต์ ถึงกับทำให้คนเสียชีวิตได้ จึงมีอานุภาพการทำลายชีวิตสูงเท่ากับอาวุธปืน แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายควบคุมเครื่องช็อตไฟฟ้าเหมือนกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่ห้ามมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองถ้าไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้ครอบครองเครื่องช็อตไฟฟ้าไม่มีความผิด ทำให้พวกมิจฉาชีพหรือคนร้ายนำมาใช้ในการก่อเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ รวมทั้งนำไปใช้กับสตรีทำให้หมดแรงขัดขืนเพื่อข่มขืนได้ง่ายขึ้น ถือว่าเป็นอันตรายมาก แต่เมื่อถูกจับได้มีความผิดแค่พกพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มีโทษปรับพียง 100 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เท่านั้น ดังนั้นจึงเห็นว่าควรจะมีกฎหมายควบคุมเครื่องช็อตไฟฟ้าเช่นเดียวกับอาวุธปืน โดยห้ามมีไว้ในครอบครอง หรือห้ามนำมาจำหน่าย เว้นแต่จะได้รับอนุญาต และกำหนดให้มีบทลงโทษให้เท่ากับการพกพาหรือมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการเพิ่มเติมเครื่องช็อตไฟฟ้าไว้ใน พ.ร.บ.อาวุธปืนด้วย จะสามารถป้องกันพวกมิจฉาชีพหรือคนร้ายนำไปก่อเหตุได้มากขึ้น
15 ปี, คห. 7 ดู 7.84K 1
ข้อมูลหน้าตลาด
FB. 0 ประกาศ 0 คห. 5
ข้อมูลหน้าประมูล
FB. 6 ประกาศ 12 เสนอราคา 38
siamfishing.com © 2024